ASTVผู้จัดการออนไลน์ -- กระทรวงศึกษาธิการและฝึกอบรมเวียดนาม เปิดตัวเลขที่น่าสนใจ ปีที่แล้วได้สั่งโละโครงการระดับปริญญาโทกับปริญญาเอกของสถาบันการศึกษาต่างๆ กว่า 100 โครงการ เนื่องจาก “ขาดคุณสมบัติ” ที่จะเปิดสอนและประศาสน์ปริญญามหาบัณฑิตและดุษฎีบัณฑิต
นายฟัมหวูลวน (Phạm Vũ Luận) รัฐมนตรีศึกษาธิการเป็นผู้เปิดเผยตัวเลขดังกล่าว ในขณะที่สังคมกำลังโจษจันเกี่ยวกับคุณภาพในการจัดการศึกษาของประเทศ และ เรื่องนี้เป็นประเด็นวิจารณ์ที่เผ็ดร้อนตามเว็บไซต์ต่างๆ
รัฐมนตรีเวียดนาม กล่าวว่า กระทรวงได้ออกคำแนะนำไปยังมหาวิทยาลัยและวิทยาลัยทั่วประเทศให้ปรับโครงการฝึกอบรม ให้สามารถสนองความต้องการของผู้เรียนได้ดีขึ้น และ ได้ปรับมาตรฐานหลายอย่างให้สูงขึ้นอีกด้วย เพื่อพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ของประเทศ
“กระทรวงได้ออกมาตรการที่มีมาตรฐานสูงขึ้นสำหรับมหาวิทยาลัยต่างๆ ในการเปิดสอนระดับปริญญาโทและเข้มงวดในการตรวจตรามากยิ่งขึ้น ปีที่แล้วกระทรวงได้สั่งยกเลิกแผนการเรียนการสอนไปกว่า 100 โครงการ” สำนักข่าวซเวินจี๊ออนไลน์รายงานในวันพฤหัสบดี 8 มี.ค.ศกนี้ อ้างคำพูดของ รมว.ศึกษาธิการ
กระทรวงยังได้เร่งเร้าให้สถาบันอุดมศึกษาขยายความสัมพันธ์ออกสู่ธุรกิจแขนงต่างๆ รวมทั้งมหาวิทยาลัยด้วยกันทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทั้งนี้เพื่อปรับปรุงหลักสูตรกับวิธีการฝึกอบรม
กระทรวงศึกษาธิการ ยังมีมาตรการส่งเสริมฐานะของครูอาจารย์ในสาขาที่สำคัญเช่น การเกษตร-ป่าไม้ วิชาการประมงและวิชาการศึกษา โดยจ่ายค่าตอบแทนเพิ่มให้อีก 24-45% ของเงินเดือน
.
.
ในเวียดนามมีคำเรียกเจ้าหน้าที่ของรัฐเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่ม “เงินเดือนแข็ง” ซึ่งหมายถึงกลุ่มที่มีรายได้เป็นเงินตอบแทนอื่นๆ หรือได้รับสวัสดิการที่ดีกว่าหรือมากกว่า นอกเหนือจากเงินเดือนประจำ กับกลุ่ม "เงินเดือนอ่อน" ที่ได้รับค่าตอบแทนเป็นเงินเดือนเพียงอย่างเดียว
ปัจจุบันกลุ่ม “เงินเดือนแข็ง” ยังขยายออกคลอบคลุมถึงครูอาจารย์ที่ด้อยโอกาสในเขตห่างไกล เช่น เขตเขาและเขตที่ชนชาติส่วนน้อยอยู่อาศัย โดยจะได้รับเงินตอบแทนพิเศษสูงถึง 70% ของเงินเดือน รัฐมนตรีเวียดนาม กล่าว
ส่วนอีกทางหนึ่ง ปัจจุบันสถาบันการศึกษาต่างๆ เก็บค่าเล่าเรียนจากนักศึกษาแขนงการเกษตรการป่าไม้และการประมงในอัตราต่ำกว่าปรกติ กระทรวงยังมีแผนการจะยกเว้นค่าเล่าเรียนให้แก่นักศึกษาที่เรียนในแขนงวิชาการศึกษาอีกด้วย ซเวินจี๊ กล่าว
ตามรายงานของสื่อทางการ ปัจจุบันนักศึกษาและครูอาจารย์หลายพันคนกำลังศึกษาในสถาบันการศึกษาที่มีชื่อเสียงในประเทศ ตามโครงการผลิตผู้เรียนจบระดับปริญญาเอกให้ได้ 20,000 คนภายในปี 2563 นี้ ที่เริ่มมาตั้งแต่ปี 2552 เพื่อให้กลับไปเป็นผู้สอนตามโรงเรียนหรือสถาบันอุดมศึกษา
และในขณะที่การศึกษาในประเทศดูจะมีปัญหา นักศึกษาเวียดนามกว่า 100,000 คนก็กำลังศึกษาอยู่ในหลายประเทศทั่วโลก สถิติของฝ่ายสหรัฐฯ กล่าวว่า ในปีการศึกษา 2553-2554 นักเรียนนักศึกษาชาวเวียดนามที่เรียนอยู่ในสหรัฐฯ มีจำนวนมากเป็นอันดับ 9 ของโลก มากกว่านักศึกษาจากประเทศเพื่อนบ้านในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ทั้งหมด