xs
xsm
sm
md
lg

นายกฯ รัสเซีย “เมดเวเดฟ” ทวงถามอู่จอดเรือรบอ่าวกามแรง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

 <bR><FONT color=#000033>นายกรัฐมนตรีรัสเซียดิมิตรี เมดเวเดฟ สนทนากับ นรม.เวียดนามเหวียนเติ๋นยวุ๋งหลังพิธีต้อนรับอย่างเป็นทางการที่จัดขึ้นในกรุงฮานอยวันที่ 7 พ.ย.ที่ผ่านมา นายเมดเวเดฟไปเยือนเวียดนามหลังร่วมการประชุมผู้นำเอเชีย-ยุโรปในนครเวียงจันทน์ของลาววันที่ 5-6 พ.ย. หนึ่งในประเด็นร้อนที่หารือกันในกรุงฮานอยก็คือ ผลักดันความตกลงที่เวียดนามจะให้รัสเซียสร้างอู่จอดและซ่อมบำรุงเรือรบที่อ่าวกามแรง ฐานทัพเก่าของสหภาพโซเวียตซึ่งคือรัสเซียในอดีต. -- AFP PHOTO.  </b>
.

ASTVผู้จัดการออนไลน์ - รัสเซีย และเวียดนามกำลังจะเปิดเจรจาเกี่ยวกับการจัดตั้งอู่จอด และฐานซ่อมบำรุงเรือรบของรัสเซียที่อ่าวกามแรง (Cam Ranh) ของเวียดนาม หลังจากที่สองฝ่ายบรรลุความตกลงในเรื่องนี้แล้ว อันเป็นหนึ่งในความร่วมมือด้านกลาโหมของทั้งสองประเทศ

นายกรัฐมนตรีดิมิตรี เมดเวเดฟ (Dmitri Medvedev) ได้แสดงความหวังว่าแผนความร่วมมือนี้จะดำเนินการได้โดยเร็ว สำนักข่าวอิตาร์ทาส รายงาน

นายเมดเวเดฟเดินทางเยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการวันที่ 7 พ.ย.ที่ผ่านมา ในโอกาสที่เดินทางไปร่วมการประชุมเอเชีย-ยุโรป ครั้งที่ 9 (ASEM 9) ที่จัดขึ้นในนครเวียงจันทน์ เมืองหลวงของลาววันที่ 5-6 พ.ย.ที่ผ่านมา

ในเดือน พ.ย.2522 สหภาพโซเวียตรัสเซียในอดีตได้เซ็นสัญญาเช่าอ่าวใน จ.นีงทวน (Ninh Thuan) ของเวียดนาม เป็นที่จอด และซ่อมบำรุงเรือรบกับเรือดำน้ำของกองเรือแปซิฟิกเป็นเวลา 25 ปี แต่ได้ถอนออกไปก่อนกำหนดเมื่อปี 2545

อ่าวกามแรง (คัมราน) เป็นฐานทัพเรือทันสมัยของสหรัฐฯ ในช่วงสงครามเวียดนาม รวมทั้งเป็นที่ตั้งของฐานทัพอากาศ สหภาพโซเวียตใช้ที่นั่นเป็นฐานทัพนอกประเทศแห่งที่ 2 ในเอเชียแปซิฟิก ถัดจากที่เมืองวลาดิวอสตอก ในภาคตะวันออกไกล

อย่างไรก็ตาม โซเวียตได้เริ่มถอนเรือรบออกไปจากที่นั่นตั้งแต่ปี 2532 และถอนออกไปทั้งหมดในเดือน พ.ค.2545 เวียดนามประกาศใช้อ่าวแห่งนี้แห่งนี้ในทางพลเรือน โดยแยกฐานทัพออกจากท่าเรือพาณิชย์ และเปิดใช้เป็นท่าเรือนานาชาติมาตั้งแต่เดือน ธ.ค.2552

หมายความว่า เรือของต่างชาติทุกประเทศสามารถแวะเข้าไปใช้ประโยชน์ท่าเรือในอ่าวอันเป็นทำเลดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลกได้

กฎหมายของเวียดนามในปัจจุบันไม่อนุญาตให้ตั้งฐานทัพของต่างชาติในดินแดนเวียดนามได้ แต่รัสเซียกำลังเจรจาเพื่อขอตั้งฐานซ่อมบำรุงของตนเองโดยเฉพาะเพื่อประโยชน์ทั้งทางกิจการพลเรือน และการทหาร การเจรจาเรื่องนี้ดำเนินมาหลายรอบ

รัสเซียยังมีพันธะสัญญาที่จะต้องสร้างฐาน และอู่ซ่อมบำรุงเรือดำน้ำให้แก่ฝ่ายเวียดนาม สำหรับเรือดำน้ำโจมตีเร็วชั้นคิโล (Kilo-Class) ที่เวียดนามซื้อจากรัสเซียจำนวน 6 ลำ ซึ่งลำแรกมีกำหนดส่งมอบในปี 2555 นี้ จำนวนที่เหลือจะทยอยส่งมอบปีละลำ

สหภาพโซเวียตเป็นผู้สนับสนุนรายใหญ่ที่สุดของเวียดนามในการทำสงครามกับสหรัฐฯ ตามข้อมูลของฝ่ายเวียดนาม ในช่วงดังกล่าว โซเวียตส่งอาวุธยุทโธปกรณ์ไปช่วยคอมมิวนิสต์เวียดนามจำนวนมหาศาล รวงมทั้งรถถังหลากหลายรุ่นตั้งแต่ที-34 จนถึง ที-54 รวมประมาณ 2,000 คัน ปืนครก 7,000 กระบอก เฮลิคอปเตอร์กว่า 100 ลำ.
.
 <bR><FONT color=#000033>นายทหารเรือโซเวียตกับนายทหารเรือเวียดนามร่วมกันถ่ายภาพกับเรือดำน้ำของโซเวียตที่อ่าวกามแรง นั่นคือช่วงหลังจากสงครามเวียดนามสิ้นสุดลงแล้ว โซเวียตเซ็นสัญญาเช่าอ่าวแห่งนี้ทำเป็นฐานทัพนอกประเทศเพียงแห่งเดียวในยุคสงครคามเย็น รัสเซียในวันนี้กำลังพยายามอย่างยิ่งที่จะกลับไปใช้ที่นั่นอีก แต่จะไม่เหมือนเดิม. -- ภาพ: Bao Dat Viet [FILE].  </b>
<bR><FONT color=#000033>ในยุคหนึ่งนี่คือเครื่องบินทิ้งระเบิดยุทธศาสตร์ที่น่าเกรงขามของโซเวียตที่ฐานทัพอากาศอ่าวกามแรง ในเดือน พ.ย. 2522 (หลังเกิดเหตุการณ์ สงครามสั่งสอน จีน-เวียดนามตอนต้นปี) คอมมิวนิสต์เวียดนามให้โซเวียตเช่าอ่าวแห่งนี้ทำเป็นฐานทัพนอกประเทศใหญ่ที่สุด ราวกับเป็นการตอบแทนที่โซเวียตช่วยเวียดนามทำสงครามกับสหรัฐ. -- ภาพ: Bao Dat Viet [FILE].  </b>
กำลังโหลดความคิดเห็น