รอยเตอร์ --จีนตัดสินโทษจำคุกตลอดชีวิตแก่ชาวอุยกูร์สองคนที่ถูกกัมพูชาเนรเทศออกจากประเทศ ทั้งนี้จากรายงานข่าวของราดิโอ ฟรี เอเชียเมื่อวันศุกร์(27 ม.ค.)
การตัดสินโทษขั้นหนักแก่ชนชาติส่วนน้อยอุนกูร์แห่งมณฑลซินเจียงเช่นนี้ เป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าจีนจะไม่คลายมือเหล็กในการควบคุมเขตปกครองชนชาติอุยกูร์มณฑลซินเจียง ซึ่งอุดมไปด้วยทรัพยากรแก๊สธรรมชาติและน้ำมัน
การตัดสินยังเป็นจังหวะเวลาเดียวกับเหตุการณ์ปะทะในซื่อชวน(เสฉวน) ระหว่างตำรวจและชนชาติทิเบตในสัปดาห์นี้ ความขัดแย้งรุนแรงเหล่านี้ยังได้ปะทุขึ้นในช่วงอ่อนไหวทางการเมืองของผู้นำจีน ได้แก่ การถ่ายโอนอำนาจกลุ่มการนำสูงสุดในต้นปีนี้ และในเดือนหน้า รองประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ก็จะไปเยือนสหรัฐฯ ทั้งนี้ วงการเชื่อกันว่าสี จิ้นผิงจะเป็นประธานาธิบดีจีนคนต่อไป ที่จะตำแหน่งในต้นปีนี้
กลุ่มสิทธิมนุษย์โลกได้วิพากษ์วิจารณ์กัมพูชากรณีเนรเทศผู้ที่มาขอลี้ภัยการเมือง อันหมายถึงชาวอุยกูร์สองคนที่ถูกจีนตัดสินจำคุกตลอดชีวิต
จีนได้ทุ่มการลงทุนและการค้าจำนวนมากในกัมพูชา และสองวันหลังจากที่กัมพูชาเนรเทศชาวอุยกูร์ในเดือนธ.ค. 2552 รองประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ก็ได้เยือนกรุงพนมเปญ และมีการลงนามสัญญาการค้า มูลค่า 850 ล้านเหรียญสหรัฐ
ราดิโอ ฟรี เอเชีย (Radio Free Asia) ซึ่งเป็นสื่อทุนอเมริกัน ได้รายงานข่าวการตัดสินจำคุกตลอดชีวิตชาวอุยกูร์สองคน โดยอ้างแหล่งข่าวครอบครัวของชาวอุยกูร์ที่โดนตัดสินนี้ และแหล่งข่าวเจ้าหน้าที่ในซินเจียง โดยไม่มีรายละเอียดวันเวลาในการตัดสิน หรือข้อกล่าวหาต่อชาวอุยกูร์ทั้งสองนี้
ชาวอุยกูร์ที่ถูกตัดสินสองคนนี้ เป็นกลุ่มอุยกูร์ 20 คน ที่ขอลี้ภัยในกัมพูชา หลังจากเหตุการณ์จลาจลจากการปะทะระหว่างชาวอุยกูร์ และจีนฮั่นเมื่อเดือนก.ค. 2552
ทั้งนี้ ชาวอุยกูร์เป็นชนส่วนน้อยในขตปกครองตัวเองชนชาติอุยกูร์มณฑลซินเจียง ส่วนใหญ่เป็นมุสลิม พูดภาษาเตอร์กิค ชาวอุยกูร์จำนวนมากไม่พอใจการปกครองของจีนและการควบคุมทางศาสนา วัฒนธรรม และภาษา