xs
xsm
sm
md
lg

เศรษฐกิจเวียดนามไตรมาสที่ 3 ขยายตัว 5.5-5.6%

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

<bR><FONT color=#000033>ผู้ใช้รถใช้ถนนและยวดยานต่างๆ ติดหนึบบนถนนสายหนึ่งของกรุงฮานอยอันเนื่องจากมีการก่อสร้าง สภาพเช่นนี้พบเห็นได้ทั่วไปในเมืองใหญ่ต่างๆ เช่น ฮานอยและนครโฮจิมินห์ แต่เศรษฐกิจเริ่มโงหัวอีกครั้งหนึ่ง หลังจากธนาคารแห่งรัฐควบคุมเงินเฟ้อจนอยู่หมัด อัตราการเติบโตในไตรมาสที่ 3 ที่จะสิ้นสุดลงในเดือน ก.ย.นี้อาจจะสูง 5.5-5.6% ตัวเลขมหภาคและจุลภาคออกมาดีหมด ยกเว้นหนี้ที่ไม่ก่อไม่เกิดรายได้ที่ธนาคารแห่งต่างๆ กำลังเร่งจัดการ. --  AFP Photo/Hoang Dinh Nam.</b>
.

ฮานอย (รอยเตอร์) - เศรษฐกิจเวียดนามอาจขยายตัวระหว่าง 5.5-5.6% ในไตรมาส 3 ที่กำลังจะสิ้นสุดลงในเดือน ก.ย.นี้ สื่อของทางการรายงาน ในขณะที่บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือฟิทช์ เรทติ้ง (Fitch Rating) กล่าวในวันศุกร์ 7 ก.ย.ว่า เวียดนามกำลัง “จัดการ” กับความท้าทายต่างๆ ทางเศรษฐกิจ และคาดว่าเศรษฐกิจจะเติบโตราว 5% ในปีนี้ เทียบกับ 5.89% เมื่อปีที่แล้ว

เศรษฐกิจเวียดนามขยายตัวช้าลงในปีนี้ หลังจากรัฐบาลเปลี่ยนนโยบายเมื่อต้นปี หันไปควบคุมการปล่อยสินเชื่อเพื่อช่วยควบคุมเงินเฟ้อ บรรดาธนาคารที่กำลังต่อสู้กับหนี้สินที่เสื่อมสภาพก็ปรับลดการปล่อยกู้ลงเพื่อสะสางบัญชีให้ลงตัว ส่งผลกระทบต่อธุรกิจต่างๆ ที่แสวงหาแหล่งทุนเพื่อขยายกิจการ

ในไตรมาสแรก อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจอยู่ที่ 4% เทียบกับช่วงเดียวกันปีที่แล้ว และในไตรมาสที่ 2 อัตราสูงขึ้นเป็น 4.66%

“ในขณะที่เศรษฐกิจจะต้องแข็งแกร่งขึ้น ก็มีความเคลื่อนไหวอันเป็นบวก” หนังสือพิมพ์อีโคโนมิคไทม์ส (Economic Times) ของกระทรวงวางแผนและการลงทุนกล่าว

ประธานาธิบดีเวียดนามเจืองเติ๋นชาง (Troung Tan Sang) กล่าวต่อที่ประชุมสุดยอดกลุ่มความร่วมมือเศรษฐกิจเอเชียแปซิฟิก หรือ APEC ในรัสเซีย (วลาดิวอสตอก) ระบุว่า “เรากำลังพยายามทำให้เศรษฐกิจจุลภาคของเรามีความมั่นคง ธำรงการเติบโตอย่างยั่งยืน และปฏิบัติตามแผนแม่บทในการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ”

ฟิทช์กล่าวในรายงานว่า เวียดนาม “กำลังจัดการกับความท้าทายจากความกดดันด้านเงินเฟ้อที่หนักหน่วง จัดการกับสถานะดุลการชำระเงินที่บอบบาง และความอ่อนแอในแขนงการธนาคาร ด้วยความกระฉับกระเฉงยิ่งกว่า”

เงินตราต่างประทศสำรองของเวียดนามเพิ่มสูงขึ้นเป็น 20,800 ล้านดอลลาร์ในสิ้นเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา จาก 14,100 ล้านดอลลาร์ในเดือน ธ.ค.2554 อัตราเงินเฟ้อเดือน ส.ค.ลดลงเหลือ 5.04% ต่อปี เป็นอัตราต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือน ธ.ค.2552 ทั้งนี้เป็นรายงานของรัฐบาล

