เอเอฟพี/เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์-นายกรัฐมนตรีมันโมฮัน ซิงห์ เผยในวันพุธ (24) โดยย้ำว่า เศรษฐกิจของอินเดียสมควรจะเติบโตได้อย่างน้อย 8 เปอร์เซ็นต์ต่อปี ไม่ว่าเศรษฐกิจของโลกจะมีสภาพย่ำแย่เพียงใดก็ตามหวังใช้กำลังซื้อภายในประเทศช่วยขับเคลื่อน
ท่าทีล่าสุดของนายกรัฐมนตรีอินเดีย วัย 80 ปีมีขึ้น หลังจากที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ)ออกมาคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจแดนโรตีที่เคยเติบโตเป็นตัวเลขเกือบ 2 หลักระหว่างปี 2005-20011 อาจมีการขยายตัวได้เพียง 4.9 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นในปีนี้ หลังเผชิญปัจจัยเชิงลบทางเศรษฐกิจหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นอัตราดอกเบี้ยที่สูง วิกฤตหนี้สินในยุโรป การส่งออกที่ชะลอตัว รวมถึงภาวะการลงทุนที่ซบเซา ตลอดจนความไม่เชื่อมั่นของต่างชาติต่อทิศทางนโยบายของอินเดีย และปัญหาการทุจริต
“การเติบโตทางเศรษฐกิจของเราควรจะต้องอยู่ในระดับ 8.0-8.5 เปอร์เซ็นต์ในทุกๆปีไม่ว่าสภาพเศรษฐกิจโลกจะเป็นเช่นใด เราจะต้องเรียนรู้ที่จะว่ายน้ำด้วยตัวของเราเอง และเราต้องว่ายให้ไวพอด้วยกำลังของเรา ไม่ว่าคลื่นลมจะรุนแรงมากเพียงใด” นายกรัฐมนตรีซิงห์แถลง
ซิงห์ซึ่งก้าวขึ้นมาครองอำนาจตั้งแต่เดือนพฤษภาคมปี 2004 ย้ำว่า อินเดียจะต้องหันมาสร้างการเติบโตโดยเน้นไปที่ศักยภาพของกำลังซื้อของชนชั้นกลางภายในประเทศ โดยระบุ การกระตุ้นความต้องการจำนวนมหาศาลจากภายในประเทศจะทำให้เศรษฐกิจของอินเดียเกิดการเติบโตได้อย่างยั่งยืน โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งความต้องการในตลาดโลกที่มีการผันผวนขึ้นลงตามภาวะเศรษฐกิจตลอดเวลา
ทั้งนี้ ข้อมูลของธนาคารโลกระบุว่า อินเดียซึ่งมีจำนวนประชากรมากเป็นลำดับที่ 2 ของโลกด้วยจำนวนมากกว่า 1,200 ล้านคนถือเป็นประเทศที่มีขนาดของเศรษฐกิจใหญ่เป็นลำดับที่ 10 ของโลกในแง่ของจีดีพี แต่ใหญ่เป็นลำดับที่ 3 ของโลกหากพิจารณาในแง่ของกำลังซื้อ
