.
ASTVผู้จัดการออนไลน์ - ถ้าหากทุกอย่างเป็นไปตามกำหนดการ เครื่องบินทิ้งระเบิดระยะไกลล้ำยุคที่สุดในโลกปัจจุบัน บี-2 “สปิริต” (B-2 (Spirit) ของกองทัพอากาศสหรัฐฯ จำนวน 2 ลำ ก็จะเข้าประจำการที่ฐานทัพอากาศแอนเดอร์สัน (Anderson Air Force Base) บนเกาะกวม ในมหาสมุทรแปซิฟิกสัปดาห์ปลายเดือน ม.ค.นี้ ซึ่งเป็นไปตามนโยบายหันมาให้ความสนใจต่อผลประโยชน์สหรัฐฯ ในภูมิภาคนี้มากยิ่งขึ้น
กองบัญชาการกองทัพอากาศสหรัฐฯ ภาคพื้นแปซิฟิกออกประกาศเรื่องนี้ในโฮโนลูลู รัฐฮาวาย และข่าวนี้ตีพิมพ์เผยแพร่ใน เว็บไซต์ของฐานทัพอากาศไวท์แมน (Whiteman Air Force Base) ในรัฐมิสซูรี สหรัฐฯ อันเป็น “บ้าน” ของ บี-2
เมื่อปีที่แล้ว เครื่องบินทิ้งระเบิดยุทธศาสตร์ บี-2 จำนวน 3 ลำ จากฐานทัพอากาศไวท์แมนได้บินข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกไปทิ้งระเบิดที่มั่นฝ่ายรัฐบาลเพื่อสนับสนุนฝ่ายกบฏในลิเบีย ซึ่งอดีตประธานาธิบดี พ.อ.มูอัมมาร์ กัดดาฟี จัดการป้องกันการโจมตีทางอากาศอย่างแน่นหนา และทันสมัยที่สุด ทั้ง 2 ลำพร้อมนักบินกับลูกเรือรวม 6 คน บินกลับฐานทัพในสหรัฐฯ อย่างปลอดภัยหลังโจมตีเป้าหมาย โดยใช้เวลาปฏิบัติการราว 25 ชั่วโมง
กองทัพอากาศสหรัฐฯ ระบุในคำแถลงแต่เพียงว่า บี-2 ทั้งสองลำจะประจำการที่เกาะกวม “เป็นการชั่วคราว” เพื่อสนับสนุนกองบัญชาการกองกำลังแปซิฟิก หรือ USPACOM (The United States Pacific Command) ด้วยจุดประสงค์เพื่อการฝึกซ้อมต่างๆ ในภาคพื้น และไม่ได้ให้รายละเอียดอื่นใดอีก
สหรัฐฯ ประกาศแผนการส่งเครื่องบินทิ้งระเบิด บี-2 เข้าสู่เอเชียแปซิฟิกในเดือน พ.ย.ปีที่แล้ว และปลายทางต่อไปอาจจะเป็นออสเตรเลีย ซึ่งเครื่องบินของกองทัพอากาศหลายชนิดจะหมุนเวียนไป “เยี่ยมเยือน” ทวีปใหญ่แห่งนี้บ่อยครั้งยิ่งขึ้น โดยไม่ต้องประจำ
สิงคโปร์เป็นอีก 1 ปลายทางในย่านนี้ที่เครื่องบินทิ้งระเบิดยุทธศาสตร์ทั้ง 3 แบบของสหรัฐฯ จะแวะไป “เยี่ยมเยือน” เป็นระยะๆ เช่นกัน
สหรัฐฯ กล่าวว่า บี-2 เป็นอากาศยานเพียงชนิดเดียวที่ยังไม่มีฝ่ายใดสามารถตรวจจับได้ในปัจจุบัน และเป็นเครื่องบินทิ้งระเบิดระยะไกลเพียงแบบเดียวของโลกที่สามารถขึ้นบินจากจุดใดจุดหนึ่งในสหรัฐฯ เพื่อไปปฏิบัติการในจุดไหนของโลกก็ได้ โดยใช้เวลานับเป็นชั่วโมงเท่านั้น
