xs
xsm
sm
md
lg

นักโบราณคดีพบส้วมอายุ 3,500 ปีในเวียดนาม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

<bR><FONT color=#000033>กระดูกสัตว์ปะปนอยู่กับอะไรบางอย่าง เมื่อนักวิทยาศาสตร์นำไปศึกษาวิเคราะห์จึงรู้ว่าเป็นมูลของคนซึ่งยังคงรูปร่างคล้ายกับของเดิมๆ อย่างน่าประหลาด แม้เวลาจะผ่านไปหลายพันปีแล้วก็ตาม ซึ่งทำให้นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าที่ตรงนั้น เป็นส้วมแห่งแรกๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แหล่งโบราณคดีอายุ 3,500 ปีแห่งนี้อยู่ห่างจากนครโฮจิมิยห์ลไงปทางใต้ราว 30 กม. -- ภาพ: AsianScientist. </b>
.

ASTVผู้จัดการออนไลน์ - นักโบราณคดีออสเตรเลียกับเวียดนามกลุ่มหนึ่ง ได้ประกาศการค้นพบอันน่าทึ่งในสัปดาห์นี้ ซึ่งเชื่อกันว่า เป็นห้องส้วมที่มีอายุมากที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประดิษฐ์กรรมจากมือมนุษย์นี้ค้นพบใน จ.ลองอาน เวียดนาม ซึ่งปัจจุบัน เป็นดินแดนที่นักท่องเที่ยวมักจะบ่นอยู่เสมอๆ เกี่ยวกับห้องน้ำห้องส้วม

แต่จะเชื่อหรือไม่ก็ตามทีเถิด มนุษย์โบราณที่อาศัยอยู่ในดินแดนเวียดนามมาก่อนพุทธกาลนานนับพันปี รู้จักทำห้องส้วมไว้ใช้ปลดทุกข์แล้ว

ห้องส้วมถูกค้นพบในแหล่งโบราณคดีแหร็กหนุย (Rạch Núi) ใน จ.ที่ราบปากแม่น้ำโขง ซึ่งอยู่ห่างจากนครโฮจิมินห์ ไปทางใต้เพียงประมาณ 30 กม. แหล่งโบราณคดีดังกล่าวมีอายุราว 3,500 ปี เว็บไซต์ข่าววิทยาศาสตร์เอเชีย (AsianScientist) รายงาน

มันเป็นส้วมที่มีขนาดใหญ่โตทีเดียว นักวิทยาศาสตร์กลุ่มนี้กล่าวว่า ส้วมตั้งอยู่ส่วนบนของพะเนินความสูงราว 5 เมตร ตั้งอยู่ข้างลำธารสายเล็กๆ แวดล้อมด้วยอาณาบริเวณที่ปัจจุบันเป็นป่าโกงกาง แรกๆ ไม่มีใครนึกออกว่ามันเป็นอะไรกันแน่ จนกระทั่งได้พบอุจจาระคน พบมูลสุนัขรวมกันทั้งหมดราว 30 ชิ้น ซึ่งธรรมชาติรักษาเอาไว้อย่างดี ยังคงรูป และคงสภาพทางกายภาพอย่างสมบูรณ์อยู่ในนั้น

นักวิทยาศาสตร์ยังพบกระดูกสัตว์ และก้างปลาอีกจำนวนหนึ่งในที่เดียวกัน เอเชียนไซเอ็นทิสต์กล่าว

นายมาร์ค อ็อกซ์แนม (Marc Oxenham) นักโบราณคดีร่วมทีมกล่าวว่า การค้นพบนี้เป็นสิ่งที่หายาก และมีคุณค่ายิ่ง เพราะว่ามันสามารถนำไปสู่การศึกษาพฤติกรรมการกินอยู่ของมนุษย์ในยุคนั้นได้

“สิ่งที่ค้นพบนี้เมื่อนำไปวิเคราะห์ในรายละเอียดทำให้ได้ข้อมูลอันล้ำค่าเกี่ยวกับการกินของมนุษย์กับสุนัขที่แหร็กหนุย และยังพบพวกพยาธิปรสิตที่ทั้งคน ทั้งสุนัขต่างก็เจอเหมือนกัน” เว็บไซต์อ้างคำพูดของนายอ็อกซ์แนม

