เอเอฟพี - กลุ่มคนถือขวานเป็นอาวุธบุกเข้าทำร้ายคนในตลาดในเขตมณฑลซินเจียงของจีน ฟันไม่เลือก ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 12 ราย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวจีนฮั่น
สำนักข่าวซินหวาของจีนเผยว่า แรงจูงใจเบื้องหลังของการโจมตีเมื่อสายวันอังคาร (28 ก.พ.)ยังไม่มีความชัดเจน ในช่วงไม่กี่ปีนี้เกิดเหตุการณ์โจมตีเช่นนี้ในซินเจียงหลายครั้ง และรัฐบาลจีนก็ประณามกลุ่มแบ่งแยกดินแดนและกลุ่มก่อการร้ายเป็นนิจ
ตำรวจให้สัมภาษณ์กับเอเอฟพีทางโทรศัพท์ว่า ชาวอุยกูร์ประมาณ 10 กว่าคนบุกเข้าโจมตีผู้คนในตลาดเมืองเย่เฉิง สังหารประชาชนไป 10 คน
จากนั้นตำรวจได้วิสามัญคนร้ายไป 5 คน
ขณะที่สำนักข่าวซินหวาของจีนรายงานว่าจำนวนผู้โจมตีที่ถูกสังหารนั้นมีแค่ 2 คน และเพิ่มเติมว่าในมือผู้ร้ายถืออาวุธมีด
ขณะนี้เจ้าหน้าที่รัฐบาลท้องถิ่นไม่สามารถติดต่อได้
ซินเจียงมีอาณาบริเวณติดกับปากีสถานและอัฟกานิสถาน เป็นที่อยู่อาศัยของชาวอุยกูร์ประมาณ 9 ล้านคน ซึ่งส่วนใหญ่ไม่พอใจกับการปกครองที่กดดันของรัฐบาลจีน โดยเฉพาะการเพิ่มจำนวนชาวฮั่นซึ่งเป็นชนส่วนใหญ่ของจีนเข้าไปยังพื้นที่ เมื่อทศวรรษที่ผ่านมา และนับวันจะยิ่งทวีจำนวนมากขึ้น
“เมื่อเวลาประมาณ 5.30-6.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น คนร้ายจำนวน 10 กว่าคนถือขวานยืนปรากฏตัวอยู่ในตลาด ซึ่งผู้คนที่เดินไปมาส่วนใหญ่ในนั้นเป็นชาวฮั่น” เจ้าหน้าที่แซ่ทัวเผย
“เหยื่อคมขวานส่วนใหญ่เป็นชาวฮั่น แต่บางคนก็เป็นชาวอุยกูร์ ผู้ก่อเหตุ 5 รายถูกยิงเสียชีวิตไม่ใช่ 2 รายตามที่ซินหวารายงาน ส่วนผู้ก่อเหตุทั้งหมดเป็นชาวอุยกูร์”
รัฐบาลมณฑลซินเจียงเผยเมื่อเดือนที่ผ่านมาว่า พวกเขามีแผนการคัดเลือตำรวจพิเศษจำนวน 8,000 นายลงไปประจำการในพื้นที่ดังกล่าว เพื่อตรึงกำลังรักษาความปลอดภัยเพิ่มเติมในช่วงที่จีนกำลังจะเข้าสู่ช่วงการเปลี่ยนผู้นำในปลายปีนี้
สภาอุยกูร์โลกในเยอรมนี เผยว่า รัฐบาลเมืองเย่เฉิงได้จับกุมประชาชนไว้จำนวน 84 คน โดยปิดทางเข้าออกไม่ให้ผู้ใดเยี่ยมเยียน
สภาฯ อ้างแหล่งข่าวท้องถิ่นแถลงด้วยว่า 7 ใน 12 คนที่ถูกสังหารเมื่อวันอังคารนั้น เป็นชาวจีนที่เป็นหน่วยลาดตระเวนของกองทัพ
“เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเนื่องจากชาวอุยกูร์ทนการกดขี่ของจีนไม่ไหวอีกต่อไป จึงใช้วิธีการแบบป่าเถื่อนในการตอบโต้” ดิลซัท แรกซิท เผยในแถลงการณ์ของสภาฯ
แรกซิทประณามการไหลทะลักของชาวจีนฮั่นที่เข้ามายังพื้นที่ และเหยียดหยามว่าชาวอุยกูร์เป็นพวกชอบใช้กำลัง
“ชาวอุยกูร์ได้ลองใช้วิธีการต่อต้านที่สันติมานานแล้ว” แรกซิทกล่าว “มาตรการกดดันของจีนและการยุแหย่ให้ชาวฮั่นทะลักเข้ามาในพื้นที่เป็นแรงกระตุ้นให้เกิดความรุนแรง”
ซินเจียงจัดเป็นพื้นที่อ่อนไหวทางการเมืองสืบเนื่องจากความขัดแย้งชนชาติส่วนน้อยระหว่างอุยกูร์และชาวจีนฮั่น ความขัดแย้งยิ่งทวีอุณหภูมิสูงขึ้น หลังจากที่เกิดเหตุจลาจลระหว่างชาวจีนฮั่นและอุยกูร์ในเมืองเอกอูหลู่มู่ฉี เมื่อเดือนก.ค.ปี 2552 ซึ่งมีผู้เสียชีวิต 197 คน และบาดเจ็บร่วม2,000 คน นับเป็นความขัดแย้งระหว่างชนชาติที่แรงสุดในรอบหลายทศวรรษของจีน
ในเดือนธ.ค. เจ้าหน้าที่จีนตัดสินใจวิสามัญกลุ่มคน 7 คน ในอำเภอผีซาน โดยอ้างว่าเป็นโจรลักพาตัว ขณะที่สภาอุยกูร์ชี้ว่าเป็นความขัดแย้งปกติระหว่างชาวอุยกูร์และตำรวจจีน ต่อความไม่พอใจเรื่องการปราบปรามและการกดดันเสรีภาพทางศาสนาเท่านั้น