เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์/ เอเอฟพี - ความคืบหน้าเหตุการณ์ผู้ร้ายบุกตลาดในเขตอำเภอทางตอนใต้ของซินเจียง (28 ก.พ.) ใช้ขวานจามประชาชนจนเสียชีวิตสิบกว่ารายนั้น ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมคนร้ายที่ใช้ของมีคมเป็นอาวุธชาวอุยกูร์ได้แล้ว 2 ราย ขณะที่อีก 7 รายที่เหลือถูกวิสามัญฆาตกรรม ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตทั้งพลเรือนและผู้ร้ายรวมกันเป็น 20 รายแล้ว
เว็บไซต์เทียนซานของรัฐบาลท้องถิ่นออกมาเผย (29 ก.พ.) ว่า ยอดผู้เสียชีวิตฯ รวมเป็น 20 รายแล้ว ประกอบไปด้วยประชาชนบริสุทธิ์ 13 ราย และคนร้ายอีก 7 รายที่ถูกเจ้าหน้าที่วิสามัญฯ
นายโฮ่ว หันหมิ่น โษฆกรัฐบาลท้องถิ่นซินเจียงฯ แถลง (29 ก.พ.) ว่า “นอกจากพลเรือนแล้ว 7 ใน 9 ของผู้ร้ายถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจยิงเสียชีวิตในช่วงเหตุการณ์โจมตี และต่อมาอีก 2 รายที่เหลือก็ถูกจับกุม ขณะนี้รัฐบาลจะยังคงไต่สวนและตั้งคำถามผู้ต้องสงสัยที่จับกุมได้นี้ต่อไป”
โฮ่ว เผยว่า ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นชาวจีนฮั่น มีทั้งสตรี เด็ก และคนชรา นอกจากนั้นมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกกว่า 10 ราย ซึ่งทั้งหมดก็ไม่ถึงกับเป็นอันตรายรุนแรงถึงชีวิต
ขณะที่ศูนย์ข้อมูลข่าวสารด้านสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตยในฮ่องกงเผยว่า เหยื่อผู้เสียชีวิตทั้งหมดเป็นชาวจีนฮั่น
โฮ่ว ยืนยันว่า มีผู้ช่วยเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างน้อย 1 คน ถูกสังหารในครั้งนี้ด้วย แต่โฮ่วก็ไม่ได้บอกจำนวนที่แน่ชัดว่ามีเจ้าหน้าที่ฯ เสียชีวิตในครั้งนี้กี่นาย
การโจมตีครั้งนี้เกิดขึ้นไม่ถึง 1 สัปดาห์ก่อนจะเริ่มการประชุมสภาที่ปรึกษาการเมืองประชาชนจีนในวันเสาร์ และสภาผู้แทนประชาชนฯ ในวันจันทร์นี้
ด้านนายหง เล่ย โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีน ออกมาประณามกลุ่มคนร้ายว่าเป็นพวกก่อการร้าย พร้อมกับเผยว่า พวกเขาได้กระทำการอุกอาจสังหารพลเรือนผู้บริสุทธิ์อย่างโหดเหี้ยม
โฮ่วเผยต่อว่า “ครั้งนี้ถือเป็นความรุนแรง เป็นการโจมตีที่สร้างความสะพรึงกลัว มีเป้าหมายใช้พลเรือนเป็นเหยื่อ และพยายามสร้างปัญหาให้สาธารณชนทั่วไปแตกตื่น”
โฮ่วเสริมว่า มือสังหารฯ เหล่านี้เลือกช่วงเวลาการโจมตีบริเวณย่านถนนคนเดินตลาดเมืองเย่เฉิงอันพลุกพล่าน ในเขตเมืองคาสือ มณฑลซินเจียง
อย่างไรก็ตาม สภาอุยกูร์โลกซึ่งมีฐานที่มั่นในเยอรมนีเผยว่า รัฐบาลเมืองเย่เฉิงได้จับกุมประชาชนไป 84 คน พร้อมปิดทางเข้าออกไม่ให้ติดต่อกับผู้ใด
ฝ่ายแหล่งข่าวท้องถิ่นกลุ่มหนึ่งฯ เผยว่า 7 ใน 12 คนผู้เสียชีวิตเป็นทหารจีนหน่วยลาดตระเวนของกองทัพ
“เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเนื่องจากชาวอุยกูร์ทนการกดขี่ของจีนไม่ไหวอีกต่อไป จึงใช้วิธีการแบบป่าเถื่อนในการตอบโต้” ดิลซัท แรกซิท โฆษกสภาอุยกูร์โลกเผยแถลงการณ์ฯ
แรกซิทประณามการไหลทะลักของชาวจีนฮั่นที่เข้ามายังพื้นที่ และเหยียดหยามว่าชาวอุยกูร์เป็นพวกชอบใช้กำลัง
“ชาวอุยกูร์ได้ลองใช้วิธีการต่อต้านที่สันติมานานแล้ว” แรกซิทกล่าว “มาตรการกดดันของจีนและการยุแหย่ให้ชาวฮั่นทะลักเข้ามาในพื้นที่เป็นแรงกระตุ้นให้เกิดความรุนแรง”
ซินเจียงจัดเป็นพื้นที่อ่อนไหวทางการเมืองสืบเนื่องจากความขัดแย้งชนชาติส่วนน้อยระหว่างอุยกูร์และชาวจีนฮั่น ความขัดแย้งยิ่งทวีอุณหภูมิสูงขึ้น หลังจากที่เกิดเหตุจลาจลระหว่างชาวจีนฮั่นและอุยกูร์ในเมืองเอกอูหลู่มู่ฉี เมื่อเดือนก.ค.ปี 2552 ซึ่งมีผู้เสียชีวิต 197 คน และบาดเจ็บร่วม2,000 คน นับเป็นความขัดแย้งระหว่างชนชาติที่แรงสุดในรอบหลายทศวรรษของจีน
รัฐบาลมณฑลซินเจียงเผยเมื่อเดือนที่ผ่านมาว่า พวกเขามีแผนการคัดเลือตำรวจพิเศษจำนวน 8,000 นายลงไปประจำการในพื้นที่ดังกล่าว เพื่อตรึงกำลังรักษาความปลอดภัยเพิ่มเติมในช่วงที่จีนกำลังจะเข้าสู่ช่วงการเปลี่ยนผู้นำในปลายปีนี้