แต่ฟิทช์กล่าวว่า แขนงการธนาคาร “ยังคงเป็นต้นตอแห่งความเสี่ยง อันเนื่องมาจากอัตราหนี้สินที่ไม่ก่อรายได้ที่เพิ่มสูงขึ้น” ฟิทช์ไม่ได้ให้ตัวเลขมูลค่าหนี้สินเสื่อมสภาพ
.
<bR><FONT color=#000033>ผู้ใช้รถใช้ถนนขับผ่านธนาคารแห่งรัฐเวียดนาม (State Bank of Vietnam) ในภาพวันที่ 6 ก.ค.2555 ซึ่งในเดือน ส.ค.ที่ผ่านมาธนาคารกลางได้อนุญาตให้แบงก์พาณิชย์และสถาบันปล่อยกู้ต่างๆ สามารถขยายเพดานขึ้นได้ถึง 27% หลังสั่งให้รัดเข็มขัดมาตั้งแต่ต้นปีเพื่อจัดการปัญหาเงินเฟ้อ เศรษฐกิจเวียดนามเริ่มโงหัวขึ้นได้อีกแล้วในไตรมาสที่ 3 ปีนี้ สื่อของทางการรายงาน. -- AFP Photo/Hoang Dinh Nam.</b>
<bR><FONT color=#000033>แม่ค้าขายแท่งถ่านสำหรับหุงต้มปั่นจักรยานผ่านรถยนต์หรูลัมบอร์กินีในย่านใจกางกรุงฮานอย วันที่ 6 ก.ค.2555 เศรษฐกิจเวียดนามโงหัวขึ้นในไตรมาสที่ 3 ปีนี้ แต่ช่องว่างระหว่างคนรวยกับคนจนก็ห่างกันมากขึ้นทุกทีๆ นับตั้งแต่ประเทศคอมมิวนิสต์เริ่มหันมาใช้เศรษฐกิจแบบตลาดในช่วงต้นทศรววรษที่ 1990 เป็นต้นมา. --  AFP Photo/Hoang Dinh Nam.</b>
.
ธนาคารกลางของเวียดนามประมาณการหนี้ไม่ก่อรายได้จนถึงสิ้นเดือน มี.ค. เอาไว้ที่ 8.6% คิดเป็นประมาณ 2 เท่าของตัวเลขที่เผยแพร่ก่อนหน้านั้น และเมื่อเดือนที่แล้ว ธนาคารกลางได้อนุญาตให้สถาบันเงินกู้ต่างๆ ขยายเพดานขึ้นถึง 27% จากที่เคยจำกัดเอาไว้ 17% ในความพยายามขยายสินเชื่อ และกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ

การใช้จ่ายเงินงบประมาณในเดือน ส.ค.เพิ่มขึ้นถึง 24-25 ล้านล้านด่ง (1,150-1,200 ล้านดอลลาร์) จากเฉลี่ย 18-18 ล้านล้านด่งต่อเดือนในครึ่งแรกของปี เวียดนามอีโคโนมิคไทม์สกล่าว

การบริโภคภายในสามารถที่จะกระเตื้องขึ้นได้อีกในสิ้นปี โดยมีแรงหนุนจากการขยายสินเชื่อในเศรษฐกิจ ธนาคารฮ่องกงและเซี่ยงไฮ้ (HSBC) ระบุในรายงานชิ้นหนึ่งเมื่อวันอังคาร

เงินเฟ้อในเดือน ส.ค. มีอัตรา 0.65% เพิ่ม 0.05% จากเดือน ก.ค. และ 0.1% จากเดือน มิ.ย. แต่อัตราเฟ้ออาจจะสูงขึ้นในเดือนสุดท้ายของปีนี้ รายงานระบุโดยอ้างข้อมูลของรัฐบาล

คณะกรรมการที่ปรึกษาด้านการเงินแห่งชาติคาดว่า เงินเฟ้อตลอดปีนี้จะอยู่ระดับ 6% ต่ำกว่าตัวเลขที่รัฐบาลระบุล่าสุด 7% หนังสือพิมพ์ฉบับเดียวกันกล่าว

ดัชนีผู้บริโภค (Consumer Price Index) ในปี 2554 เพิ่มขึ้นสูงเกือบ 19% เทียบกับ 9.19% ในปีก่อนหน้านั้น และอัตราเฉลี่ย CPI อาจจะลดลงเหลือเพียง 8.4% ในปีนี้ หลังจากที่เคยทะยานขึ้น 8.6% ในปี 2554.
กำลังโหลดความคิดเห็น