.
ASTVผู้จัดการออนไลน์ -- ถึงแม้จะมีทุนรอนพร้อมมาหลายปีแล้วก็ตาม แต่การก่อสร้างรถไฟฟ้าใต้ดิน-บนดินสายแรกของนครโฮจิมินห์ ประสบปัญหามากมายเกินคาดคิด รวมทั้งปัญหาการเวนคืนที่ดินและการประกวดราคาก่อสร้าง จัดซื้อและจัดหา ที่จะต้องไม่เกิดการทุจริตอื้อฉาวซ้ำรอยโครงการมอเตอร์เวย์สายเลี่ยงเมืองเมื่อ 2-3 ปีที่แล้ว ทำให้ต้องล่าช้ามาเรื่อยๆ จนกระทั่งถึงสัปดาห์ที่ผ่านมา
ตามรายงานของสำนักข่าวออนไลน์ภาษาเวียดนาม ทางการนครใหญ่แห่งภาคใต้ได้เซ็นสัญญา 2 ฉบับแรกในวันพุธ 16 พ.ค. สำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายแรก ในจำนวน 6 สาย เพื่อให้การก่อสร้างเริ่มขึ้นได้ในเดือน ก.ย.ศกนี้
คณะกรรมการบริหารรถไฟฟ้าในเมืองแห่งนครโฮจิมินห์ได้เซ็นสัญญาก่อสร้างระบบเหนือพื้นดินกับสถานีจอดซ่อมบำรุงกับบริษัทสุมิโตโมแห่งประเทศญี่ปุ่นและบริษัทก่อสร้างเวียดนามอีกแห่งหนึ่งรวมมูลค่า 560.6 ล้านดอลลาร์
ยังมีอีก 2 สัญญาคือ การก่อสร้างส่วนที่อยู่ใต้ดินกับการจัดหาวัสดุอุปกรณ์จะเซ็นกันในระยะต่อไป นายเหวียนหือว์ติ๋น (Nguyễn Hữu Tín) รองประธานคณะกรรมการประชาชนนครโฮจิมินห์เป็นผู้เปิดเผยเรื่องนี้
รถไฟฟ้าขนส่งมวลชนสายแรกมีระยะทางเพียง 19.7 กม.เท่านั้น ในนั้นมี 2.6 กม. ที่จะต้องสร้างใต้ดินในเจตอำเภอที่ 1 ซึ่งเป็นใจกลางธุรกิจและการเงิน อีก 17.1 กม.เป็นทางรถไฟยกระดับ ประกอบด้วย 11 สถานี เริ่มจากบริเวณตลาดเบ๊นแถ่ง แล่นข้ามแม่น้ำไซ่ง่อนไปยังเขต อ.ถูดึ๊ก (Thủ Đức) และไปสิ้นสุดปลายทางที่ อ.ดีอาน (Di An) จ.บี่งซเวือง (Bình Dương) ที่อยู่ติดกัน
ระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนสายนี้คาดว่าจะมีมูลค่า 2,250 ล้านดอลลาร์ ส่วนใหญ่เป็นเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำจากรัฐบาลญี่ปุ่น สมทบกับเงินงบประมาณของรัฐ กำหนดก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2560 และเปิดให้บริการในปีถัดไป
.
.
ตามรายงานของสื่อทางการก่อนหน้านี้ นครโฮจิมินห์จะเก็บค่าโดยสารในอัตราที่ต่ำมาก (คิดเป็นเงินไทยประมาณ 16 บาท) อัตราเดียวตลอดสาย เพื่อให้ผู้ที่ใช้รถจักรยานยนต์อยู่ในปัจจุบันที่มีจำนวนนับล้าน สามารถใช้บริการรถไฟฟ้าแทน เพื่อแก้ปัญหาการจราจรติดขัดที่อยู่ในขั้นวิกฤต
รัฐบาลจะได้รับประโยชน์จากการประหยัดการใช้เชื้อเพลิงในระยะยาว และ มลพิษทางอากาศได้รับการแก้ไข หนังสือพิมพ์เตื่อยแจ๋กล่าวในเว็บไซต์ภาษาเวียดนาม
โฮจิมินห์ยังมีโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าใต้ดิน-บนดินอีก 4 สาย รถไฟลอยฟ้าแบบรางเดี่ยว (Monorail) คล้ายๆ กับที่ให้บริการในกรุงกัวลาลัมเปอร์อีก 1 สายในย่านใจกลางเมือง
การทุจริตอื้อฉาว ทั้งการติดสินบนเจ้าหน้าที่และการยักยอกเงินจากโครงการก่อสร้างทางมอเตอร์เวย์สายเลี่ยงเมืองทีใช้เงินทุนจากญี่ปุ่น ระหว่างปี 2548-2550 ทำให้เวียดนาม รวมทั้งรัฐบาลญี่ปุ่นซึ่งเป็นเจ้าของเงินกู้ก้อนใหม่นี้ต้องระมัดระวังมากยิ่งขึ้น การประกวดราคาดำเนินไปอย่างละเอียดและด้วยความรอบคอบ
การก่อสาร้างรถไฟฟ้าสายเบ๊นแถ่ง-เสือยเตียน (Bến Thành-Suối Tiên) นี้ควรจะเริ่มตั้งแต่ปี 2553 แต่หลายปัญหาประดังเข้ามาทำให้โครงการเกือบหยุดนิ่งมา 2 ปี รวมทั้งปัญหาการเวนคืนที่กับงานหน้าดินที่ล่าช้าด้วย.