“ซูจี” ถึงกรุงเทพฯ กลางดึก ไทย-พม่าแห่รับคับคั่ง

.

ASTVผู้จัดการออนไลน์ (สนามบินสุวรรณภูมิ) - นางอองซานซูจี ผู้นำฝ่ายค้านวัย 64 ปี เดินทางถึงไทยกลางดึกวันอังคาร 29 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยมีชาวพม่า และชาวไทยจำนวนนับร้อยไปต้อนรับที่บริเวณห้องผู้โดยสารขาเข้า ท่ามกลางกองทัพสื่อมวลชนที่ไปติดตามรายงานเหตุการณ์ และสถานีโทรทัศน์บางช่องทำการถ่ายทอดสด

“ซูจี ซูจี ซูจี” .. ฝูงชนที่ไปต้อนรับส่งเสียงกึกก้อง เป็นจังหวะ เรียกชื่อของ “สตรีเหล็ก” เจ้าของรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพปี 2532 ซึ่งตลอดเวลา 20 ปีที่ผ่านมา ถูกกักบริเวณในบ้านพักนานถึง 15 ปี ก่อนจะเปลี่ยนฐานะใหม่เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หลังนำพรรคแนวร่วมสันติบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย ชนะการเลือกตั้งซ่อมอย่างท่วมท้นในต้นเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา

การมาไทยครั้งนี้ นับเป็นการเดินทางออกนอกประเทศครั้งแรกใน 24 ปี ตั้งแต่เดินทางจากอังกฤษกลับบ้านเกิดเ พื่อไปเยี่ยมมารดาที่กำลังป่วย การเมืองภายในได้ทำให้เกิดความผันแปร ทำให้แม่บ้านคนหนึ่งกลายเป็นนักต่อสู้ที่แสนทรหด และกลายเป็นสัญลักษณ์ของประชาธิปไตยในประเทศที่ถูกปกครองด้วยระบอบเผด็จการทหารมายาวนานครึ่งศตวรรษ

นางซูจีเดินทางถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิท่ามกลางแสงไฟสว่างไสว และห้อมล้อมด้วยเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยส่วนตัว กับ รปภ.ของฝ่ายไทย เมื่อผ่านกระบวนการตรวจคนเข้าเมืองออกสู่ห้องผู้โดยสารขาเข้า ผู้นำฝ่ายค้านโบกมือให้ผู้ไปต้อนรับท่ามกลางเสียงไชโยโห่ร้อง ฝูงชนกรูกันตามไปส่งนางซูจีถึงรถที่ไปรอรับ

ก่อนหน้านี้ นางซูจีปฏิเสธที่จะเดินทางออกนอกประเทศมาโดยตลอด แม้กระทั่งในช่วงที่สามีศาสตราจารย์ชาวอังกฤษกำลังป่วยด้วยโรคมะเร็งในขั้นสุดท้าย ด้วยเกรงว่าคณะปกครองทหารจะไม่ให้กลับเข้าพม่าอีก

เหตุการณ์ผันแปรเมื่อ พล.อ.อาวุโสตานฉ่วยประกาศก้าวลงจากอำนาจในเดือน มี.ค.2554 เปิดทางให้บรรดาขุนทหารผู้ใกล้ชิดสืบทอดอำนาจในคราบพลเรือน หลังจากเลือกตั้งทั่วไปในเดือน พ.ย.2553 ซึ่งกล่าวกันว่า มีการทุจริตอย่างใหญ่โตในขอบเขตทั่วประเทศ และภายใต้รัฐธรรมนูญที่ฝ่ายทหารจัดร่างขึ้นมาโดยมีหลักประกันอยู่แล้วว่าจะต้องได้รับชัยชนะ

ปัจจุบัน สมาชิก 1 ใน 4 ของสภาผู้แทนฯ กับสภาชนชาติหรือสภาสูง ล้วนเป็นบุคคลที่ได้รับแต่งตั้งจากกองทัพ เพื่อค้ำจุนรัฐบาล
.

