.
ASTVผู้จัดการออนไลน์ - สาธารณชนชาวเวียดนาม ต่างมีอาการช็อกเกี่ยวกับข่าวที่มีทารกเสียชีวิตถึง 4 รายในช่วงไม่กี่วันมานี้ หลังจากแพทย์ได้ให้วัคซีนป้องกันโรคไวรัสตับชนิดบี (Hepatitis B Vaccine) ตามปกติ ผู้เชี่ยวชาญด้านนี้หลายคนได้เรียกร้องให้ทางการมีคำสั่งให้งดการฉีกวัคซีนดังกล่าวเอาไว้เป็นการชั่วคราวเพื่อสอบสวนหาสาเหตุอันแท้จริง
หลังจากทารก 3 คนแรกเสียชีวิตในโรงพยาบาลแห่งเดียวกันในจังหวัดภาคกลางตอนบนของประเทศ อีกคนหนึ่งได้เสียชีวิตลงในวันจันทร์ 22 ก.ค.ที่ผ่านมา นับเป็นรายที่ 4 ในชั่วเวลาเพียง 3 วัน
แต่กรมการยากระทรวงสาธารณสุข กล่าวในวันเดียวกันว่า ยังไม่ได้รับรายงานเกี่ยวกับเหตุการณ์ต่างๆ ดังกล่าว และเพิ่งจะทราบผ่านสื่อ ซึ่งทำให้สาธารณชนรู้สึกผิดหวัง และออกเรียกร้องให้หยุดการให้วัคซีนดังกล่าวแก่ทารกในทันที ในขอบเขตทั่วไปประเทศ
ในเวียดนาม มีโครงการให้วัคซีน HBV แก่ทารกแรกเกิดในระยะ 24 ชั่วโมงแรกมาเป็นเวลาหลายปีแล้ว และเป็นขบวนการปฏิบัติปกติของหมอ และพยาบาลโรงพยาบาลต่างๆ ทั่วประเทศ วัคซีนดังกล่าววิจัย และผลิตโดยบริษัทเทคโนโลยีไบโอชีวะและวัคซีนแห่งเวียดนาม หรือ VABIOTECH ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข
ทารก 3 คนแรกเสียชีวิตต่อเนื่องกันระหว่างวันที่ 20-21 ก.ค.ที่โรงพยาบาล อ.เหืองหวา (Hướng Hoá) จ.กว๋างจิ (Quảng Trị) มารดา และญาติของทารกเคราะห์ร้ายให้การคล้ายๆ กันว่า หลังจากให้วัคซีนเด็กทั้งหมดมีอาการหายใจติดขัด และลำตัวกลายเป็นเขียวคล้ำ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญลงความเห็นว่า เป็นผลจากการขาดออกซิเจน และสิ้นใจไป
ทางการจังหวัดกว๋างจิ จัดส่งคณะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญลงพื้นที่ในวันอาทิตย์ 21 ก.ค.เพื่อสอบสวนหาข้อเท็จจริง และได้ผลในเบื้องต้นว่า วัคซีนที่ให้แก่เด็กทั้งหมดได้รับจากบริษัท VABIOTECH พร้อมกันในล็อตเดียวกันผ่านหน่วยงานของจังหวัด และทารกเคราะห์ร้ายทั้งสามก็ไม่ใช่รายแรกๆ ที่ได้รับวัคซีนไวรัสบีล็อตนี้
คณะผู้เชี่ยวชาญได้ส่งหนังสือถึงจังหวัด และกระทรวงเสนอให้ยุติการให้วัคซีนแก่ทารกเอาไว้ชั่วคราว เพื่อหาข้อเท็จจริง และสาเหตุต้นตอเพิ่มเติม
.
.
อย่างไรก็ตาม ในบ่ายวันที่ 22 ก.ค. มีทารกอีกรายหนึ่งเสียชีวิตลงที่โรงพยาบาล อ.ตวีฟอมง์ (Tuy Phong) จ.บี่งทวน (Bình Thuận) ในภาคกลางตอนล่าง ข่าวนี้สร้างความตื่นตระหนกให้แก่บรรดาสตรีที่ใกล้คลอดทั้งหลาย รวมทั้งสมาชิกครอบครัวทั่วประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อทางการจังหวัดแถลงผลการสอบสวนในชั้นต้นซึ่งระบุว่า วัคซีนที่ใช้ในโรงพยาบาล จ.บี่งทวน เป็นคนละล็อตกับวัคซีนที่ใช้ใน จ.กว๋างจิ
พญ.หวอถิถวี (Võ Thị Thúy) สูตินรีแพทย์ วัย 27 ปี ซึ่งทำคลอดให้แก่ทารกเคราะห์ร้ายรายล่าสุด ให้สัมภาษณ์ว่า เด็กเกิดเวลาประมาณ 06.00 น.วันที่ 21 ก.ค. พยาบาลได้ให้วัคซีน HBV เวลาประมาณ 10 น. วันเดียวกัน และทารกเสียชีวิตเวลาต่อมา นับเป็นเวลา 22 ชั่วโมง กับ 30 นาทีหลังคลอด ซึ่งไม่เคยพบกรณีเช่นนี้มาก่อน ในขณะที่การสอบสวนในชั้นรายละเอียดยังดำเนินต่อไป
ตอนบ่ายวันที่ 22 ที่ผ่านมา กระทรวงสาธารณสุข ในกรุงฮานอยแถลงว่า ยังไม่ได้รับรายงานเกี่ยวกับการเสียชีวิตของทารกรายล่าสุด หนังสือพิมพ์ไซ่ง่อนเตี๊ยบถิ (Sài Gòn Tiếp Thị) หรือ “ข่าวการตลาดไซ่ง่อน” ในนครโฮจิมินห์ รายงานในวันอังคาร
ประชาคมออนไลน์ในเวียดนามให้ความสนใจการเสียชีวิตของทารกทั้ง 4 ราย ซึ่งยังความโศกเศร้าให้แก่มารดาที่เพิ่งจะคลอด บิดา ตลอดจนญาติของทุกคน ในโอกาสที่ควรจะเป็นช่วงเวลาแห่งความเปี่ยมสุขดังกล่าว
ชาวเวียดนามจำนวนมากที่สามารถเข้าสู่โลกออนไลน์ได้ ต่างเรียกร้องให้รัฐบาลดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างเร่งด่วนเพื่อป้องกันการสูญเสียที่เป็นโศกนาฏกรรมสำหรับครอบครัวชาวเวียดนามทั่วประเทศ.