xs
xsm
sm
md
lg

อิเหนาเปลี่ยนแผน หันไปพึ่ง F-16 สลัด Su-30 ซบสหรัฐฯ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

<bR><FONT color=#000033>เครื่องบิน Su-30MK2 กองทัพอากาศอินโดนีเซีย ขณะบินเข้าฝูงกับ F/A-18/F ซูเปอร์ฮอร์เน็ต ของออสเตรเลียระหว่างฝึกซ้อม Pitch Back 2012 ปลายเดือนที่แล้วที่เมืองดาร์วิน อินโดนีเซียประกาศในสัปดาห์นี้ยกเลิกแผนการซื้อตระกูลซูคอยทั้งหมด หันไปพึ่ง F-16C/D จำนวน 24 ลำ กับ K-FX ที่ร่วมกับเกาหลีวิจัยและผลิตอีกราว 50 ลำในช่วง 10 ปีข้างหน้า เท่ากับสลัดการพึ่งพาเครื่องบินรบของค่ายรัสเซียอย่างสิ้นเชิง ปัจจุบันอินโดนีเซียมี Su-27/30 รุ่นต่างๆ รวม 10 ลำ เป็นชาติที่สามในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ถัดจากเวียดนามกับมาเลเซีย. -- ภาพ: ข่าวกลาโหมออสเตรเลีย.</b>
.

ASTVผู้จัดการออนไลน์ - กระทรวงกลาโหมอินโดนีเซีย ได้ประกาศล้มเลิกแผนการจัดซื้อเครื่องบินรบ Su-30 จากรัสเซียทั้งหมด โดยอ้างงบกลาโหมลดลง และสร้างความหวังว่า สหรัฐฯ จะขาย F-16 ที่ใช้แล้วจำนวน 24 ลำ พร้อมอัปเกรดให้ นอกจากนั้น อินโดนีเซียเองยังร่วมลงทุนโครงการพัฒนาเครื่องบิน K-FX เทคโนโลยี “สเตลธ์” กับเกาหลี ทั้งหมดนี้ จะทำให้กองทัพอากาศมีเครื่องบินเพียงพอต่อความต้องการในอีก 20 ปีข้างหน้า

อินโดนีเซีย ประกาศในปลายปี 2553 จะซื้อ SU-30 MK2 จากรัสเซียอีก 6 ลำ เพื่อให้มีครบฝูงในแผนการจัดซื้อเครื่องบินจากรัสเซียเกือบ 200 ลำ ตลอด 20 ปีข้างหน้า การตัดสินใจครั้งนี้ เท่ากับยกเลิกแผนการเดิมทั้งหมด สำนักข่าว Lenta.Ru ในรัสเซียรายงาน ตอกย้ำข่าวของเว็บไซต์ FlightGlobal.Net ในสัปดาห์นี้

ปัจจุบัน อินโดนีเซียมีเครื่องบินตระกูลซูใช้งานจำนวน 10 ลำ เป็น Su-30MK/MK2 จำนวน 5 ลำ และ Su-27SK/SKM อีก 5 ลำ โดยแผนการเดิมจะอัปเกรด Su-27 ทั้งหมดขึ้นเป็น Su-30MK2

ทำเนียบประธานาธิบดีสหรัฐฯ ออกคำแถลง หลังจากประธานาธิบดีสหรัฐฯ บารัค โอบามา ไปร่วมประชุมผู้นำเอเชียแปซิฟิกที่เกาะบาหลีในเดือน พ.ย.ปีที่แล้ว ระบุว่า พร้อมจะขาย F-16C/D จำนวนดังกล่าวให้แก่อินโดนีเซีย โดยบริษัทล็อคฮีดมาร์ตินผู้ผลิตจะอัปเกรดให้ทันสมัย ด้วยราคาต่ำพิเศษรวมประมาณ 750 ล้านดอลลาร์

“เราคาดหวังว่า จะได้รับเครื่องบินรบเอฟ-16 จากสหรัฐฯ หลังได้รับแล้ว จะทำให้เราไม่ต้องการเครื่องบินใหม่อีกตลอด 20 ปีข้างหน้า” สำนักข่าวออนไลน์รายงานอ้างคำพูดของ พล.อ.ท.เออร์ริส เฮอร์เรียนโต (Erris Herrianto) ปลัดกระทรวงกลาโหมอินโดนีเซีย

อินโดนีเซียมีงบประมาณไม่พอซื้อเครื่องบินรัสเซีย งบที่มีอยู่พอสำหรับ F-16 “ไฟติ้งฟัลคอน” และเพื่ออัปเกรดเครื่องบินขนลำเลียงขนส่ง C-130 เฮอร์คิวลีส จำนวน 15 ลำ ที่มีอยู่ รวมทั้งอีก 4 ลำ ที่จะซื้อต่อจากออสเตรเลียในแผนการอัปเกรดเช่นกัน นายทหารคนเดียวกันกล่าว

ในเดือน ก.ย.2553 รัฐมนตรีกลาโหมอินโดนีเซีย ปูร์โนโม ยุสเกียนโตโร (Purnomo Yusgiantoro) ให้สัมภาษณ์ว่า ในช่วง 20 ปีข้างหน้า กองทัพอากาศมีแผนจะซื้อเครื่องบินรบซูคอยจากรัสเซียถึง 180 ลำ เพื่อให้มีจำนวนทั้งหมด 10 ฝูง

