xs
xsm
sm
md
lg

รมว.กลาโหมสหรัฐฯ เยือนฐานทัพเก่าในเวียดนาม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

<bR><FONT color=#000033>นายลีออน เพเนตตา รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ (ขวา) เดินทางถึงฐานทัพอากาศอ่าวกามแร็งห์ หนึ่งในสามฐานทัพสำคัญที่สหรัฐฯเคยใช้ในช่วงสงครามเวียดนาม ในวันที่ 3 มิ.ย.2555. --AFP PHOTO/POOL/Jim Watson..</b>

เอเอฟพี - นายลีออน พาเนตตา รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ เดินทางเยือนฐานทัพสำคัญที่กองทัพสหรัฐฯ เคยใช้ในสงครามเวียดนาม ในวันนี้ (3 มิ.ย.) ส่วนหนึ่งของความพยายามของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่จะสร้างความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นขึ้นกับอดีตคู่อริ เพื่อตอบโต้ท่าทีรุกรานที่เพิ่มมากขึ้นของจีน

นายพาเนตตาเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงสุดของสหรัฐฯ ที่เดินทางเยือนอ่าวกามแร็งห์ (Cam Ranh) นับตั้งแต่สิ้นสุดสงครามเวียดนามในปี 2518

สหรัฐฯ และเวียดนาม ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการป้องกันประเทศเมื่อปีก่อนและนายพาเนตตาวางแผนที่จะหารือถึงข้อตกลงดังกล่าวระหว่างการเยือนเป็นเวลา 2 วันในครั้งนี้

“เรามีความสัมพันธ์ที่ดีกับเวียดนามาเป็นเวลานาน 17 ปีของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระดับปกติ เรามีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับรัฐบาลเวียดนาม รวมทั้งความสัมพันธ์ทางทหารเช่นกัน” เจ้าหน้าที่อาวุโสจากกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ระบุ

ฐานทัพอากาศกามแร็งห์ หนึ่งในสามฐานทัพหลักของสหรัฐฯ ในสมัยสงคราม ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นฐานประจำการฝูงเครื่องบินรบ เครื่องบินลำเลียง และกองกำลังทหาร ในระหว่างช่วงสงคราม หลังสิ้นสุดสงคราม เวียดนามได้มอบฐานทัพอากาศ และฐานทัพเรือให้แก่สหภาพโซเวียตเช่า โดยรัฐบาลรัสเซียใช้ฐานทัพแห่งนี้เป็นที่ประจำการเครื่องบินรบ เรือดำน้ำนิวเคลียร์ และสถานีสอดแนมระหว่างช่วงสงครามเย็น

รัสเซียถอนตัวออกจากฐานแห่งนี้ในปี 2545 และเวียดนามตัดสินใจที่จะเปิดเป็นท่าเรือเพื่อการพาณิชย์ให้แก่เรือรบของต่างชาติที่ต้องการเพิ่มเติมเสบียง หรือบำรุงรักษา

ทั้งนี้ นายพาเนตตาจะเยือนเรือริชาร์ด อี เบียร์ด (USNS Richard E. Byrd) เรือลำเลียงขนส่งสำหรับกองเรือของสหรัฐฯ ที่ลูกเรือส่วนใหญ่เป็นพลเรือน เทียบท่าอยู่ที่ท่าเรือกามแร็งห์

ฐานทัพอ่าวกามแร็งห์ตั้งอยู่ในพื้นที่อ่าวตามธรรมชาติที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในภูมิภาค และสหรัฐฯมองว่า ฐานแห่งนี้เป็นจุดที่เหมาะสมที่จะส่งเสริมทัพเรือสหรัฐฯ ในทะเลจีนใต้ที่มีความสำคัญทางกลยุทธ์ ซึ่งจีนอ้างสิทธิเหนือพื้นที่ทั้งหมดในทะเลจีนใต้ ที่เชื่อว่าเต็มไปด้วยน้ำมัน และก๊าซธรรมชาติ และยังเป็นหนึ่งในสามเส้นทางเดินเรือพาณิชย์สำคัญในภูมิภาค

รัฐบาลเวียดนาม และจีน ต่างอ้างสิทธิเหนือหมู่เกาะสแปร็ตลีย์ และหมู่เกาะพาราเซลล์ ซึ่งนักวิเคราะห์ระบุว่า การดำเนินการเชิงรุกที่มากขึ้นของจีนในทะเลจีนใต้ส่งผลให้เวียดนามหันไปร่วมมือในการป้องกันใกล้ชิดกับสหรัฐฯ มากยิ่งขึ้น

การเยือนเวียดนามครั้งนี้ของนายพาเนตตา มีขึ้นหลังเข้าร่วมการประชุมว่าด้วยความมั่นคงที่สิงคโปร์ ในวันเสาร์ (2 มิ.ย.) ซึ่งนายพาเนตตาระบุว่า สหรัฐฯ จะเคลื่อนย้ายกองเรือรบส่วนใหญ่ไปยังมหาสมุทรแปซิฟิกภายในปี 2563 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ที่เน้นให้ความสำคัญกับภูมิภาคเอเชีย.
กำลังโหลดความคิดเห็น