.
วอชิงตัน (รอยเตอร์) 16 ม.ค. - รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ นางฮิลลารี คลินตัน ได้เรียกร้องในวันพฤหัสบดีนี้ ขอให้ทางการลาวทำการสอบสาวนสืบสวนอย่างโปร่งใส กรณีการหายตัวไปของนักเคลื่อนไหวปฏิบัติงานคนสำคัญคนหนึ่ง ซึ่งกลุ่มพิทักษ์สิทธิมนุษยชน เชื่อว่าถูกนำไปกักขังตัวโดยฝ่ายรัฐบาล
“เราห่วงใยอย่างลึกซึ้งต่อความเป็นอยู่ของผู้นำชุมชนลาว สมบัด สมพอน ซึ่งได้หายตัวไปเมื่อหนึ่งเดือนก่อน” นางคลินตันกล่าวในคำแถลงฉบับหนึ่ง
“เราขอเรียกร้องไปยังรัฐบาลลาวให้ดำเนินการสอบสวนสืบสวนอย่างโปร่งใส และกระทำทุกอย่างภายใต้อำนาจของตน เพื่อนำกลับไปยังครอบครัวอย่างปลอดภัย”
คำแถลงส่วนตัวของนางคลินตัน สะท้อนถึงแรงกดดันของสหรัฐฯ ที่เพิ่มมากขึ้นต่อกรณีนายสมบัด ซึ่งกลุ่มพิทักษ์สิทธิมนุษยชนกล่าวว่า หายตัวไปในวันที่ 15 ธ.ค. ในนครเวียงจันทน์ เมืองหลวงของลาว หลังจากมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกให้หยุด ขณะที่เขาขับรถจี๊ปไปจากหน่วยงานพัฒนาที่เขาก่อตั้งขึ้นมา
องค์การฮิวแมน ไรท์ วอทช์ (Human Rights Watch) ซึ่งมีสำนักงานในนครนิวยอร์ก ได้ออกคำแถลงฉบับหนึ่งที่ออกเมื่อเดือนที่แล้ว ระบุว่า สภาพแวดล้อมเกี่ยวกับกรณีนี้ รวมทั้งกล้องวงจรปิดที่บันทึกภาพเอาไว้ แสดงให้เห็นทางการลาวนำตัวนายสมบัดไปกักขัง ถึงแม้เจ้าหน้าที่ลาวจะกล่าวว่า ไม่ทราบเกี่ยวกับที่อยู่ของนายสมบัด ตลอดจนบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการหายตัวของเขาก็ตาม
นายสมบัด ซึ่งอายุ 60 ปี ได้รับรางวัลแม็กไซไซ เมื่อปี 2548 สาขาผู้นำชุมชน เจ้าตัวทำงานส่งเสริมการศึกษา และการพัฒนาในประเทศลาวที่ยากจน ซึ่งรางวัลที่เขาได้รับมักจะถูกเรียกเป็นรางวัลโนเบลแห่งเอเชียอยู่บ่อยๆ
ประเทศคอมมิวนิสต์ที่ไม่มีทางออกทะเลแห่งนี้ ไม่ค่อยอดทนกับฝ่ายที่มีความเห็นไม่ลงรอย เดือนที่แล้ว ได้ขับไล่องค์การพัฒนาจากสวิตเซอร์แลนด์แห่งหนึ่ง ซึ่งได้วิจารณ์ระบอบพรรคการเมืองเดียวในจดหมายที่ส่งถึงบรรดาประเทศผู้บริจาคช่วยเหลือลาว
กระทรวงการต่างประเทศลาวกล่าวเมื่อเดือนที่แล้วว่า ตำรวจจราจรได้เรียกให้นายสมบัดหยุดซึ่งเป็นการตรวจตามปกติ แต่ไม่ทราบเกี่ยวกับกลุ่มผู้ชายที่นำตัวเขาออกไปหลังจากนั้นไม่นาน
“การหายตัวไปของเขาได้สร้างความห่วงใยอย่างยิ่งในครอบครัวของเขา เพื่อนมิตร และเพื่อนร่วมงานในทั่วโลก เราขอเรียกร้องให้มีการนำเขากลับสู่ครอบครัวโดยเร็ว และขอส่งความคิดถึงกับคำอำนวยพรไปไปยังครอบครัว และคนที่เขารักทั้งหลาย” นางคลินตันระบุ
เมื่อเดือน ก.ค.ปีที่แล้ว นางคลินตันได้กลายเป็นรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ คนแรกที่ไปเยือนลาว นับตั้งแต่ปี 2498 เป็นต้นมา และได้ใช้เวลาราว 4 ชั่วโมงพบปะกับบรรดาเจ้าหน้าที่ โดยมุ่งให้ความสำคัญเกี่ยวกับภัยข่มขู่จากวัตถุระเบิดที่ยังไม่ระเบิดที่หลงเหลือจากการทิ้งระเบิดของสหรัฐฯ ที่เกี่ยวข้องกับสงครามเวียดนาม.
.