.
ASTVผู้จัดการออนไลน์ - มีประกาศรับสมัครงานชิ้นหนึ่งที่สร้างความฮือฮาในหมู่คนหางานในเวียดนามสัปดาห์ที่ผ่านมา เป็นงานที่เสนอค่าจ้างดีที่สุดในโลกอีกงานหนึ่งทีเดียว แต่ดูไม่ค่อยมีใครสนใจมากนัก เพราะดูไร้ศักดิ์ศรี และต่ำต้อย ยังไม่มีการตั้งชื่องานกับตำแหน่งงานด้วยซ้ำ แต่ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องจริงที่มีคุณค่าทางวิทยาศาสตร์ หรืออย่างน้อยก็ด้วยความเชื่อที่มีมาแต่โบราณกาล
“รับจ้างดมตด” จึงเป็นชื่อเรียกทั่วไปของงาน ซึ่งคนทั่วไปอ่านพบแล้วจะหัวเราะด้วยความขบขันมากกว่าจะสนใจไปสมัคร
ทำเป็นเล่นไป.. “นายจ้าง” รายหนึ่งในเมืองหนานจิงของจีน เสนอค่าจ้างสำหรับผู้สมัครงานที่ประสบความสำเร็จ เทียบเท่าปีละกว่า 50,000 ดอลลาร์
ตามรายงานในเว็บไซต์ “ร็อกเก็ตนิวส์ 24” ผู้คนในวงการแพทย์แผนโบราณ และยาทางเลือก จำนวนไม่น้อยเชื่อว่า ก๊าซที่มนุษย์ปล่อยออกมาทางทวารหนักนั้นไม่ใช่ “ของเสีย” ไปทั้งหมด หากยังมีหลายส่วนเป็นประโยชน์ทางการแพทย์ และสามารถใช้ในการบำบัดโรคร้ายแรงได้หลายชนิด ซึ่งทั้งหมดนี้ยังไม่ได้รับการรับรองจากการแพทย์แผนปัจจุบัน
“ตด” มีสารประกอบหลายชนิด และแตกต่างกันออกไป ตั้งแต่มีกลิ่นฉุนธรรมดาๆ จนเหม็นหึ่ง กลิ่นคาวๆ และหลายคนอาจจะไม่ชื่อว่ายังมี “ตดหอม” ที่ทำให้สดชื่น สามารถนำไปใช้บำบัดด้วยกลิ่น (Aromatherapy) ในคนไข้รายที่มีอาการความเครียดระดับรุนแรงได้ผลดีอีกด้วย
แต่ “นายจ้าง” ในเมืองหนานจิง ที่เข้าใจกันว่าเป็นผู้นำในวงการแพทย์แผนโบราณผู้หนึ่งที่มีเครือข่ายคลินิกด้านนี้ในหลายมณฑล กำลังสร้าง “ผู้เชี่ยวชาญ” เพื่อไปดม “ตด” ของคนไข้ เพื่อวินิจฉัยโรคแทนการใช้ยา หรือสารเคมี ซึ่งอาจจะเป็นอันตรายต่อคนไข้ และทำให้เกิดการต่อต้านขึ้นในร่างกาย ส่งผลให้การตรวจไม่ได้ผล หรือผิดเพี้ยน
ยกตัวอย่างเช่น “ตด” ที่มีกลิ่นผิดปกติเอามากๆ นั้น ไม่ได้เกิดจากอาหารที่เจ้าของรับประทานเข้าไปเพียงอย่างเดียว หากยังเกิดจากโรคร้ายบางชนิด ซึ่งรวมทั้งการตกเลือดในลำไส้ และมะเร็งในลำไส้ใหญ่อีกด้วย
ผลการวิจัยของผู้เชี่ยวชาญแห่งโรงพยาบาลจงต่า (Zhongda Hospital) ในหนานจิง ได้พบว่า ก๊าซไฮโดรเจนซัลฟาย (ก๊าซไข่เน่า) ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญในลมที่คนผายออกมามีคุณสมบัติทางยาช่วยรักษาผู้ป่วยความดันโลหิตต่ำได้ แต่ก็ยังไม่เคยมีการนำไปใช้ และประการสำคัญที่สุดก็คือ จะมีคนไขสักกี่รายที่จะเต็มใจรับการรักษาด้วยการ “ดมตด” ของคนอื่น
ตามรายงานของร็อกเก็ตนิวส์ 24 นักวิทยาศาสตร์จำนวนหนึ่งในจีนได้เคยศึกษาหาวิธีฝึกสุนัขให้ดมแทน โดยอาศัยความสามารถพิเศษของเจ้าตูบ ที่ช่วยให้ตำรวจทั่วโลกตรวจค้นหาวัตถุระเบิดรวมทั้งยาเสพติดประสบความสำเร็จมานานหลายทศวรรษแล้ว การวิจัยได้พบว่า สุนัขที่ฝึกมาอย่างดีช่วยดมพิสูจน์ผู้ป่วยมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้ผลถึง 97%
อย่างไรก็ตาม “กลิ่น” ของก๊าซไฮโดรเจนซัลฟาย เป็นสาเหตุสำคัญทำให้การดมของสุนัขผิดเพี้ยนได้ ขณะที่จมูกของมนุษย์มีความสามารถในการแยกแยะกลิ่นได้ดีกว่าจมูกของสุนัขเสียอีก และในการตรวจหาอาการของโรคในผู้ป่วยฉุกเฉินบางกรณี เป็นขั้นตอนที่ไม่อาจผิดพลาดได้เลย
เพราะฉะนั้น โฆษณารับสมัครงานที่ปรากฏในสื่อจีน และในเวียดนามจึงเป็นเรื่องที่น่าเชื่อถือ นายจ้างเชิญชวนให้ผู้สนใจที่มีอายุระหว่าง 18-45 ปี ส่งภาพถ่าย และชีวประวัติโดยละเอียด รวมทั้งประวัติทางด้านสุขภาพ ฯลฯ ไปยังที่อยู่ในจีน หากได้รับพิจารณาจะมีการนัดหมาย และเจ้าหน้าที่จากจีนจะเดินทางไปสัมภาษณ์ถึงกรุงฮานอย
คุณสมบัติสำคัญที่สุดก็คือ ผู้สมัครจะต้องไม่เคยป่วยรุนแรงด้วยโรคเกี่ยวกับจมูก ไม่เคยติดเชื้อทางจมูก ไม่เป็นหวัดบ่อยๆ ไม่สูบบุหรี่ และไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และการลงโฆษณารับสมัครในทั้งสองประเทศนี้ได้แสดงให้เห็นความต้องการเน้นไปที่ “จมูก” ของชาวตะวันออก หรืองานนี้จะไม่ได้รับความสนใจจากชาวเกาหลีกับชาวญี่ปุ่น หรือค่าจ้างอาจจะแพงกว่านี้อีกเท่าตัว
ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ.. ผู้ผ่านการคัดเลือกยังจะต้องเข้าฝึกอบรมอีกยาวนาน ต้องผ่านการ “สอบใหญ่” ข้อเขียนอีกด้วยจึงจะได้เป็นผู้เชี่ยวชาญในการ.. ดมตด.