.
ASTVผู้จัดการออนไลน์ - คลิปที่ฝ่ายต่อต้านรัฐบาลซีเรียนำออกเผยแพร่ปลายเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา ทำให้เกิดคำถามว่า อาวุธที่พวกเขาใช้ยิงเฮลิคอปเตอร์ของฝ่ายรัฐบาลตกไป 1 ลำนั้น ไปจากแหล่งใด มีการถกเถียงเรื่องนี้กันอย่างกว้างขวางในเว็บบล็อกข่าวกลาโหมหลายแห่งตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา และในที่สุด ก็มีการยืนยันว่า มิใช่ขีปนาวุธที่ยึดได้จากคลังแสงฝ่ายรัฐบาล ซึ่งเกือบทั้งหมดเป็นเขี้ยวเล็บที่ผลิตในอดีตสหภาพโซเวียต รวมทั้งที่ซื้อจากรัสเซียในยุคปัจจุบันด้วย
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานก่อนหน้านี้ว่า จรวดแบบพื้นสู่อากาศ (Surface-to-Air Missile) ชนิดประทับไหล่ยิง หรือ MANPADS (Man-Portable Air-Defence Missile System) ที่นักรบฝ่ายต่อต้านยิงเฮลิคอปเตอร์ Mi-8 “ฮิป” ตกที่สนามบินแห่งหนึ่งในซีเรียนั้น เบิกออกไปจากคลังแสงในประเทศตุรกี เป็นจรวดแบบ FeiNu-6 หรือ FN-6 “ธนูบิน” จากจีน
ใกล้ตัวเข้ามาก็คือ เป็นอาวุธต่อสู้อากาศยานชนิดเดียวกันกับที่มีใช้ในกองทัพกัมพูชา ซึ่งไม่ทราบจำนวน
ต่างกันก็คือ ของกัมพูชาเป็นที่ทราบกันทั่วไปว่า “ซื้อกึ่งแจก” จากจีน แต่ของฝ่ายต่อต้านในซีเรียนั้นยังไม่ทราบที่มาที่ไป เพราะว่าเกือบ 2 ปีที่ผ่านมา นับตั้งแต่การสู้รบรุนแรงปะทุขึ้นในซีเรีย ก็แทบจะไม่ปรากฏว่ามีอาวุธของจีนเข้าไปเกี่ยวข้อง
หนังสือพิมพ์เดอะการ์เดียนเคยรายงานเมื่อต้นปี และนำเสนอภาพเหตุการณ์หนึ่งที่ฝ่ายกบฏซีเรียยิงเครื่องบินมิก-19 ของฝ่ายรัฐบาลตกไป 1 ลำ ซึ่งปรากฏว่า เป็นจรวดต่อสู้อากาศยานแบบ SA-16 คือ ใช้จรวดต่อสู้อากาศยานของรัสเซีย ยิงเครื่องบินที่ผลิตในรัสเซียเช่นกัน
ช่วงปีที่ผ่านมา ยังมีอีกหลายคลิปที่แสดงให้เห็นว่า จรวดแบบประทับไหล่ยิงจากรัสเซียหลายนัดยิงพลาดเป้าหมายเช่นกัน
กองทัพกัมพูชา นำจรวด FN-6 ออกอวดเป็นครั้งแรกในเดือน ต.ค.2552 ระหว่างการเดินขบวนสวนสนามฉลองครบรอบปีการก่อตั้งกองพลน้อยที่ 70 ภายในที่ตั้งซึ่งอยู่ชานกรุงพนมเปญ ซึ่งเป็นที่ตั้งของหน่วยทหารพิทักษ์นายกรัฐมนตรีฮุนเซน ก่อนที่หน่วยกำลังนี้จะถูกแยกตัวออกไปในเวลาต่อมา
ฮุนเซนเคยสั่งให้ทหารยิงคนไทยทุกคน ทหารไทยทุกนายที่ล้ำแดน และยิงเครื่องบินกับเฮลิคอปเตอร์ของไทยทุกลำที่บินล้ำแดนกัมพูชา .. นั่นคือในช่วงปีแห่งความตึงเครียดระหว่างกลางปี 2551 จนถึง 2554
ระหว่างการถอนทหารออกจาก “เขตปลอดทหารชั่วคราว” ที่ชายแดนด้านเขาพระวิหารของฝ่ายกัมพูชา เมื่อปีที่แล้ว ยังปรากฏภาพทหารกัมพูชาหลายคนในขบวนแถวสะพายจรวดต่อสู้อากาศยาน FN-6 ให้เห็น เช่นเดียวกับอาวุธต่อสู้รถถังที่ผลิตจากจีนอีกรุ่นหนึ่ง ภาพเหล่านี้เผยแพร่ไปทั่วโลก
จากจีนสู่กัมพูชา-สู่ซีเรีย SinoDefence.Com
1
2
3
4
5
กัมพูชายังคงมีจรวดแบบ SAM-3 ที่ผลิตในสหภาพโซเวียตประจำการอยู่นับร้อยลูก ถึงแม้ว่าหลายปีมานี้ จะถูกกำจัดไปหลายร้อยลูกแล้วก็ตาม ซึ่งเป็นไปตามข้อตกลงกับรัฐบาลสหรัฐฯ และองค์การสหประชาชาติ ที่วิตกว่า อาวุธร้ายแรงเหล่านี้อาจตกถึงมือกลุ่มก่อการร้าย และอาจนำไปใช้ยิงเครื่องบินโดยสารได้
เป็นที่ทราบกันดีว่า กองทัพกัมพูชายังมี MANPADS อีกหลายรุ่น รวมทั้ง SAM-7 ที่ผลิตในสหภาพโซเวียต ซึ่งสามารถใช้ยิงอากาศยานที่บินในระยะต่ำ และมี SAM-3 ระบบจรวดต่อสู้อากาศยานที่บินเพดานสูงและความเร็วสูงอีกด้วย
สำหรับจรวด FN-6 ผลิตโดย China National Precision Machinery Import and Export Corp ซึ่งเป็นหน่วยงานภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงกลาโหม เป็น MANPADS เวอร์ชันส่งออก รุ่นที่ใช้ในกองทัพประชาชนจีนเป็นอีกชื่อหนึ่ง
ยาวตลอดลำประมาณ 1.5 เมตร น้ำหนัก 16 กก. นำพาไปใช้งานในสนามได้สะดวก นำวิถีด้วยอินฟราเรด ยิงได้สูงสุด 3,500 เมตร มีระยะทำการราว 6,000 เมตร อัตราหวังผลราว 70% แต่ก็ถือว่าเป็นระบบจรวดต่อสู้อากาศยานทันสมัยที่สุดอีกรุ่นหนึ่งที่จีนขายให้แก่หลายประเทศ รวมทั้งกัมพูชา มาเลเซีย และซูดานด้วย
ข้อจำกัดของพวกมันก็คือความเร็วต่ำกว่าเสียง ทำให้ไม่สามารถไล่ติดตามเครื่องบินขับไล่เครื่องยนต์ไอพ่นรุ่นใหม่ๆ ได้ทัน เหยื่อของ MANPADS ส่วนใหญ่จึงเป็นพวกอากาศยานปีกหมุนกับเครื่องบินความเร็วต่ำและบินระยะต่ำทั้งหลาย
ยังไม่มีผู้ใดทราบว่า อาวุธรุ่นนี้ไปผ่านช่องทางใดไปบ้าง ก่อนจะตกถึงมือนักรบฝ่ายต่อต้านรัฐบาลซีเรีย แต่คลิปล่าสุดนี้ช่วยยืนยันว่ามันใช้ได้ผลจริง.