.
ASTVผู้จัดการออนไลน์ - ทางการกัมพูชาได้จับกุมหญิงสาวชาวไทย 2 คน หลังค้นพบโคเคนน้ำหนักรวม 11 กิโลกรัมซุกอยู่ในกระเป๋าเดินทางที่ท่าอากาศยานเสียมราฐอังกอร์ เมืองเสียมราฐ ทั้งสองคนเดินทางไปจากประเทศบราซิล สำนักข่าวกัมพูชารายงาน
น.ส.ญาณวรรณ นพวรพันธุ์ (สะกดตามอักขระ) อายุ 20 ปี กับ น.ส.เชยพร อรพรรณ (สะกดตามอักขระ) วัย 26 ปี พกโคเคน 6.4 และ 5 กก.ตามลำดับ เดินทางเข้ากัมพูชาโดยผ่านประเทศสิงคโปร์ สำนักข่าวของรัฐบาลรายงานอ้างการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ระดับสูงคนหนึ่งในหน่วยงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดให้โทษ
ซึ่งในขณะนี้ หน่วยงานดังกล่าวกำลังจัดเตรียมเอกสารส่งฟ้องศาล
หากพบว่ากระทำความผิดจริง หญิงสาวทั้งสองอาจจะมีโทษสูงสุดถึงจำคุกตลอดชีวิต (กฎหมายกัมพูชาไม่มีโทษประหารชีวิต) และสำนักข่าวแห่งนี้กล่าวอีกว่า ช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา ตำรวจได้จับกุมผู้ต้องหาได้จำนวนหนึ่ง ซึ่งขนยาบ้ากับโคเคนเข้าไทยโดยเดินทางผ่านกัมพูชา
หลายปีมานี้ กัมพูชาได้กลายเป็นทางผ่านสำคัญของยาเสพติดนานาชนิด ที่ผ่านมาจับยึดได้ทั้งของกลางที่เป็นยาเสพติดสำเร็จรูป คือ เฮโรอีน โคเคน ยาไอซ์ ยาอี ฯลฯ กับสารตั้งต้น และอุปกรณ์ในการผลิตยาบ้า ทางการกวดขันการทุจริตในหมู่เจ้าหน้าที่ระดับสูง ซึ่งเมื่อปีที่แล้ว มีการจับกุมนายตำรวจใหญ่ 2 คน รวมทั้งยศพลตำรวจตรีรวมอยู่ด้วยคนหนึ่งฐานค้าเสพติดเสียเอง
การจับกุมในกัมพูชาได้ยืนยันว่า มีหญิงสาวชาวไทยจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักเรียนนักศึกษาตกเป็นเครื่องมือของแก๊งค้ายาเสพติดข้ามชาติที่มีชาวแอฟริกันเป็นหัวหน้าใหญ่ และนิยมขนจากประเทศบราซิล หรือขนต่อจากบางประเทศในแอฟริกาตะวันตกเป็นหลัก
ปลายเดือนที่แล้ว ตำรวจนครโฮจิมินห์จับกุมหญิงสาวชาวไทยคนหนึ่ง หลังพบยาเสพติดซุกซ่อนอยู่ในอัลบั้มรูปภาพที่ซุกอยู่ในกระเป๋าเดินทาง เธอเดินทางไปจากบราซิล และนำกระเป๋าไปมอบให้แก่หญิงสาวชาวไทยอีกคนหนึ่งที่เดินทางไปจากประเทศไทย เตรียมจะขนต่อไปยังประเทศไทยในขบวนการอันเดียวกัน ตำรวจเวียดนามจึงจับกุมไปอีกคน
ตามกฎหมายเวียดนาม ผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดมีโทษสูงสุดถึงประหารชีวิต
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ศาลอุทธรณ์เวียดนามได้พิพากษายืนยันคำพิพากษาของศาลชั้นต้นนครโฮจิมินห์ที่ให้ประหารชีวิตนักโทษยาเสพติดที่เป็นนักศึกษาสาวชาวไทยคนหนึ่งซึ่งถูกจับเมื่อปีที่แล้ว ขณะขนเฮโรอีนกับยาเสพติดชนิดอื่นๆ จากประเทศเบนินไปยังเวียดนาม ซึ่งจะมีคนรับช่วงขนต่อไปอีกทอดหนึ่ง
ตามระบบของเวียดนาม ผู้กระทำเกี่ยวกับยาเสพติดจะไม่ได้รับการอภัยโทษ และประเทศนี้ได้เริ่มใช้การฉีดสารพิษในการประหารนักโทษขั้นสูงสุด แทนการยิงเป้า ถึงแม้ว่าหลายปีมานี้จะยังไม่เคยมีการลงโทษประหารชีวิตเลยก็ตาม.