.
ASTVผู้จัดการออนไลน์ - จนถึงปัจจุบัน รัฐบาลกัมพูชาได้ให้นักลงทุนสัมปทานที่ดินไปประมาณ 1.2 ล้านเฮกตาร์ หรือประมาณ 7.5 ล้านไร่ สำหรับปลูกยางพาราเพื่อผลิตยางส่งออก ตัวเลขนี้อาจจะต่ำกว่าในประเทศเพื่อนบ้านถึงครึ่งต่อครึ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศไทยซึ่งเป็นผู้ส่งออกยางรายใหญ่ แต่สวนยางในกัมพูชานับว่าขยายตัวรวดเร็วมาก
มีการเปิดเผยตัวเลขนี้ในโอกาสนายกรัฐมนตรีกัมพูชาฮุนเซน เดินทางไปเป็นประธานพิธีเปิดโรงงานผลิตยางพาราของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งที่ อ.เซซาน (Sesan) จ.สตึงแตร็ง (Stung Treng) ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ ซึ่งมีพื้นที่ติดชายแดนลาว
บริษัทสุภาคณิกา (Sopheakanika) ทำสวนยางพาราที่นั่นมาตั้งแต่ปี 2548 ด้วยเงินลงทุนทั้งสิ้น 26 ล้านดอลลาร์ รวมทั้งก่อสร้างโรงงานมูลค่า 7 ล้านดอลลาร์ เพื่อผลิตน้ำยาง และยางแผ่นชนิดต่างๆ เพื่อป้อนตลาดในประเทศและส่งออก สำนักข่าวกัมพูชารายงานโดยมิได้กล่าวถึงจำนวนเนื้อที่สวนยางของบริษัทนี้
นรม.กัมพูชา เดินทางไปทำพิธีเปิดโรงงานในวันที่ 14 พ.ค.ที่ผ่านมา และแสดงความพึงพอใจต่อกิจการของบริษัทนี้ รวมทั้งให้คำมั่นรัฐบาลจะสนับสนุนเต็มที่
ยางพารากลายเป็นพืชเศรษฐกิจที่มีศักยภาพสูงมาก เนื่อที่ที่รัฐให้สัมปทานเพื่อทำสวนยาง คิดเป็นประมาณ 80% ของพื้นที่ปลูกพืชเศรษฐกิจ และอุตสาหกรรมการเกษตรของทั้งประเทศ
กระทรวงพาณิชย์ คาดว่าปีนี้จะส่งออกยางได้ประมาณ 15,020 ตัน เพิ่มขึ้น 17% จาก 12,800 ตันเมื่อปีที่แล้ว ขณะที่ต้นยางนับวันเติบโตพร้อมจะให้น้ำยางได้มากขึ้น เชื่อว่าในปี 2563 สวนยางจะสร้างงานให้แก่ราษฎรราว 1.3 ล้านคน สำนักข่าวของรัฐบาลกล่าว.