เอเอฟพี - เหตุต่อสู้นองเลือดระหว่างชุมชนในพื้นที่ทางตะวันตกของพม่าเสี่ยงที่จะพัฒนาเป็นการก่อการร้ายติดอาวุธ รัฐบาลพม่าระบุวานนี้ (1 พ.ย.) หลังพบอาวุธปืนประกอบเองถูกใช้ในการต่อสู้ครั้งล่าสุด
รัฐบาลระบุว่า ปืน 180 กระบอกถูกยึดได้ระหว่างเกิดเหตุความขัดแย้งระลอกใหม่ระหว่างชาวพุทธ และมุสลิมในรัฐยะไข่ ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายสิบคน และย่านที่อยู่อาศัยถูกเผาทำลาย นอกจากนั้น ยังจับกุมประชาชนจำนวนหนึ่งที่ต้องสงสัยว่าเป็นผู้ผลิตอาวุธ
“การปะทะกันระหว่างสองชุมชนมีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนจากความไม่สงบทั่วไปเป็นการก่อการร้ายติดอาวุธ หลังกองกำลังรักษาความปลอดภัยถูกโจมตีด้วยอาวุธปืน” คำแถลงฉบับหนึ่งของรัฐบาลพม่าระบุอยู่บนเว็บไซต์ของประธานาธิบดีเต็งเส่ง นอกจากนั้น คำแถลงยังระบุว่า ทั้งท้องถิ่น และองค์กรระหว่างประเทศมีส่วนเกี่ยวข้องในความขัดแย้ง แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติม
ความไม่ลงรอยยาวนานหลายทศวรรษระหว่างชาวพุทธ และชนกลุ่มน้อยมุสลิมโรฮิงญาปะทุขึ้นในเดือน มิ.ย. หลังเหตุการณ์ฆ่าขมขืนหญิงชาวยะไข่ ที่จุดชนวนการต่อสู้แก้แค้นกันไปมาหลายระลอก
หน่วยงานผู้ลี้ภัยของสหประชาชาติระบุว่า การปะทะกันครั้งล่าสุด ส่งผลให้ผู้คนมากกว่า 32,000 คนต้องหลบหนีออกจากที่อยู่ของตัวเอง และนับตั้งแต่การต่อสู้ครั้งแรกจนถึงเวลานี้ มีผู้ไร้ที่อยู่แล้ว 75,000 คน.