xs
xsm
sm
md
lg

นายกฯ เวียดนามยอมรับข้อผิดพลาดทางเศรษฐกิจ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

<br><FONT color=#000033>นายกรัฐมนตรีเหวียน เติ๋น ยวุ๋ง ของเวียดนาม กล่าวรายงานเศรษฐกิจต่อที่ประชุมรัฐสภา ระหว่างพิธีเปิดการประชุมประจำปีครั้งที่ 2 ในกรุงฮานอย วันที่ 22 ต.ค. -- AFP PHOTO/Hoang Dinh Nam. </font></b>

เอเอฟพี - นายกรัฐมนตรีของเวียดนามยอมรับวันนี้ (22 ต.ค.) ว่า รัฐบาลของเขาดำเนินการผิดพลาดในการดูแลเศรษฐกิจที่ประสบปัญหาของประเทศ ในการวิพากษ์วิจารณ์ตัวเองครั้งล่าสุดของรัฐบาลระบอบคอมมิวนิสต์

นายกรัฐมนตรีเหวียน เติ๋น ยวุ๋ง กล่าวในการเปิดประชุมรัฐสภาว่า เหตุอื้อฉาว ความไร้ประสิทธิภาพ และความสูญเสียอย่างใหญ่หลวงในกิจการของรัฐ เช่น บริษัทต่อเรือวีนาชิน ได้ทำลายความเชื่อมั่นของประชาชน

“ผมตระหนักถึงความรับผิดชอบทางการเมืองของผม และข้อบกพร่องของผม เราได้เรียนรู้บทเรียนของเรา” นายกฯยวุ๋ง กล่าว

นายกฯยวุ๋ง วัย 62 ปี รอดพ้นจากบทลงโทษในการประชุมพรรคคอมมิวนิสต์เมื่อสัปดาห์ก่อนเกี่ยวกับเหตุอื้อฉาวที่สั่นคลอนตำแหน่งผู้นำประเทศ และในความพยายามที่จะเบี่ยงเบนความสนใจจากบรรดาเสียงวิพากษ์วิจารณ์ทางอินเทอร์เน็ตที่เพิ่มมากขึ้น พรรคได้ประกาศตำหนิการทำงานของตัวเอง

นายกฯยวุ๋ง อดีตผู้ว่าการธนาคารกลางที่ได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเป็นสมัยที่ 2 เมื่อเดือน ก.ค.2554 ถูกมองว่า เป็นนายกรัฐมนตรีที่ทรงอำนาจมากที่สุดเท่าที่เคยมีมา ยวุ๋งใช้อิทธิพลของตัวเองผลักดันการเติบโตเศรษฐกิจไปอย่างรวดเร็ว และการพัฒนาประเทศในรูปแบบกลุ่มบริษัทขนาดใหญ่ หรือแชโบลของเกาหลีใต้ ที่พึ่งพารัฐวิสาหกิจขนาดใหญ่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ

แต่บริษัทวีนาชิน ที่เกือบล้มละลายเพราะเหตุอื้อฉาวในปี 2553 ทำให้ความสนใจพุ่งมายังปัญหาการเงินของบรรดารัฐวิสาหกิจขนาดใหญ่ของรัฐ ขณะเดียวกัน การจับกุมนายธนาคารมหาเศรษฐีที่เป็นพันธมิตรกับยวุ๋ง เมื่อเดือน ส.ค. ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนในประเทศ และกระทบการหมุนเวียนของเงินฝาก

เวียดนามในเวลานี้ต่อสู้อยู่กับเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ภาวะเงินเฟ้อ การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศลดลง และความหวั่นเกรงเกี่ยวกับปัญหาหนี้เสียในระบบธนาคารที่อ่อนแอของประเทศขยายตัวขึ้น

นายกฯยวุ๋ง มุ่งเป้าไปที่หนังสือพิมพ์ออนไลน์ และเว็บบล็อกที่เผยแพร่สิ่งที่ยวุ๋งเรียกว่า “ข้อมูลทางลบ” เกี่ยวกับเศรษฐกิจ โดยเรียกร้องให้ลงโทษผู้ที่ใช้ประโยชน์จากอินเทอร์เน็ตบ่อนทำลายประเทศเหล่านี้ และตามคำสั่งดังกล่าว ทำให้ทางการดำเนินการปราบปรามบรรดาบล็อกเกอร์ด้วยโทษจำคุกอย่างรุนแรง.
กำลังโหลดความคิดเห็น