สำหรับเกาะกวม บี-2 ไม่ใช่สิ่งแปลกปลอม หลายทศวรรษมานี้ ทั้ง บี-2, บี-52 “ป้อมบิน” (Stratofortress) และ บี-1บี “แลนเซอร์” (Lancer) ได้หมุนเวียนไปแวะปรากฏตัวที่นั่นเป็นระยะๆ แต่ต่างไปจากทุกครั้งก็คือ การที่บี-2 ทั้งสองลำไปประจำที่เกาะกวมนั้น เป็นอีกรูปธรรมหนึ่งของนโยบายโยกย้ายกำลังราว 60% ของสหรัฐฯ เข้าสู่เอเชียแปซิฟิกซึ่งเริ่มในปี 2556 นี้
บี-2 ลำหนึ่งเคยประสบอุบัติตกที่ท่าอากาศยานแอนเดอร์สันแห่งเดียวกันนี้ในเดือน ก.พ.2551 หลังขึ้นพ้นรันเวย์เพียงไม่กี่นาที เครื่องบินถูกไฟไหม้เสียหายกลายเป็นซาก กระทรวงกลาโหมสี่งห้าม บี-2 ขึ้นบินทั้งฝูง และใช้เวลาเกือบ 2 เดือนตรวจพิสูจน์ และสอบสวนเรื่องนี้ ก่อนจะประกาศว่า สาเหตุเกิดจากความชื้นสะสมในระบบคอมพิวเตอร์ควบคุม ทำให้การคิดคำนวณผิดพลาด
กวมมีฐานะที่ตั้งทางยุทธศาสตร์สำคัญ เคยเป็นฐานปฏิบัติการของบี-52 ในการทิ้งระเบิดเวียดนามเมื่อ 40 ปีก่อน สนับสนุนบี-52 อีกจำนวนหนึ่งจากฐานทัพอากาศอู่ตะเภาในประเทศไทย หากมองไปยังอีกทิศหนึ่ง กวมอยู่ห่างจากจีนไม่ถึง 3,000 กิโลเมตร ซึ่งนักวิเคราะห์กล่าวว่า สหรัฐฯ กับพันธมิตรในแถบเอเชียตะวันออก และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กำลังพยายามถ่วงดุลจีนที่ขยายอิทธิพลลงสู่ภูมิภาค
กับแร็ปเตอร์เหนือเกาะกวม
ปฏิบัติการทิ้งระเบิดปูพรม
โครงการ $44,000 ล้าน
บี-2 ได้ชื่อเป็นเครื่องบินทิ้งระเบิดระยะไกลทันสมัยที่สุดของโลกในปัจจุบัน มีรูปลักษณ์เฉพาะตัว และเป็นเพียงรุ่นเดียวที่รวมเอาคุณสมบัติดีเด่น 3 ประการเข้าด้วยกัน คือ ขีดความสามารถในการหลบเลี่ยงการตรวจจับ (Stealthiness) ความสามารถในการโจมตีระยะไกล กับการบรรทุกอาวุธได้มาก
นอกจากนั้น ยังใช้นักบินเพียง 1 คน กับผู้ช่วยซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิคอีก 1 คน รวมเป็นทั้งหมด 2 คนเท่านั้น ทุกกลไก และทุกระบบปฏิบัติการควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์
นอกจากคุณสมบัติสำคัญดังกล่าว บี-2 ยังสามารถในการป้องกันตัวเองได้ดีที่สุดในโลก สามารถฝ่าเข้าไปในดินแดนที่มีการป้องกันทางอากาศอย่างรัดกุม และทันสมัยที่สุด โจมตีเป้าหมายได้อย่างปลอดภัย และจนถึงวันนี้ ก็ยังไม่เคยมีระบบป้องกันทางอากาศของชาติใดตรวจจับได้
.
