เอเอฟพี - นางอองซานซูจี ผู้นำฝ่ายค้านพม่า เรียกร้องอินเดียอย่างมองแง่ดีมากเกินไปต่อการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองที่เกิดขึ้นในพม่า ก่อนเดินทางเยือนอินเดียครั้งแรกในรอบ 25 ปี ในวันนี้ (13 พ.ย.) จากที่เคยเยือนอินเดียครั้งล่าสุดในปี 2530
นางซูจี ที่เคยเป็นนักศึกษาในกรุงนิวเดลี ที่มารดาของนางเคยทำหน้าที่เป็นเอกอัครราชทูตประจำอินเดีย ได้ให้สัมภาษณ์ในหนังสือพิมพ์ถึงความเสียใจของนางต่อความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลอินเดีย และอดีตรัฐบาลเผด็จการทหารพม่าที่กักบริเวณนางในบ้านพักก่อนปล่อยตัวเป็นอิสระในปี 2553
นางซูจีได้รับคำเชิญจากรัฐบาลอินเดียให้เดินทางเยือนประเทศในความพยายามที่จะรื้อฟื้นความสัมพันธ์กับนาง หลังจากที่ครั้งหนึ่ง รัฐบาลอินเดียซึ่งเคยให้การสนับสนุนนางกลับเปลี่ยนท่าทีหันไปสนับสนุนรัฐบาลเผด็จการทหารในช่วงกลางทศวรรษ 1990
นางซูจีกล่าวว่า เป็นเรื่องน่าเศร้าที่รัฐบาลอินเดียตัดสินใจให้การสนับสนุนรัฐบาลเผด็จการทหาร แม้ว่าท่าทีดังกล่าวจะไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจก็ตาม
“ฉันคิดว่านอกจากคำว่าน่าผิดหวัง เสียใจควรจะเป็นคำที่ฉันจะใช้อธิบายความรู้สึก เพราะฉันมีความผูกพันส่วนตัวกับอินเดีย และเพราะความใกล้ชิดที่มีอยู่ระหว่างประเทศ” นางซูจี กล่าวกับหนังสือพิมพ์ เดอะ ฮินดู
นายกรัฐมนตรีมานโมฮัน ซิงห์ ได้เดินทางเยือนพม่าเมื่อเดือน พ.ค. ในความพยายามที่จะกระชับความสัมพันธ์ทางการค้า และต่อต้านการขยายอิทธิพลของจีนในภูมิภาคนี้
รัฐบาลอินเดีย และรัฐบาลพม่าได้ลงนามข้อตกลง 12 ฉบับ ที่ครอบคลุมรอบด้านไม่ว่าจะเป็น ความปลอดภัย การพัฒนาพื้นที่พรมแดน การค้า และการคมนาคม แต่ซูจีระบุว่า อินเดียไม่ควรมองแง่ดีเกินไปจากการพัฒนาที่เกิดขึ้นเมื่อไม่นานนี้ในพม่า ควรมองให้เห็นในสิ่งที่เกิดขึ้นตามความเป็นจริง ควรสนับสนุนในสิ่งที่จำเป็นต้องสนับสนุน และการมองในแง่ดีเกินไปนั้นไม่ได้ช่วยอะไร
ซูจียอมรับว่า นักธุรกิจมองหาโอกาสในฝั่งตรงข้ามพรมแดนด้านตะวันออกของอินเดียเพื่อแข่งขันกับจีน และซูจีย้ำว่า การลงทุนควรจะดำเนินการในทางที่ถูกต้อง
ซูจี มีกำหนดเข้าพบหารือกับนายกรัฐมนตรีอินเดียในวันพุธ (14) รวมทั้งขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ที่ในพิธีรำลึกถึงนายเยาวหราล เนห์รู หลังจากนั้น ในวันศุกร์ (16) ซูจีจะเดินทางไปเยี่ยมชมวิทยาลัยสตรีศรีราม ที่ซูจีจบการศึกษาด้านรัฐศาสตร์.