.
ASTVผู้จัดการออนไลน์ - นายจอร์จ โซรอส (George Soros) เจ้าของฉายา “พ่อมดการเงิน” แอบเดินทางเข้าเวียดนามแบบเงียบกริบ ฉลองเทศกาลคริสต์มาส และพบปะแลกเปลี่ยนความเห็นกับคนในแวดวงเดียวกัน โดยที่สื่อต่างๆ ไม่ได้ระแคะระคาย จนกระทั่งผู้เกี่ยวข้องนำภาพเหตุการณ์ขึ้นโพสต์ในเฟซบุ๊กวันพุธ 26 ธ.ค.
ภาพของนายโซรอส ปรากฏในเฟซบุ๊ก 2 แห่งซึ่งเป็นของนายฟานเติ๊ตทู (Phan Tat Thu) กับนายเลก๊วกวีง (Le Quoc Vinh) สองนักธุรกิจในฮานอย ที่มีโอกาสได้เข้าร่วมการพบปะสนทนากับ “อภิมหาเศรษฐีล้าล้าน” ชาวอเมริกัน ที่ติดอันดับ 22 ในทำเนียบบุคคลร่ำรวยที่สุดในโลก
ภาพเพียง 3 ภาพของนายโซรอสแพร่สะพัดออกไปอย่างรวดเร็ว โดยเจ้าของเฟซบุ๊กอีกคนหนึ่งบรรยายภาพอย่างภาคภูมิใจว่า เป็นการพบปะที่หายาก และรอคอยมานาน
“ครั้งหนึ่งภายใต้พระจันทร์สีน้ำเงิน (Blue Moon- คำเปรียบเทียบ) ผมได้ร่วมทานข้าวกับจอร์จ โซรอส” นายเลก๊วกวีง ประธานและซีอีโอบริษัทเลมีเดีย (Le Media JSC) เขียนเอาไว้ใต้ภาพหนึ่งในสามภาพ ที่เจ้าตัวกับนักธุรกิจอีกหลายคนร่วมวงกับนายโซรอสที่ภัตตาคารหรูแห่งหนึ่งในกรุงฮานอย
เมื่อมีนักท่องเน็ตเข้าไปถามเกี่ยวกับการเยือนครั้งนี้ นายวีงเขียนตอบว่า นายโซรอสไปเวียดนามเพื่อพักผ่อน แต่ก็ออกตัวว่า ตนเองเป็นเพียงแขกคนหนึ่งที่ได้รับเชิญไปร่วมรับประทานอาหารเท่านั้น ไม่ทราบกำหนดการทั้งหมด
นายเติ๊ตทูซึ่งนำภาพถ่ายทั้ง 3 รูปเดียวกันขึ้นโพสต์ในเฟซบุ๊ก มิได้ให้รายละเอียดอื่นใด เพียงแต่ระบุชื่อของเพื่อนนักธุรกิจที่ร่วมโต๊ะอาหารมื้อเย็นกับอภิมหาเศรษฐีในค่ำวันที่ 26 ธ.ค.ที่ภัตตาคารคลับ เดอ โอเรียนตาล (Club de Orientale)
นายโซรอสมีชื่อเสียงมากมายทางด้านการเงิน เป็นเจ้าของเงินกองทุนประเภทเฮดจ์ฟันด์อันใหญ่โตที่เข้าช้อนซื้อ เขาแทรกแซงตลาดเงินของหลายประเทศทั่วโลกในช่วง 20 ปีมานี้ บางครั้งทำให้เศรษฐกิจของประเทศนั้นถึงกับซวนเซ รวมทั้งเหตุการณ์ในปี 2535 ที่เกิดวิกฤตการณ์ทางการเงินในประเทศอังกฤษ
นักวิเคราะห์ด้านการเงินเคยตั้งข้อสงสัยว่า นายโซรอสซึ่งปัจจุบันอายุ 82 ปี อาจจะมีส่วนร่วมในการก่อ “วิกฤตต้มยำกุ้ง” ในประเทศไทยเมื่อปี 2540 ด้วย
นิตยสารฟอร์บจัดโซรอสเป็นบุคคลร่ำรวยอันดับ 22 ของโลก และจนกระทั่งเดือน มี.ค.ปีนี้ ก็ยังเป็นบุคคลที่ร่ำรวยอันดับ 7 ในสหรัฐฯ ปัจจุบัน เป็นประธานมูลนิธิจอร์จ โซรอส ซึ่งเป็นมูลนิธิการกุศลที่มีเครือข่ายปฏิบัติการในทั่วโลก
โซรอสเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงจากสหรัฐฯ คนที่ 2 ที่เดินทางเข้าเวียดนามเพื่อหยุดพักในเทศกาล “วันหยุดยาว” หลังจากปีที่แล้ว มาร์ค ซักเคอร์เบิร์ก (Mark Zuckerberg) ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้ง และเจ้าของเฟซบุ๊ก เดินทางเข้าฮานอย ก่อนจะไปเที่ยวอ่าวฮาลอง และต่อไปยังเมืองซาปาในช่วงเทศกาลคริสต์มาสเมื่อปีที่แล้วพร้อมแฟนสาว ซึ่งต่อมาแต่งงานกัน
การเดินทางเข้าเวียดนามของซักเคอร์เบิร์กเป็นไปอย่างเงียบเชียบเช่นกัน จนกระทั่งแฟนสาวของเขานำขึ้นโพสต์ในเฟซบุ๊ก ภาพ “เศรษฐีขี่หลังควาย” ในซาปา จึงตกเป็นข่าวไปทั่วโลกเช่นกัน.
.