หลักฐานนี้เมื่อนำไปประกอบกับข้อมูลอื่นๆ ได้ยืนยันว่า เมื่อราว 4,000 ปีก่อน ได้มีการเปลี่ยนแปลงทางด้านเศรษฐกิจ พฤติกรรม หรือแม้กระทั่งพันธุกรรม ทำให้ผู้คนแห่งยุคต้องเปลี่ยนพฤติกรรมในการล่าสัตว์ การสะสมอาหาร การตกปลา และหาปลาเพื่อนำไปเพาะเลี้ยงในบ่อ
.
<bR><FONT color=#000033>ถึงแม้คนโบราณที่อาศัยอยู่ในดินแดนเวียดนาม จะรู้จักใช้ส้วมมานานนับพันปีก่อนพุทธกาลก็ตาม แต่เวียดนามปัจจุบันยังขาดแคบนส้วมที่ถูกสุขลักษณะอย่างมาก ในภาพนี้ไม่ใช่ที่ปลดทุกข์ฉุกเฉิน หากเป็นส้วมปรกติที่พบได้ทั่วไปตามข้างทางในต่างจังหวัด ห้องน้ำห้องส้วมเป็นรายการต้นๆ ที่นักท่องเที่ยวอยากให้เวียดนามปรับปรุงมากที่สุด. </b>
.
การศึกษาจากมูลของคน และมูลสุนัขที่พบ ได้พบว่า ทั้งคน ทั้งสัตว์เลี้ยงต่างกินปลาเป็นอาหาร รับประทานกับพืชบางชนิด รวมทั้งพวกหัวมันด้วย

อย่างไรก็ตาม นักวิทยาศาสตร์ยังไม่อาจสรุปได้ว่า สุนัขไปอุจจาระลงในส้วมของคนได้อย่างไร บางคนในคณะเห็นว่า ในยุคโน้นยังไม่มีเทคนิคที่ก้าวหน้าพอสำหรับมนุษย์ เพื่อฝึกให้ “เพื่อนแท้ของคน” เข้าส้วมเมื่อเวลาปวดท้อง ขณะอีกบางคนตั้งข้อสังเกตว่า เป็นไปได้หรือไม่ว่า ส้วมอาจจะอยู่ในเคหสถาน และใช้เป็นแหล่งเก็บมูลของสุนัขที่ปล่อยเอาไว้ในบริเวณนั้นด้วย

นับเป็นการค้นพบอันน่าทึ่ง ถึงแม้ว่าในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะมีแหล่งโบราณคดีร่วมสมัยกับแหร็กหนุยมากมายหลายแห่งก็ตาม แต่ทุกอารยธรรมที่นักวิทยาศาสตร์ขุดค้นมาในรอบศตวรรษ ยังไม่เคยมีบันทึกการพบห้องส้วม และในเวียดนามอาจจะเป็นแห่งแรก

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าคนที่อาศัยอยู่ในดินแดนเวียดนามจะรู้จักใช้ส้วมมานานก่อนใครๆ ในย่านนี้ แต่ในปัจจุบัน ส้วมเป็นปัญหาใหญ่มากสำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางไปประเทศนี้ ห้องน้ำห้องส้วมเป็นปัญหาในอันดับต้นๆ ที่นักท่องเที่ยวเสนอให้ปรับปรุง

หากใช้ชีวิตอยู่กับโรงแรม หรือห้างสรรพสินค้าของเมือง และนครใหญ่จะไม่ค่อยพบปัญหานี้ แต่ทันทีที่ออกนอกเมือง หรือออกต่างจังหวัดที่อยู่ไกลออกไป ปัญหาห้องน้ำห้องส้วมจะเห็นเด่นชัด

บริการทัวร์ในปัจจุบัน ไม่สามารถจะให้ลูกค้าพึ่งพาห้องน้ำตามสถานีบริการน้ำมันได้ เนื่องจากปั๊มน้ำมันส่วนใหญ่จะมีห้องน้ำน้อยไม่พอให้บริการ นอกจากนั้น ยังขาดการรักษาความสะอาดอีกด้วย.
กำลังโหลดความคิดเห็น