นายกรัฐมนตรีร่วมงาน หอการค้าสหรัฐฯ เลี้ยงขอบคุณรัฐบาลไทย ปธ.ชมนายกฯ เข้มแข็งฟื้นฟูประเทศจากน้ำท่วมแข็งแกร่ง เป็นเหตุผลสำคัญที่บริษัทอเมริกันยังให้เป็นประเทศน่าลงทุนอันดับต้นๆ เผยเสถียรภาพทางการเมืองกำลังกลับมา ด้าน “ยิ่งลักษณ์” เผยรัฐบาลมุ่งเน้นแก้ไขการเมืองให้มีเสถียรภาพ มุ่งมั่นยุติคอรัปชั่น เปิดโอกาสธุรกิจก้าวสู่เออีซี
วันนี้ (31 ส.ค.) ที่โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางมาร่วมงานเลี้ยงขอบคุณรัฐบาลไทยของหอการค้าอเมริกันในประเทศไทย โดยมีนายโจ แมนนิช ประธานหอการค้าอเมริกันในประเทศไทยให้การต้อนรับ และมีนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์, ม.ร.ว.พงษ์สวัสดิ์ สวัสดิวัตน์ รมว.อุตสาหกรรม, น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที), นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ รมว.แรงงาน, นายปลอดประสพ สุรัสวดี รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และนายเรย์มอนด์ ริชฮาร์ต (Raymond Richhart) อุปทูตสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทย ร่วมงาน
นายแมนนิชกล่าวว่า ในปีที่ผ่านมารัฐบาลเริ่มทำงานภายใต้สภาวะที่ยากลำบาก เนื่องจากเกิดปัญหาอุทกภัย ซึ่งสร้างความเสียหาย และความทุกข์ใจเป็นอย่างมาก แต่ประเทศไทยภายใต้ภาวะการนำของนายกรัฐมนตรีที่เข้มแข็งสามารถทำให้ประเทศไทย ฟื้นฟูได้อย่างแข็งแกร่ง ทั้งที่ประสบปัญหาอุทกภัยในปี 2554 แต่จีดีพีของประเทศในปี 2555 กลับได้รับการคาดว่าจะเติบโตในอัตราร้อยละ 5 ซึ่งพอกับการเติบโตของประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาค การผลิตรถยนต์ในไทยมีแผนจะไปถึง 2 ล้านคัน ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดในประวัติการ และคาดว่าในปี 2555 จะมีนักท่องเที่ยวมากกว่า 20 ล้านคน เข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย
ความสามารถในการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของประเทศไทย เป็นเหตุผลหลักที่บริษัทอเมริกันยังคงถือว่าประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่หน้าลงทุนอันดับต้นๆ ของโลก และแม้ความท้าทายยังจะมีอยู่ แต่เสถียรภาพทางการเมืองก็กำลังกลับมา ซึ่งเป็นสัญญาณการสนับสนุนอีกประการหนึ่งที่บริษัทอเมริกัน พิจารณามาลงทุนในประเทศไทย และผลสำรวจภาพรวมธุรกิจอาเซียนทางหอการค้าอเมริกันยังถือว่าอาเซียนยังเป็นตลาดเศรษฐกิจร่วม และเป็นผู้ส่งสินค้ามายังสหรัฐฯ ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 5 และผลสำรวจชี้ให้เห็นว่าประเทศไทย กำลังถูกท้าทายจากประเทศเพื่อนบ้าน
ในแง่ของการเป็นการลงทุนที่หน้าสนใจของภูมิภาค บริษัทสมาชิกหอการค้าอเมริกัน ยังมีความมุ่งมั่นที่จะลงทุนในไทยโดยผลสำรวจพบว่า ร้อยละ 65 ของบริษัทสมาชิก วางแผนจะขยายการลงทุนในไทยไปจนถึงปีหน้า และภายในสิ้นปี 2555 มีกว่า 700 บริษัท จะมีการลงทุนรวมกัน มากกว่า 4 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ และจะมีการจ้างงานที่มีค่าตอบแทนที่น่าสนใจให้กับคนไทยกว่า 2.5 แสนคน ดังนั้น หอการค้าอเมริกันยืนยันว่ายินดีที่จะร่วมกับรัฐบาลไทย คนไทย สร้างสภาพแวดล้อมให้ไทยยังคงเป็นประเทศที่น่าทำธุรกิจมากที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ธุรกิจสหรัฐฯ ที่ลงทุนในไทยเป็นคู่ค้าลำดับ 3 มีมูลค่าด้านการค้าถึง 35 พันล้านเหรียญสหรัฐ และมีแนวโน้มที่จะสูงขึ้น ซึ่งก็ทราบว่าทางสหรัฐฯ ไม่อยากเป็นอันดับ 3 ตลอดไป ดังนั้นจึงต้องช่วยกันให้เป็นอันดับ 1 ให้ได้ ทั้งนี้ รากฐานของเศรษฐกิจไทย และสถานะทางการเงินมีความเข้มแข็งมาก ทำให้การฟื้นตัวทางด้านเศรษฐกิจเป็นไปได้ด้วยดี หลังประสบอุทกภัย และขณะนี้รัฐบาลได้จัดนิทรรศการการบริหารจัดการน้ำ จึงขอเชิญชวนให้ไปร่วมชมนิทรรศการ เพื่อทำให้เกิดความเข้าใจในการดำเนินงานของรัฐบาลว่ามีความมุ่งมั่นเพียงใด
ด้าน น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวตอนหนึ่งว่า รัฐบาลมุ่งเน้นที่จะแก้ไขสถานการณ์การเมืองให้มีเสถียรภาพ มีความเข้มแข็งตามระบอบประชาธิปไตย ยึดหลักนิติธรรม ความโปร่งใสในการบริหาร มุ่งมั่นยุติการคอร์รัปชัน ความล่าช้าในวงราชการ เน้นประสิทธิภาพ ประสิทธิผลในการบริหารงาน อย่างโปร่งใส พร้อมเปิดโอกาสให้ธุรกิจต่างๆ ที่ประสบความสำเร็จให้ก้าวเข้าสู่เออีซี โดยหวังว่าจะร่วมกันทำงานเพื่อบรรลุเป้าหมายระหว่างไทยและสหรัฐฯ