2
3
แต่การศึกษาวิจัยโครงการที่นำไปสู่การผลิตเครื่องบินรุ่นนี้มีมูลค่ากว่า 44,000 ล้านดอลลาร์ ค่าก่อสร้างเมื่อ 15-16 ปีที่แล้ว ตกลำละ 730 ล้านดอลลาร์เศษ เมื่อรวมมูลค่าเครื่องบินกับมูลค่าในการจัดซื้อจัดหาทั้งหมด ทำให้ บี-2 มีราคาเฉลี่ยถึง 2,100 ล้านดอลลาร์ต่อลำ ได้ชื่อเป็นเครื่องบินราคาแพงที่สุดในประวัติศาสตร์
บินด้วยความเร็วเหนือเสียง และบินได้ไกลถึง 11,112 กม. โดยไม่ต้องเติมน้ำมัน หรือ 18,520 กม. ต่อการเติมน้ำมันกลางอากาศ 1 ครั้ง ทำให้เข้าถึงเป้าหมายได้ทุกแห่งในโลกนี้ และ บี-2 ได้พิสูจน์ความสามารถมาหลายครั้ง ตั้งแต่การโจมตีทิ้งระเบิดเซอร์เบียในสงครามโคโซโว สงครามอิรัก อัฟกานิสถาน และการทิ้งระเบิดลิเบียครั้งล่าสุด
ปัจจุบัน กองทัพอากาศสหรัฐฯ มี บี-2 ประจำการกว่า 20 ลำ ด้วยฉายาที่มีความหมายว่า “จิตใจ” หรือ “จิตวิญญาณ” ทุกลำจึงนำหน้าชื่อด้วยคำว่า “สปิริต” ตามด้วยชื่อมลรัฐที่เลือก เช่น สปิริต ออฟ แคนซัส (Spirit of Kansas) หรือสปิริต ออฟ เพนซิลเวเนีย (Spirit of Pennsylvania) ฯลฯ
แต่ด้วยรูปร่างหน้าตาอันสุดประหลาดกับคุณสมบัติในการล่องหนหายตัวอันเป็นเลิศ ทำให้คนจำนวนไม่น้อยเรียกมันว่า “ไอ้ผีหลอก” หรือ “ไอ้ปิศาจ” อันเป็นอีกความหมายหนึ่งของคำว่า “Spirit”
บี-2 บรรทุกอาวุธนิวเคลียร์ และอาวุธปรกติได้เกือบ 22 ตัน สามารถปฏิบัติการได้ในทุกระยะทาง และทุกสภาพอากาศ โจมตีเป้าหมายได้อย่างแม่นยำด้วยอุปกรณ์ทันสมัยที่สุดเท่าที่มีใช้ในปัจจุบัน ทั้งนี้ เป็นรายงานในเว็บไซต์ AirForce-Technology.Com
เมื่อปีที่แล้ว สหรัฐฯ ยังประกาศแผนการส่ง บี-1บี เข้าประจำการในเอเชียแปซิฟิก และเพิ่มจำนวน บี-52 ในภูมิภาค ขณะที่กองทัพเรือมีแผนการทยอยส่ง “หุ่นบินพิฆาต” แบบ X-47B เข้าประจำการในกองเรือแปซิฟิกในปีนี้เช่นกัน ซึ่งรวมทั้งในย่านทะเลจีนใต้ด้วย
ข่าวเกี่ยวกับการส่ง บี-2 ไปประจำการที่เกาะกวมยังออกมาในช่วงเดียวกับที่สำนักข่าวออนไลน์ในจีนโหมประโคมข่าวที่ว่า รัสเซียได้ตกลงขายเครื่องบินทิ้งระเบิดยุทธศาสตร์แบบ ตู-22 (Tu-22M) ให้จีนกว่า 40 ลำ
ตู-22 “แบ็กไฟร์” (Backfire) รุ่น “โมเดิร์น” มีความเร็วเหนือเสียง ถึงแม้จะใช้มานานตั้งแต่ยุคสหภาพโซเวียตในช่วงสงครามเย็น แต่ยังเป็นเครื่องบินทิ้งระเบิดระยะไกลทันสมัยที่สุดอีกรุ่นหนึ่ง พิษสงที่น่าเกรงขามก็คือ จรวดโจมตีเรือระยะไกลที่ทันสมัยที่สุดของรัสเซีย ซึ่งถ้าหากเป็นเช่นนั้นจริง ก็จะเป็นอันตรายต่อกองเรือบรรทุกเครื่องบินสหรัฐฯ ทั้งในแปซิฟิก และในทะเลจีนใต้
อย่างไรก็ตาม ต้นตอของข่าวนี้ไปจากสำนักข่าวกลาโหมออนไลน์ของตะวันตกแห่งหนึ่งที่รายงานโดยอ้าง “รายงานข่าว” และยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการจากฝ่ายใด.
ปิศาจจอมล่องหน
4
5
6
7
8
9
10
11
12