.
ASTVผู้จัดการออนไลน์ - กองทัพอากาศอินโดนีเซียทำพิธีรับเครื่องบินซูเปอร์ทูคาโน (Super Tucano) ใหม่เอี่ยมจำนวน 4 ลำ ในวันอาทิตย์ 2 ก.ย.ที่ผ่านมา ก่อนจะส่งไปประจำการในจังหวัดชวาตะวันออกในวันเดียวกัน เพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถในการป้องกันประเทศ สื่อของทางการกล่าว
ซูเปอร์ทูคาโนทั้ง 4 ลำ ทำลวดลายเป็นรูปปากปลาฉลามที่ส่วนหน้าสุด ซึ่งทำให้ผู้ที่พบเห็นต้องรำลึกถึงบรรยากาศเก่าๆ ยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 และสงครามเอเชียบูรพาที่กองทัพอากาศสหรัฐฯ เคยแต่งหน้าทาปากเครื่องบินขับไล่ พี-51 มัสแตง (Mustang) “ไอ้ม้าป่า” ไปประจำการในอินโดนีเซีย
ยังมีเครื่องบินรบยุคสงครามโลกอีกหลายรุ่นที่นิยมแต่งลวดลายปากฉลาม ซึ่งให้ความรู้สึกน่าเกรงขาม รวมทั้งโทมาฮอว์ก และวาร์ฮอว์กของสหรัฐฯ ที่เคยเข้าปฏิบัติการในจีน และในพม่ากับอีกหลายรุ่น หรือในยุโรปที่กองทัพอากาศอังกฤษเคยแต่ง “สปิตไฟร์” กับ “เฮอริเคน” แบบเดียวกันนี้
เครื่องบิน EMB-314 ทั้ง 4 ลำ ผลิตโดยบริษัทสร้างอากาศยานแห่งบราซิล (Empresa Brasileira de Aeronautica- EMBRAER) หรือ “เอ็มแบร” ("เอ็ม-บรา-แอร์” ในสำเนียงโปรตุเกส) ส่งถึงทัพอากาศฮาลิม เปอร์ดานากุสุมา (Halim Perdanakusuma Air Force Base) ทางตะวันออกของกรุงกรุงจาการ์ตาในวันเสาร์ ทั้งหมดบินสู่ฝูงบินที่ 21 ในชวาตะวันออกในวันอาทิตย์
เมื่อครั้งสงครามเอเชียบูรพา ฝูงบินที่ 21 ซึ่งปัจจุบันประจำที่ฐานทัพอากาศอับดุลเราะห์มานซาเละ (Abdulrahman Saleh) ในเมืองมะลัง เคยเป็นฐานปฏิบัติการแห่งหนึ่งของ “ฝูงฉลามบิน” P-51 กองทัพอากาศสหรัฐฯ เพื่อต่อต้านการขยายอำนาจของกองทัพอาทิตย์อุทัยเข้ามาในย่านนี้ หนังสือพิมพ์ในอินโดนีเซียกล่าว
“เครื่องบินทาสีเทาพรางลำตัวเพื่อให้กลมกลืนกับพื้นที่ปฏิบัติการ” พล.อ.ต.ดีดี รูซัมซี (Dede Rusamsi) รองเสนาธิการกองทัพอากาศกล่าวในพิธีต้อนรับซูเปอร์ทูคาโนทั้ง 4 ลำ
“ลวดลายปากฉลามทำขึ้นก็เพื่อธำรงขนบธรรมเนียมของฝูงบินนี้เอาไว้ตั้งแต่ยุคมัสแตง” นายทหารคนเดียวกันกล่าว
ตามข้อมูลในเว็บไซต์ข่าวกลาโหม กองทัพอากาศอินโดนีเซียได้รับ P-51D ตกทอดมาจากสมัยสงครามจำนวน 7 ฝูง และใช้งานต่อมาอีกหลายสิบปี ประสบอุบัติเหตุไปหลายลำ ส่วนใหญ่ขึ้นบยินไม่ได้เพราะขาดอะไหล่ ที่เหลืออยู่ไม่กี่ลำในปัจจุบันวางแสดงอยู่ในพิพิธภัณฑ์
แต่งสปิตไฟร์ Youtube.Com
แต่งให้เริด จากหลากหลายแหล่งอินเทอร์เน็ต
2
3
4
5
แต่งต้นแบบ P-51
6
7
8
9
กองทัพอากาศอินโดนีเซียซื้อซูเปอร์ทูคาโน เพื่อใช้แทนโอวี-10 “บรองโก” ที่ใช้มาตั้งแต่ยุคสงครามเย็น และประสบอุบัติเหตุตกไปหลายลำในระยะหลังเนื่องจากใช้งานมานาน จำนวนที่เหลือไม่สามารถจะขึ้นบินได้อีกแล้วเนื่องจากผู้ผลิตในสหรัฐฯ ไม่ได้ผลิตอะไหล่อีกแล้ว
ผู้ผลิตในบราซิลพัฒนาซูเปอร์ทูคาโนต่อจาก “ทูคาโน” ซึ่งใช้เครื่องยนต์เทอร์โบพร็อพ ออกแบบมาเพื่อการโจมตีภาคพื้นดิน แต่สำหรับอินโดนีเซียจะใช้ซูเปอร์ทูคาโนแบบ 2 ที่นั่งในภารกิจบินตรวจการณ์ชายแดน กับภารกิจฝึกบินเป็นหลัก หนังสือพิมพ์จาการ์ตาโพสต์รายงานในวันจันทร์ 3 ก.ย.นี้
อินโดนีเซียสั่งซื้อซูเปอร์ทูคาโน 2 ล็อตๆ ละ 8 ลำ ล็อตแรกซื้อจากเอ็มแบรโดยตรงในปี 2553 อีกล็อตซื้อในงานปารีสแอร์โชว์ 2009
รองเสนาธิการกองทัพอากาศกล่าวว่า ล็อตที่ 1 มีมูลค่า 143 ล้านดอลลาร์ รวมทั้งแพกเกจการบำรุงรักษา และสำหรับการฝึก ซึ่งนักบินชาวบราซิลทั้ง 4 คน จะยังประจำที่ฐานทัพในชวาตะวันออกต่อไปเพื่อฝึกนักบินอินโดนีเซียจำนวน 8 คน
การมีซูเปอร์ทูคาโน 16 ลำ ทำให้จะต้องมีนักบินอย่างน้อย 24 คน นายทหารคนเดียวกันกล่าว.