เอเอฟพี - พม่าให้คำมั่นว่า ภาคอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซของประเทศเข้าสู่ยุคใหม่ของความโปร่งใส พร้อมเชื้อเชิญนักลงทุนต่างชาติลงทุนในภาคส่วนนี้ หลังการปกครองของรัฐบาลทหารที่ยาวนานหลายทศวรรษถูกกล่าวหาว่าปล้นทรัพยากรธรรมชาติของประเทศ
ในการกล่าวยังที่ประชุมซึ่งมีบริษัทน้ำมันต่างชาติยักษ์ใหญ่หลายรายเข้าร่วมฟังในนครย่างกุ้ง เจ้าหน้าที่จากกระทรวงพลังงานของพม่ากล่าวว่า การประมูลเพื่อสิทธิในพลังงานสำรองที่มีอยู่มากของประเทศจะเป็นไปตามมาตรฐานสากล และระบุว่า ความโปร่งใสนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด
“นั่นเป็นเหตุผลที่รัฐบาลริเริ่มกระบวนการ EITI (Extractive Industries Transparency Initiative)” นายออง กอว์ ถู ผู้ช่วยผู้อำนวยการจากกระทรวงพลังงานกล่าว โดยอ้างถึงโครงการระหว่างประเทศซึ่งจะรับประกันว่า ประชาชนทั่วไปสามารถแบ่งปันผลตอบแทนจากทรัพยากรที่มีอยู่เป็นปริมาณมากของประเทศ
ในขณะที่ประเทศมหาอำนาจในตะวันตกผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตรต่อพม่าตอบสนองต่อการปฏิรูปการเมือง บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านพลังงานของโลกต่างหมายตามายังพม่าที่รุ่มรวยด้วยทรัพยากรน้ำมัน และก๊าซซึ่งมีทำเลที่ตั้งอยู่ระหว่างจีน และอินเดีย แต่อย่างไรก็ตาม ยังมีความหวั่นวิตกว่า พลังงานของพม่าจะตกเป็นเหยื่อของการทุจริตคอร์รัปชัน ดังเช่นสมัยการปกครองโดยทหารที่สิ้นสุดลงในปี 2554
เพื่อให้ตรงกับข้อกำหนดของ EITI พม่าต้องแสดงให้เห็นถึงวิธีการที่ทรัพยากรธรรมชาติจะนำไปสู่การพัฒนาอย่างกว้างขวางต่อประชาชนของประเทศ และจะดำเนินการด้วยความยั่งยืน รวมทั้งการชำระเงินทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับข้อตกลงต่างๆ ต้องเปิดเผยเพื่อตรวจสอบได้อย่างละเอียด
รัฐบาลนักปฏิรูปชุดใหม่ยังวางแผนที่จะเปิดกว้างในภาคส่วนอื่นๆ ให้มากขึ้น เช่น ป่าไม้ อุตสาหกรรม และเหมืองแร่ นายออง กอว์ ถู กล่าวในที่ประชุมที่มีบริษัทพลังงานหลายบริษัทเข้าร่วม รวมทั้งบริษัทโตตาล และบริษัทเชฟรอนที่เป็นผู้สนับสนุนการจัดงานครั้งนี้
กลุ่มบริษัทตะวันตกเพียง 2 ราย ที่ปรากฏตัวในพม่ามาเป็นระยะเวลายาวนานอย่าง โตตาล และเชฟรอน ได้เข้ามาดำเนินกิจการในพม่าก่อนมาตรการคว่ำบาตรจะกำหนดขึ้นและทั้ง 2 บริษัทถูกกล่าวหาว่า เอื้อประโยชน์ต่อรัฐบาลทหาร และปิดหูปิดตาเกี่ยวกับการบังคับใช้แรงงานในประเทศ
ต่างชาติให้ความสนใจในภาคส่วนน้ำมัน และก๊าซของประเทศมากขึ้น หลังจากพม่าเปิดประมูลแหล่งน้ำมันบนฝั่ง 18 แหล่ง เมื่อเดือนที่แล้ว ขณะที่แหล่งน้ำมันนอกชายฝั่งอีกราว 50 แหล่งขึ้นไป คาดว่าจะเปิดประมูลในเดือน เม.ย. และในการเปิดการประชุม นายตาน เท รัฐมนตรีพลังงานให้คำมั่นว่า ประชาชนจะได้รับประโยชน์โดยตรงจากการจัดการอย่างมีประสิทธิภาพในแหล่งทรัพยากรธรรมชาติของประเทศ.