อย่างไรก็ตาม อินโดนีเซียได้เขาร่วมกับเกาหลีใต้ในโครงการพัฒนาเครื่องบินรบยุคใหม่ K-FX ที่ใช้เทคโนโลยีสเตลธ์ และใช้คุณสมบัติที่ดีเด่นส่วนหนึ่งของ F-22 “Raptor” และ F-35 “Lightning” ของสหรัฐฯ โครงการที่เริ่มมาตั้งแต่ปี 2001 นี้ จะผลิตเครื่องบินรบที่ก้าวหน้ากว่า ดาโซลท์ราฟาล (Dassault Rafale) กับ ยูโรไฟเตอร์ไต้ฝุ่น (Eurofighter Typhoon)

อินโดนีเซีย มีแผนจัดซื้อเครื่องบินในอนาคตที่ผลิตร่วมกับเกาหลีจำนวน 3 ฝูงๆ ละ 16-22 ลำ นอกจากนั้น ยังมีแผนจัดซื้อเครื่องบินลำเลียงแบบ CN-295 ที่ได้รับสิทธิบัตรผลิตในประเทศเองอีกจำนวนมาก ทั้งนี้ เป็นรายงานในเว็บไซต์ของกองทัพอากาศอินโดนีเซีย (Tentara Nasional Indonesia Angkatan Udara) หรือ TNI–AU
.
<bR><FONT color=#000033>ทหารยืนอยู่ด้านหน้าเครื่องบิน C-130 กองทัพอากาศออสเตรเลีย ระหว่างการฝึก Pitch Back 2012 ที่เมืองดาร์วิน ในภาพวันที่ 31 ก.ค.2555 อินโดนีเซียเปิดเผยในสัปดาห์นี้ว่า จะซื้อ C-130 ใช้แล้วจากออสเตรเลียจำนวน 4 ลำ ในแผนการอัปเกรด ซึ่งจะทำให้มีเครื่องบินขนส่งลำเลียงรุ่นนี้เพิ่มขึ้นเป็น 19 ลำ. -- ภาพ: กองทัพอากาศออสเตรเลีย. <b>
<bR><FONT color=#000033>พล.อ.อ.เจฟ บราวน์ ผบ.ทอ.ออสเตรเลีย (ขวามือ) สนทนากับ พล.อ.ท.ดีดี รูซัมซี รองเสนาธิการทหารอากาศอินโดนีเซีย ระหว่างการฝึก Picth Back 2012 ที่เมืองดาร์วิน วันที่ 30 ก.ค.2555 ข้างหลังคือ C-130 หนึ่งใน 15 ลำ ของกองทัพอากาศอินโดนีเซียที่รออัปเกรด อินโดนีเซียเปิดเผยในสัปดาห์นี้ว่าจะซื้อ C-130 ใช้แล้วจากออสเตรเลียอีก 4 ลำ ในแผนการอัปเกรดอีกเช่นกัน. -- ภาพ: กองทัพอากาศออสเตรเลีย.  <b>
.
ไม่กี่ปีมานี้ อินโดนีเซียยังเซ็นซื้อเครื่องบินขับไล่โจมตีแบบเทอร์โบพร็อพ EMB-314 ”ซูเปอร์ทูคาโน” (Super Tucano) ของค่ายเอ็มเบรเออร์ (Embraer) แห่งบราซิลอีก 16 ลำ เพิ่งได้รับไป 4 ลำแรก เพื่อใช้แทนฝูงบินโอวี-10 “บร็องโก” (OV-10 Bronco) ที่ผลิตในสหรัฐฯ และใช้งานมาหลายสิบปีแล้ว ทั้งหมดจะใช้ในภารกิจปราบปรามการก่อการร้ายภายในประเทศ FlightGlobal.Net กล่าว

กองทัพอากาศอินโดนีเซีย ยังต้องทำอีกหลายอย่างในการพัฒนาขีดความสามารถ รวมทั้งการจัดซื้อเฮลิคอปเตอร์รุ่นใหม่เข้าประจำการแทน ยูโรคอปเตอร์ AS332 “ซูเปอร์พูม่า” (Super Puma) ที่ผลิตในฝรั่งเศสอีกด้วย

หากทุกอย่างเป็นไปตามนี้ ก็เท่ากับว่าอินโดนีเซียได้ปลดตัวเองออกจากการพึ่งพาอาวุธจากค่ายรัสเซียโดยสิ้นเชิง ตลอด 2 ทศวรรษข้างหน้า

ปัจจุบัน อินโดนีเซียเป็นเพียง 1 ใน 3 ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่มีเครื่องบินรบ Su-27/30 ประจำการ รองจากเวียดนาม และมาเลเซีย ที่ต้องการเครื่องบินรบอเนกประสงค์ปฏิบัติการระยะไกลได้ในทุกสภาพภูมิอากาศ

ในเดือน มี.ค.ปีนี้ กองทัพอากาศอินโดนีเซียแถลงว่า ประสบความสำเร็จในการติดระเบิดที่ผลิตเองเข้ากับ Su-30MK2 ทิ้งลงทำลายเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ และน่าพึงพอใจ

อินโดนีเซีย ยังส่ง Su-30MK2 ทั้ง 4 ลำ เข้าร่วมการฝึกซ้อม Pitch Back กับกองทัพอากาศออสเตรเลีย กับอีกหลายประเทศมาตั้งปลายเดือนที่แล้ว และเพิ่งจะสิ้นสุดลงในวันพฤหัสบดี 9 ส.ค.นี้ นับเป็นครั้งแรกสำหรับการนำเครื่องบินรบต่างค่ายออกฝึกซ้อมร่วมกันในระดับระหว่างประเทศ.
กำลังโหลดความคิดเห็น