xs
xsm
sm
md
lg

“คาร์ลสเบอร์ก” หวนคืนพม่า ตั้งโรงงานผลิต 100 ล้านลิตรต่อปี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online



รอยเตอร์ - บริษัทผู้ผลิตเบียร์คาร์ลสเบอร์ของเดนมาร์กกำลังหวนคืนสู่ประเทศพม่าอีกครั้งหนึ่ง หลังมาตรการคว่ำบาตรจากนานาชาติที่ทำให้บริษัทต้องถอนตัวออกจากพม่าเมื่อกลางทศวรรษ 1990 ได้ผ่อนคลายลง

บริษัทผู้ผลิตเบียร์รายใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลก ระบุเมื่อวันศุกร์ (1 ก.พ.) ว่า บริษัทได้ลงนามในข้อตกลงกับอดีตหุ้นส่วน คือ บริษัทเมียนมาร์ โกลเด้น สตาร์ บริวเวอรี่ สร้างโรงงานผลิตเบียร์ในพม่าซึ่งคาดว่าปริมาณการบริโภคเบียร์ในประเทศจะเติบโตอย่างรวดเร็ว

“ไม่มีข้อสงสัยว่าที่แห่งนี้จะเติบโตไปอย่างรวดเร็ว จากความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในเวลานี้ และในอนาคต พม่าจะเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูงมาก” ยอร์เกน บูห์ล ราสมุสเซน ประธาน และซีอีโอของคาร์ลสเบอร์ก กล่าวกับสำนักข่าวรอยเตอร์จากพม่า ก่อนพิธีเริ่มต้นการก่อสร้างโรงงานผลิตในนครย่างกุ้งเมื่อวันศุกร์ โดยโครงการร่วมทุนที่คาร์ลสเบอร์กถือสัดส่วนอยู่ร้อยละ 51 นี้ มีมูลค่าการลงทุนอย่างน้อย 50 ล้านดอลลาร์ในช่วงไม่กี่ปีแรก

นับตั้งแต่รัฐบาลกึ่งพลเรือนขึ้นบริหารประเทศในปี 2554 ประธานาธิบดีเต็งเส่งได้ดำเนินการปฏิรูปประเทศหลากหลายประการ เช่น การปล่อยตัวนักโทษการเมือง การยกเลิกข้อจำกัดสื่อ และเริ่มต้นปฏิรูปเศรษฐกิจ ด้วยการออกกฎหมายการลงทุนต่างชาติฉบับใหม่ และปรับเปลี่ยนอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศ ซึ่งบรรดาชาติตะวันตกได้ผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตรที่มีต่อรัฐบาลทหารชุดก่อนเป็นการตอบสนอง

ก่อนหน้านี้ คาร์ลสเบอร์ก และบริษัทเมียนมาร์ โกลเด้น สตาร์ เป็นหุ้นส่วนกันภายใต้ข้อตกลงที่เบียร์คาร์ลสเบอร์กจะถูกนำเข้าจากต่างประเทศ และวางจำหน่ายในพม่า

“เมื่อมาตรการคว่ำบาตรถูกยกเลิก เป็นธรรมดาที่เราจะติดต่อพวกเขาอีกครั้ง” ราสมุสเซน กล่าว

การก่อสร้างโรงงานผลิตแห่งใหม่เป็นก้าวสำคัญในการเพิ่มฐานที่มั่นของคาร์ลสเบอร์กในภูมิภาคเอเชียที่เติบโตอย่างรวดเร็วแห่งนี้ ที่กลายเป็นพื้นที่จำเป็นต่อบรรดาผู้ผลิตเบียร์ระดับโลกที่มองหาการเติบโตเมื่อตลาดยุโรปเริ่มชะลอตัว

ประชากรชาวพม่าราว 60 ล้านคน มีอัตราการดื่มเบียร์เฉลี่ยที่คนละ 4 ลิตรต่อปี ซึ่งอัตราการบริโภคดังกล่าว คาร์ลสเบอร์กคาดการณ์ว่าจะเติบโตขึ้นมากกว่าร้อยละ 7 ต่อปี และเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนใกล้เคียงกับประเทศเพื่อนบ้าน โดยอัตราการบริโภคเบียร์โดยเฉลี่ยของคนไทยอยู่ที่ประมาณคนละ 25 ลิตรต่อปี ขณะที่ประชาชนในลาว เวียดนาม และกัมพูชา อยู่ที่ 30 ลิตรต่อปี

โรงงานผลิตเบียร์แห่งใหม่คาดว่าจะดำเนินการผลิตได้เต็มรูปแบบในปีหน้า ด้วยขนาดการผลิตที่ 100 ล้านลิตรต่อปี และจะขยายขีดความสามารถในการผลิตเพิ่มขึ้นอีกในอนาคต โดยอัตราการบริโภคเบียร์ทั้งหมดในพม่าอยู่ที่ 350 ล้านลิตรต่อปี

คาร์ลสเบอร์กระบุว่า การลงทุนนั้นมีความเสี่ยง แต่สถานการณ์ทางการเมืองในปัจจุบันมีเสถียรภาพ และเชื่อมั่นว่า บริษัทจะดำเนินกิจการด้วยจริยธรรม

ภูมิภาคเอเชียกลายเป็นสมรภูมิแข่งขันของบรรดาบริษัทผู้ผลิตเบียร์รายใหญ่ระดับโลกที่หวังพึ่งพิงตลาดเกิดใหม่ เพื่อชดเชยความต้องการในตลาดยุโรปที่ซบเซา และการแข่งขันในตลาดที่อิ่มตัว.
กำลังโหลดความคิดเห็น