จีนยันความขัดแย้งในกะฉิ่นไม่กระทบ เดินหน้าท่อส่งน้ำมัน-ก๊าซพม่า

รอยเตอร์ - โครงการท่อส่งน้ำมันและก๊าซของจีนในพม่าไม่ได้รับผลกระทบจากการสู้รบกันระหว่างกองทัพทหารพม่าและกบฎชนกลุ่มน้อย เจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงของจีนระบุวานนี้ (10 มี.ค.) และเพิ่มเติมว่า จีนพยายามที่จะหาทางแก้ปัญหาความขัดแย้งดังกล่าว

ข้อตกลงหยุดยิงนาน 17 ปี ของกองกำลังกะฉิ่นเพื่อเอกราช (KIA) หนึ่งในกลุ่มกบฏที่มีกำลังมากในพม่า เพิ่งสิ้นสุดลงเมื่อเดือน มิ.ย.2554 ที่ผ่านมา ส่งผลให้ชาวกะฉิ่นอพยพลี้ภัยข้ามฝั่งพรมแดนไปตั้งค่ายลี้ภัยในจีนเป็นจำนวนมาก

รัฐกะฉิ่น ที่อยู่ทางตอนเหนือของพม่าเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์สำคัญของจีนและยังคงมีความขัดแย้งที่อาจส่งผลกระทบต่อแผนการที่จะใช้พื้นที่ดังกล่าวเป็นช่องทางวางระบบท่อส่งพลังงานไปยังพื้นที่มณฑลทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน

โครงการก่อสร้างท่อส่งน้ำมันและก๊าซธรรมชาติจากอ่าวเบงกอล ผ่านรัฐกะฉิ่นไปยังมณฑลหยุนหนันของจีนอยู่ในระหว่างการก่อสร้างและรัฐกะฉิ่นยังเป็นที่ตั้งโครงการก่อสร้างเขื่อนผลิตไฟฟ้าอีกหลายแห่งเพื่อใช้ส่งออกพลังงานไฟฟ้าไปยังจีนอีกด้วย

“บริษัทจำนวนมากของจีนได้ลงทุนโครงการมูลค่าสูงในพม่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงการท่อส่งน้ำมันที่พาดผ่านพื้นที่รัฐกะฉิ่น” นายเม็งสูเตีย (Meng Sutie) หัวหน้าฝ่ายความมั่นคงมณฑลหยุนหนัน กล่าวนอกรอบระหว่างการประชุมหารือประจำปีรัฐสภาของจีน พร้อมระบุเพิ่มเติมว่า รัฐบาลกลางของพม่าและรัฐบาลกะฉิ่นต่างมีทัศนคติทางบวกสนับสนุนการสร้างท่อส่งน้ำมัน

“ในเวลานี้ การก่อสร้างดำเนินไปอย่างราบรื่นและไม่มีปัญหาความเข้าใจผิดแต่อย่างใด รัฐบาลกะฉิ่้นและรัฐบาลกลางต่างร่วมมือกันเป็นอย่างดีและสนับสนุนจีนในการก่อสร้างโครงการนี้” นายสูเตีย กล่าว
.

.

กองกำลังกะฉิ่นอืิสระที่เรียกร้องการปกครองตนเองในพม่า ได้ส่งผู้แทนเข้าหารือกับผู้เจรจาจากรัฐบาลพม่าที่เมืองรุ่ยลี่ เมืองติดพรมแดนพม่าในมณฑลหยุนหนันของจีน ช่วงสัปดาห์นี้ เพื่อพยายามที่จะหาข้อตกลงยุติการต่อสู้ที่ทำให้ประชาชนราว 50,000 คน ต้องอพยพย้ายถิ่น

“รัฐบาลมณฑลหยุนหนันพยายามที่จะช่วยเหลือผลักดันให้สองฝ่ายหาทางแก้ปัญหาอย่างสันติและสนับสนุนให้มีการไกล่เกลี่ย เรามีความยินดีที่เห็นว่าทั้งสองฝ่ายติดต่อหารือกัน เราพร้อมจัดหาให้ความสะดวกในทางที่เราสามารถทำได้เพื่อความคืบหน้า แม้ปัญหาในรัฐกะฉิ่นยังคงมีอยู่ก็ตาม” นายสูเตีย กล่าว

จีนได้เรียกร้องกับพม่าเมื่อเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา ว่า ให้พม่ารักษาความมั่นคงบริเวณพรมแดนให้ดียิ่งขึ้น แต่ขณะเดียวกันจีนก็ปฏิเสธการมีอยู่ของผู้ลี้ภัย ซึ่งนายสูเตียกล่าวว่า รัฐบาลมณฑลหยุนหนันให้การช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมต่อผู้ลี้ภัยเหล่านี้

“เราเชื่อว่า บนพื้นฐานของฉันทามติที่บรรลุโดยรัฐบาลจีนและรัฐบาลพม่า และระหว่างรัฐบาลในพื้นที่กับฝ่ายปกครองกะฉิ่น เราจะสามารถจัดการปัญหาผู้ลี้ภัยอย่างเหมาะสม”

ทั้งนี้ สหภาพยุโรปและสหรัฐระบุให้การตกลงสันติภาพกับกลุ่มชาติพันธุ์ชนกลุ่มน้อยเป็นเงื่อนไขที่จำเป็นต้องดำเนินการให้เรียบร้อยก่อนยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรต่อพม่า