มหาสารคาม - ชาวบ้านชุมชนเครือวัลย์ 2 ทำพิธีขุดโครงกระดูกมนุษย์ 8 ศอก อายุหลายพันปีขึ้นมาทำบุญอุทิศส่วนกุศล หลังชาวบ้านจะใช้พื้นที่ดังกล่าวก่อสร้างศาลาประชาคม
วันนี้ (17 พ.ค.) ชาวบ้านชุมชนเครือวัลย์ 2 (บ้านค้อ) ต.ตลาด อ.เมือง จ.มหาสารคาม กว่า 50 คน นำโดยนายสุข ธรรมพิชัย ประธานชุมชนเครือวัลย์ 2 ได้ร่วมกันทำพิธีตั้งเครื่องเซ่นบวงสรวง ประกอบด้วย ธูปเทียนดอกไม้อย่างละ 5 คู่ พร้อมเหล้าขาว ไก่ และอาหารคาวหวาน ที่บริเวณด้านข้างศูนย์สาธารณสุขมูลฐานชุมชนเครือวัลย์ 2 เพื่อบอกกล่าวเจ้าของโครงกระดูกมนุษย์โบราณ ขออนุญาตขุดกระดูกที่บริเวณด้านทิศใต้ของศูนย์สาธารณสุขมูลฐานเครือวัลย์ 2 ซึ่งชาวบ้านเชื่อว่าเป็นโครงกระดูกของมนุษย์ 8 ศอก เนื่องจากโครงกระดูกจะมีขนาดใหญ่กว่าคนในยุคปัจจุบัน
โดยพิธีเริ่มขึ้นจากหมอพราหมณ์ ทำพิธีจุดธูปและบอกกล่าวเจ้าของโครงกระดูก ทราบชื่อจากการเข้าทรงชื่อว่า พ่อขุนพรหม ซึ่งหลังจากที่หมอพราหมณ์ทำพิธีบอกกล่าวแล้วชาวบ้านได้ช่วยกันใช้เสียมและจอบขุดหาโครงกระดูก
เมื่อขุดลึกลงไปประมาณ 1 เมตรเศษ พบเศษกระดูกชิ้นส่วนต่างๆ ของมนุษย์ เช่น กระดูกนิ้ว กระดูกขา กระจายอยู่เป็นจำนวนมาก นอกจากนั้นยังพบเศษภาชนะดินเผาไม่มีลวดลาย เชื่อว่าน่าจะเป็นภาชนะที่บรรจุเครื่องใช้ฝังไว้ข้างศพ
สำหรับพื้นที่ชุมชนเครือวัลย์ 2 (บ้านค้อ) สถานที่ตั้งศูนย์สาธารณสุขมูลฐานชุมชนเครือวัลย์ 2 เป็นเนินสูงมีการปรับหน้าดินให้ต่ำลง และตลอดเวลาที่ชาวบ้านพากันขุดค้นอยู่นั้นได้มีชาวบ้านจากทุกสารทิศเกือบ 100 คนที่ทราบข่าวพากันเดินทางมาพิสูจน์ บางคนก็เห็นเศษกระเบื้องมีตัวเลขก็จำไว้เพื่อจะนำไปแทงหวย
ภายในศูนย์สาธารณสุขมูลฐานแห่งนี้ได้เคยมีการขุดโครงกระดูกมนุษย์โบราณขึ้นมาก่อนหน้านี้ประมาณ 10 ปี โดยมีการนำโครงกระดูกมนุษย์โบราณ พร้อมเศษกำไลสำริดที่เคยขุดพบในบริเวณด้านข้างศูนย์ฯ ก่อนหน้านี้ มาวางเรียงไว้บนผ้าขาวให้ชาวบ้านดู โดยชาวบ้านเล่าว่าโครงกระดูกที่ขุดขึ้นมาก่อนนี้เป็นโครงกระดูกของแม่สร้อยคำ
เมื่อขุดโครงกระดูกทั้งสองขึ้นมาแล้ว ชาวบ้านจะทำพิธีทำบุญอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้กับโครงกระดูกทั้งสอง พร้อมกับทำสังฆทานให้ เพื่อให้ดวงวิญญาณคุ้มครองปกปักรักษาลูกหลานในชุมชนต่อไป
ด้าน ผศ.สมชาย นิลอาธิ กรรมการสถาบันวิจัยศิลปะและวัฒนธรรมอีสาน มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ให้ความเห็นกรณีนี้ว่า สันนิษฐานว่าบริเวณเหล่านี้เคยเป็นชุมชนโบราณ อายุน่าจะถึงยุคทวารวดีประมาณ 1,200 ปี เพราะเคยมีการค้นพบพวกภาชนะดินเผา รวมทั้งโครงกระดูกมนุษย์ในพื้นที่เหล่านี้ รวมทั้งการเทียบเคียงกับโบราณวัตถุที่ขุดพบในพื้นที่อื่นๆ อายุใกล้เคียงกันหรือร่วมสมัยกัน
แต่การที่ชาวบ้านจะขุดค้นกันต่อไปควรระวังเพราะไม่มีความชำนาญอาจทำให้หลักฐานทางโบราณคดีเสียหายได้ ควรจะแจ้งทางเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่มีความเชี่ยวชาญการขุดสำรวจมาดูแลด้วย