ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ตำรวจสงขลา จับ 2 ผัวเมียใจโหด วางแผนฆ่าแฟนหลานสาว จับฉีดยาสลบ และใช้เชือกรัดคอยัดใส่รถเก๋งพาไปทิ้งบ่อดินลูกรัง เหตุไม่พอใจที่คบหากัน
เมื่อเวลา 11.00 น. วันนี้ (9 ม.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจภูธร ภาค 9 พล.ต.ท.พิสิฎฐ์ พิสุทธิ์ศักดิ์ ผบช.ภ.9 พล.ต.ต.ชินทัต มีศุข รอง ผบช.ภ.9 พล.ต.ต.ประเสริฐ จันทร์สว่าง รอง ผบช.ภ.9 พล.ต.ต.สุวิทย์ เชิญศิริ ผบก.ภ.จว.สงขลา ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุม นายเอกพล จันอิ อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 201/1 ม.4 ต.คลองแห อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา และ น.ส.สุกัญญา จันอิ อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 9 ม.11 ต.เขาพระ อ.รัตภูมิ จ.สงขลา สองผัวเมียผู้ต้องหาในคดีร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และร่วมกันลักทรัพย์ หลังจากที่ได้เข้ามอบตัวต่อตำรวจพร้อมทนายความ
โดยทั้งสองคนตกเป็นผู้ต้องหาร่วมกันฆ่า นายสิทธิพงศ์ คงช่วย อายุ 26 ปี โดยการฉีดยาสลบ และใช้เชือกรัดคออย่างโหดเหี้ยม และนำศพใส่รถเก๋งยี่ห้อฮอนด้า ซีวิค สีดำ ทะเบียน กย 5537 สงขลา ไปทิ้งไว้บริเวณทางเข้าบ่อดินลูกรัง พื้นที่ ม.7 ต.พะวง อ.เมือง จ.สงขลา เหตุเกิดเมื่อวันที่ 12 ธันวาคมปีที่แล้ว เวลาประมาณ 20.00 น. เนื่องจากไม่พอใจที่ นายสิทธิพงศ์ ไปคบหาเป็นแฟนกับ น.ส.อลิตา หมัดเจริญ ซึ่งเป็นหลานสาว จึงได้วางแผนฆ่า โดยมีผู้ร่วมลงมืออีกหนึ่งคนคือ ด.ต.สุรินทร์ เกื้อมี ซึ่งเป็นน้าชายของทั้งสองคน ตำรวจกำลังอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติออกหมายจับ
สำหรับคดีนี้จากการชันสูตศพผู้ตายพบว่า มีร่องรอยถูกทำร้ายรัดคอ และมีร่องรอยการฉีดสารพิษเข้าร่างกาย และเจ้าหน้าที่ได้ขยายผลจากโทรศัพท์ของ นายสิทธิพงศ์ ผู้ตาย โดยพบว่า ก่อนเกิดเหตุได้ติดต่อกับ น.ส.อลิตา แฟนสาว และทราบว่าก่อนหน้านี้ผู้ตายมีปัญหาขัดแย้งกับครอบครัวของแฟนสาว เนื่องจากถูกกีดกันไม่ให้คบหากัน
และทางชุดสืบสวนได้ทำการสืบสวนจนทราบว่า วันเกิดเหตุ น.ส.สุกัญญา ได้ใช้โทรศัพท์ของ น.ส.อลิตา หลานสาว ติดต่อหลอกให้ผู้ตายมารับ น.ส.อลิตา ที่บ้านพักของ น.ส.สุกัญญา เลขที่ 9 ม.11 ต.เขาพระ อ.รัตภูมิ โดยมีทั้ง น.ส.สุกัญญา นายเอกพล สามี และ ด.ต.สุรินทร์ เกื้อมี น้าชายรออยู่ ก่อนที่จะร่วมกันรุมทำร้ายผู้ตายโดยการฉีดยาสลบ และใช้เชือกรัดคออย่างโหดเหี้ยมจนเสียชีวิต และจับใส่รถเก๋งของผู้ตาย จากนั้น ด.ต.สุรินทร์ จึงขับรถเก๋งไปทิ้งไว้บริเวณทางเข้าบ่อดินลูกรัง ในพื้นที่ ม.7 ต.พะวง อ.เมือง จ.สงขลา อย่างไรก็ตาม จากการสอบสวนทั้งสองผัวเมียยังให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
