xs
xsm
sm
md
lg

บริษัทสหรัฐฯ ในอาเซียนเกินครึ่งไม่เชื่อ AEC เกิดได้ในปี 2558

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

<bR ><FONT color=#000033>อเล็กซานเดอร์ เฟลด์แมน (Alexander Feldman) ประธานสภาธุรกิจสหรัฐ-อาเซียน แถลงข่าวในกรุงฮานอย 7 ก.ย.2554 หลังจากนำผู้แทนจากเกือบ 40 บริษัทและกลุ่มธุรกิจชั้นนำของสหรัฐเยือนเวียดนามเป็นเวลา 4 วัน องค์กรนี้ได้พบปะผู้นำระดับสูงประเทศต่างๆ ทั่วภูมิภาค และมีอิทธิพลอย่างสูงต่อการตัดสินของนักธุรกิจอเมริกันในย่านนี้ หอการค้าสหรัฐฯ ในสิงคโปร์ได้สอบถามผู้บริหารระดับอาวุโสของธุรกิจสหรัฐในอาเซียนกว่า 470 คน มากกว่าครึ่งหนึ่งไม่เชื่อว่ากลุ่มนี้จะรวมตัวเป็นประชาคมเศรษฐกิจหนึ่งเดียวได้สำเร็จตามเส้นตายในปี 2558. -- AFP Photo/Hoang Dinh Nam.</b>

เอเอฟพี - กลุ่มธุรกิจสหรัฐฯ ชั้นนำ 2 กลุ่ม ระบุวันนี้ (20) ว่า บริษัทของสหรัฐฯ ที่ดำเนินกิจการอยู่ในชาติสมาชิิกอาเซียน ไม่เชื่อว่าอาเซียนนั้นจะสามารถบรรลุเป้าหมายของกลุ่มที่จะก่อตั้งตลาดเดียวได้ทันเส้นตายในปี 2558

10 ชาติสมาชิกในสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ได้กำหนดให้ปี 2558 เป็นเป้าหมายของกลุ่มในการรวมเป็นตลาดเดียว หรือประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC)

ในการสำรวจผู้บริหารอาวุโสกิจการของสหรัฐฯ 475 คน จากภูมิภาคที่ดำเนินการสำรวจร่วมกันโดยหอการค้าสหรัฐฯ ในสิงคโปร์ และหอการค้าสหรัฐฯ ชี้ว่า 52% ของผู้ถูกสำรวจระบุว่า พวกเขาไม่คิดว่าเป้าหมายการเป็น AEC จะเกิดขึ้นภายในปี 2558 และเกือบ 60% ในกลุ่มนี้คิดว่า อาเซียนจะไม่บรรลุเป้าหมาย AEC จนกว่าปี 2563 หรือหลังจากนั้น

ผลสำรวจชี้ว่า มีเพียง 23% ของผู้บริหารทั้งหมดที่ตอบคำถาม เชื่อว่า อาเซียนจะบรรลุเป้าหมายปี 2558

แม้จะมีความคลางใจในการบรรลุเป้าหมายการเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนก็ตาม แต่การสำรวจยังได้แสดงให้เห็นว่า บริษัทของสหรัฐฯ มีความคิดในแง่บวกเกี่ยวกับโอกาสทางธุรกิจโดยรวมในภูมิภาคอาเซียน

บริษัทของสหรัฐฯ ระบุว่า ระดับของการค้า และการลงทุนในอาเซียนของพวกเขาขยายตัวเพิ่มขึ้นในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา และคาดว่าตัวเลขจะทะยานขึ้นเรื่อยๆ ในอีก 5 ปีข้างหน้า

อินโดนีเซีย ถูกเลือกให้เป็นประเทศที่น่าดึงดูดใจมากที่สุดสำหรับการขยายกิจการใหม่ ตามด้วย เวียดนาม ไทย และพม่า

ขณะเดียวกัน ผลสำรวจระบุว่า ฟิลิปปินส์ เป็นประเทศที่มีการปรับปรุงมากที่สุดในแง่ของสภาพแวดล้อมทางธุรกิจของประเทศระหว่างปี 2551 และปี 2556

อาเซียน เป็นภูมิภาคที่มีประชากรรวมราว 600 ล้านคน ต้องการที่จะสร้างตลาดร่วม และฐานการผลิตเพื่อที่จะสามารถแข่งขันได้ดียิ่งขึ้นกับเพื่อนบ้านยักษ์ใหญ่เช่น จีน และอินเดีย ในแง่ของการค้า และการลงทุน.
กำลังโหลดความคิดเห็น