.
ASTVผู้จัดการออนไลน์ - เวียดนามขาดดุลการค้ามานานนับตั้งแต่เปิดประเทศเมื่อกว่า 20 ปีก่อน จะมีก็เพียงปีเดียวในระหว่างทางที่ได้ดุลการค้าเนื่องจากนำเข้าสินค้าทุนลดลงในปีนั้น แต่ปี 2555 การได้ดุลเริ่มเห็นเป็นชิ้นเป็นอันครั้งแรกในรอบ 20 ปี ตัวเลขของกรมใหญ่สถิติ (General Statistics Office) บ่งบอกว่า เวียดนามได้เปรียบดุลการค้า 284 ล้านดอลลาร์
การส่งออกปี 2555 มีมูลค่า 114,631 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 18.3% ขณะที่การนำเข้ามีมูลค่า 114,347 ล้าน เพิ่มขึ้น 7.1% ทั้งนี้เป็นตัวเลขของ GSO
เมื่อปี 2535 เวียดนามได้ดุลการค้า 100 ล้านดอลลาร์ แต่หลังจากนั้น ตัวเลขดุลการค้าเป็นติดลบมาตลอด
นางเลถิมีงถวี (Le Thi Minh Thuy) ผู้อำนวยการแผนกการค้าของ GSO กล่าวว่า การได้ดุลในปีนี้เกิดจากการส่งออกที่ขยายตัวสูงเกือบจะเป็น 2 เท่าของเป้าหมายที่รัฐสภาวางเอาไว้ ในขณะที่การนำเข้าสินค้าลดลงถึง 3 เท่าตัว
เวียดนามได้พยายามรักษาตลาดส่งออกเดิมเอาไว้อย่างแน่นเหนียว ซึ่งรวมทั้งตลาดยุโรป แม้ว่าปีนี้สภาพเศรษฐกิจโลกโดยรวมจะย่ำแย่ลงก็ตาม
ปีนี้ ยุโรปได้เป็นตลาดส่งออกใหญ่ที่สุดของสินค้าเวียดนาม โดยมีมูลค่า 20,300 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 25% เทียบกับปีที่แล้ว ตามด้วยตลาดสหรัฐฯ 19,600 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 15.6% ตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 17,200 ล้านดอลลาร์ เพิ่ม 27.1% และตลาดญี่ปุ่น 13,000 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 21.4%
สถิติยังชี้อีกว่า การส่งออกปี 2555 นี้ สินค้าที่ผลิตโดยการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ หรือ FDI (Foreign Direct Investment) เติบโตถึง 31.2% มูลค่ารวม 72,298 ล้านดอลลาร์ และสินค้าที่ผลิตจากการลงทุนภายในประเทศมีมูลค่า 42,330 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นเพียง 1.32% จากปีที่แล้ว
ปีนี้มีสินค้าจำนวน 19 จากทั้งหมด 29 รายการ ที่มีมูลค่าส่งออกตั้งแต่ 1,500 ล้านดอลลาร์จนถึงกว่า 15,000 ล้านดอลลาร์
เสื้อผ้าสำเร็จรูป กับผลิตภัณฑ์สิ่งทออื่นๆ มีมูลค่า 15,350 ล้านดอลลาร์ ขยายตัว 7.1% โทรศัพท์และชิ้นส่วนมูลค่า 12,644 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นมูลค่าที่อัตราเพิ่มถึง 97.7% คอมพิวเตอร์และอีเล็กทรอนิกส์ 7,882 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 69.1% และน้ำมันดิบ 8,400 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 15.9%
สินค้าบางรายการที่มูลค่าส่งออกเติบโตสูงเมื่อปีที่แล้วกลับลดลงในปีนี้ รวมทั้งยางพาราลดลง 12.6% อันเนื่องมาจากความผันผวนของราคาตลาดโลก กับถ่านหินซึ่งลดลง 22.8% จากนโยบายของรัฐที่ให้ลดปริมาณการส่งออก
ในด้านการนำเข้าก็เช่นกัน ปีนี้สินค้าสำคัญหลายรายการมีมูลค่าลดลง ลดลงมากที่สุดก็คือ น้ำมันสำเร็จรูป และผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมอื่นๆ ที่มีมูลค่า 8,894 ล้านดอลลาร์ (9.119 ล้านตัน) ลดลง 10% และ 14.6% ตามลำดับ ตัวเลขของ GSO ระบุ
อย่างไรก็ตาม สินค้านำเข้าสำคัญอีกหลายรายการมีมูลค่าเพิ่มขึ้น รวมทั้งคอมพิวเตอร์กับชิ้นส่วน ยานพาหนะ และสินค้าผ้าผืนกับเส้นใยชนิดต่างๆ ที่มีอัตราเพิ่ม 66.8%, 43.9% และ 4.7% ตามลำดับ
สินค้าที่นำเข้าโดยโครงการลงทุนในประเทศมีมูลค่ารวม 54,900 ล้านดอลลาร์ ลดลง 6.7% แต่สินค้าที่นำเข้าโดยโครงการลงทุนของต่างชาติมีมูลค่ารวม 60,388 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 23.5% จากเมื่อปีที่แล้ว
จีนเป็นประเทศที่เวียดนามนำเข้าสินค้ามากที่สุด รวมมูลค่า 28,900 ล้านดอลลาร์ เทียบกับมูลค่าที่เวียดนามส่งออกไปยังประเทศนี้เพียง 12,200 ล้านดอลลาร์ GSO ระบุ.