เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์- สื่อต่างประเทศรายงาน พลเรือเอก แซม เจ. ล็อคเคลียร์ ที่ 3 ผู้บัญชาการ “กองเรือแปซิฟิก” ของสหรัฐฯ เผยระหว่างเดินทางเข้าพบเจ้าหน้าที่ระดับสูงในรัฐบาลชุดปัจจุบันของไทย ภายใต้การนำของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตรที่กรุงเทพฯ เมื่อวันอังคาร (16) โดยยืนยันสหรัฐฯ ต้องการกลับเข้ามามีบทบาทในเอเชีย-แปซิฟิกอีกครั้ง ภายใต้การยึดมั่นในบริบท “แห่งความกลาง” เป็นของภูมิภาค ขณะที่ข้อมูลของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯระบุ แม่ทัพเรือรายนี้เป็นขุนศึกมือดี ผู้มีบทบาทสำคัญในการโค่นล้มซัดดัม ฮุสเซนแห่งอิรัก และมูอัมมาร์ กัดดาฟีแห่งลิเบียมาแล้ว
รายงานข่าวซึ่งอ้างข้อมูลจาก “ซัน เฮรัลด์” หนังสือพิมพ์เก่าแก่ ซึ่งก่อตั้งในมลรัฐมิสซิสซิปปี ของสหรัฐฯ ตั้งแต่ปี ค.ศ.1884ระบุว่า ล็อคเคลียร์ วัย 57 ปีซึ่งเป็นนายพลระดับ 4 ดาวของกองทัพเรือสหรัฐฯ ได้ยืนยันระหว่างเดินทางเข้ามาพบเจ้าหน้าที่ระดับสูงของไทยแบบเงียบๆว่า รัฐบาลวอชิงตันภายใต้การนำของประธานาธิบดีบารัค โอบามาต้องการให้สหรัฐฯกลับเข้ามามีบทบาทในเอเชีย-แปซิฟิกอีกครั้ง แต่ยืนยันว่า การเข้ามาของสหรัฐฯจะยึดมั่นอยู่บนความเป็นกลางของดินแดนต่างๆในภูมิภาค รวมถึงไทย และสหรัฐฯจะไม่เข้าไปแทรกแซงความขัดแย้งใดๆ ในภูมิภาคแห่งนี้ รวมถึง ปัญหาข้อพิพาทระหว่างจีนกับหลายประเทศเกี่ยวกับการอ้างกรรมสิทธิ์เหนือหมู่เกาะพิพาทในทะเลจีนใต้ รวมถึงความขัดแย้งที่คล้ายคลึงกันระหว่างจีนและญี่ปุ่นในทะเลจีนตะวันออก
“เราขอยืนยันว่า รัฐบาลอเมริกันให้ความสำคัญกับเอเชีย-แปซิฟิกเป็นอย่างมาก และเราต้องการเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของภูมิภาคนี้ โดยจะไม่มีการแทรกแซงหรือเข้าข้างฝ่ายใดในความขัดแย้งที่เกิดขึ้น” ผู้บัญชาการกองเรือภาคพื้นแปซิฟิกของสหรัฐฯกล่าว
อย่างไรก็ดี ล็อคเคลียร์ซึ่งเดินทางเยือนประเทศไทยเป็นที่หมายแรกๆนับตั้งแต่ได้รับการแต่งตั้งจากกองทัพเรือสหรัฐฯ ให้เข้ามาคุมกองบัญชาการภาคพื้นแปซิฟิกเมื่อ 9 มีนาคม ไม่เปิดเผยรายละเอียดใดๆเกี่ยวกับการเดินทางเยือนไทยครั้งนี้ ท่ามกลางกระแสข่าวที่ระบุว่า การเยือนของเขาอาจเกี่ยวข้องกับความพยายามของรัฐบาลโอบามาในการขอใช้ “สนามบินอู่ตะเภา” เพื่อวัตถุประสงค์ต่างๆ ซึ่งหนึ่งในนั้น คือ โครงการศึกษาสภาพภูมิอากาศของสำนักงานบริหารอวกาศและการบินแห่งชาติสหรัฐฯ (นาซา)
ทั้งนี้ ตามฐานข้อมูลของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ (เพนตากอน) ระบุว่า พลเรือเอกแซม ล็อคเคลียร์ที่ 3 ถือเป็นหนึ่งในแม่ทัพเรือที่ได้รับความไว้วางใจสูงสุดจากอดีตประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู.บุช และประธานาธิบดีบารัค โอบามา โดยนายพลระดับ 4 ดาวผู้นี้เป็นหนึ่งในผู้อยู่เบื้องหลังแผนการบุกอิรัก เพื่อโค่นล้มประธานาธิบดีซัดดัม ฮุสเซนเมื่อเดือนมีนาคม ปี 2003 รวมถึง เป็นผู้วางแผนปิดล้อมทางทะเลและทางอากาศต่อลิเบีย จนนำไปสู่การโค่นอำนาจของมูอัมมาร์ กัดดาฟี ผู้นำลิเบีย เมื่อปีที่แล้วภายใต้ปฏิบัติการ “Operation Odyssey Dawn”