.
ถึงแม้ว่าการเลือกตั้งซ่อมวันที่ 1 เม.ย.ที่ผ่านมา เพื่อเลือกผู้แทน 45 คนที่ว่างลง พรรคของนางซูจีจะได้เข้าสู่สภาผู้แทนฯ ถึง 43 คนก็ตาม ก็ยังเป็นเพียงฝ่ายค้านกลุ่มเล็กๆ ในสภาล่างที่มีสมาชิก 440 คน และในนั้นกว่า 100 คนเป็นตัวแทนจากกองทัพ

แต่รัฐบาลใหม่ของประธานาธิบดีเต็งเส่งได้พลิกทุกความคาดหมาย และสร้างความเปลี่ยนแปลงขึ้นในพม่าอย่างกว้างขวาง ผ่านการปฏิรูปอย่างรอบด้าน ประกาศเปลี่ยนเศรษฐกิจให้เป็นแบบการตลาด ทำการปฏิรูประบบการเงินการธนาคารให้เป็นสากล แก้ไขกฎหมายทำให้การชุมนุมประท้วงเรียกร้องโดยสันติ กับการจัดตั้งสหภาพแรงงานเป็นสิ่งที่ชอบด้วยกฎหมาย รวมทั้งยกเลิกการเซ็นเซอร์หนังสือพิมพ์ และสื่ออื่นๆ ทั้งหมดด้วย

รัฐบาลใหม่ได้ปล่อยนักโทษการเมืองหลายร้อยคน เปิดการเจรจา และทำข้อตกลงหยุดยิงกับกบฏชนกลุ่มน้อยอีกครั้ง เร่งการคืนดีกับชาติตะวันตก และในที่สุด สหภาพยุโรปกับอีกหลายประเทศก็ได้ยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรต่อพม่าที่ใช้มานานกว่า 10 ปี

สำหรับสหรัฐฯ แม้ว่าจะยังคงกฎหมายคว่ำบาตรไว้ก็ตาม แต่ก็ได้ยกเลิกข้อบังคับที่เคยเข้มงวดต่อการค้า และการลงทุนของสหรัฐฯ ในพม่า เปิดทางสะดวกให้เข้าไปแข่งขันได้

ธิดาของนายพลอองซาน บิดาแห่งเอกราชของพม่า กำลังมีบทบาทอย่างสูงในการเมืองระหว่างประเทศ กล่าวได้ว่า ไม่มีผู้นำจากประเทศ หรือดินแดนใดที่ไปเยือนพม่าแล้วไม่ขอพบหารือกับผู้นำฝ่ายค้านสตรี ซึ่งรวมทั้งนายเดวิด คาเมรอน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ และประธานาธิบดีลีเมียงบั๊ก แห่งเกาหลีด้วย
.

.
ก่อนออกเดินทางจากกรุงย่างกุ้งมาไทย นางซูจียังได้พบหารือกับนายมันโมหันซิงห์ ซึ่งเป็นนายกรัฐมนตรีอินเดียคนแรกที่ไปเยือนพม่าอย่างเป็นทางการในรอบ 40 ปี เพื่อขยายความสัมพันธ์อย่างรอบด้านระหว่างสองประเทศเพื่อนบ้าน หลังจากผ่านการฟื้นฟูกันมาหลายปีก่อนหน้านี้

ในเดือน มิ.ย. นางซูจีจะเดินทางไปเยือนสวิตเซอร์แลนด์ นอร์เวย์ โดยจะเข้ารับรางวัลโนเบลที่คั่งค้างมานานกว่า 20 ปีอีกด้วย ก่อนจะต่อไปยังประเทศอังกฤษซึ่งจะได้รับมอบปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์เป็นเกียรติ จากมหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด สถาบันการศึกษาเก่า

นางซูจีเดินทางมาไทยครั้งนี้ เพื่อเข้าร่วมการประชุมทางเศรษฐกิจในกรุงเทพฯ ซึ่งจะได้แสดงปาฐกถาในที่ประชุมครั้งนี้ด้วย และจะใช้โอกาสนี้เยี่ยมเยือนประชาคมชาวพม่าที่อาศัยและทำงานในประเทศไทย ก่อนจะไปเยือนชาวพม่าพลัดถิ่นในค่ายพักพิงแห่งหนึ่งที่ จ.ตาก

ตามรายงานของสำนักข่าวรอยเตอร์ วันที่ 14 มิ.ย. ผู้นำฝ่ายค้านพม่ากำลังจะเข้าปราศรัยต่อที่ประชุมเกี่ยวกับแรงงานระหว่างประเทศในนครเจนีวา ก่อนจะใช้เวลา 1 สัปดาห์ในประเทศอังกฤษ โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 18 มิ.ย.เป็นต้นไป

ระหว่างเยือนอังกฤษ นางซูจีมีกำหนดเข้าปราศรัยต่อที่ประชุมรัฐสภาอังกฤษ ซึ่งเป็นโอกาสที่หาได้ยาก ผู้ที่ได้รับเกียรติก่อนหน้านี้คือ ประธานาธิบดีเนลสัน แมนเดลา แห่งแอฟริกาใต้ และประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ เมื่อเดือนที่แล้ว.