ASTVผู้จัดการออนไลน์ - ฝนที่ตกติดต่อกันเป็นเวลาหลายวัน ทำให้ระดับน้ำแม่น้ำโขงในกรุงพนมเปญเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงไม่กี่วันมานี้ ดีเปรสชันลูกหนึ่งที่พัดเข้าภาคกลางเวียดนาม ภาคใต้ของลาวเมื่อต้นสัปดาห์ ยังเป็นแรงกดดันที่อาจทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมฉับพลันในพื้นที่เสี่ยงภัยหลายจังหวัด ทางการกัมพูชาได้ออกเตือนให้ฝ่ายต่างๆ เตรียมรับมืออุบัติภัยจากอุทกภัย
กระทรวงทรัพยากรน้ำและอุตุนิยมวิทยา ได้ออกเตือนในวันพฤหัสบดี 19 ก.ย. ให้ 8 จังหวัด -- กระแจ๊ะ (Kratie) สตึงแตร็ง (Stung Treng) รัตนคีรี (Ratanakiri) มณฑลคีรี (Mondulkiri) พระวิหาร อุดรมีชัย เสียมราฐ และกัมปงธม ระวังภัยพิบัติจากน้ำระหว่างวันที่ 18-22 ก.ย.นี้ สำนักข่าวกัมพูชารายงาน
“คาดว่าระดับน้ำในแม่น้ำโขง แม่น้ำโตนเลสาป กับแม่น้ำบัสสักจะสูงขึ้นเรื่อยๆ” สำนักข่าวของรัฐบาลอ้างรายงานของกระทรวงดังกล่าวซึ่งได้กล่าวเตือนไปยังประชาชนทั่วไป ทางการท้องถิ่นต่างๆ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมมาตรการป้องกันอุบัติภัยที่อาจจะเกิดขึ้น
กัมพูชาเป็นทางผ่านของแม่น้ำโขงก่อนจะไหลลงสู่ทะเลจีนใต้ในภาคใต้เวียดนาม หลายปีมานี้เขตที่ราบใหญ่ภาคกลางที่เป็นอู่ข้าวของประเทศมักเกิดอุทกภัยอยู่เนืองๆ อันเนื่องมาจากความเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศในแต่ละปี
ปี 2554 ที่เกิดอุทกภัยครั้งใหญ่ในประเทศไทย และลาวนั้น ในกัมพูชา ก็ไม่ได้รับการยกเว้น มีผู้เสียชีวิตกว่า 200 รายในเหตุการณ์น้ำท่วมในหลายจังหวัดทั่วประเทศ
ดีเปรสชันในทะเลจีนใต้ลูกหนึ่งเคลื่อนเข้าสู่ดินแดนเวียดนาม กับภาคใต้ลาวต้นสัปดาห์นี้ ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 2 คน กับอีก 11 คน ถูกน้ำพัดสูญหาหายไปเมื่อเกิดน้ำป่าไหลหลากใน จ.ดั๊กลัก (Dak Lak) ในเขตที่ราบสูงภาคกลาง
หนังสือพิมพ์เตื่อยแจ๋รายงานในเว็บไซต์ข่าวภาษาเวียดนามวันศุกร์นี้ว่า ใน จ.เหงะอาน (Nge An) ทางภาคกลางตอนบน มีรถยนต์นั่งคันหนึ่งพร้อมผู้โดยสาร 5 คน ถูกน้ำพัดหายไปขณะขับตัดผ่านทางน้ำไหลใต้เขื่อนแห่งหนึ่ง วันพฤหัสบดีที่ผ่านมา.