เวียดนามแอร์ไลนส์กางแผนฮุบ เจ็ทสตาร์แปซิฟิก

ASTVผู้จัดการออนไลน์ -- มีความเป็นไปได้อย่างสูงที่สายการบินแห่งชาติเวียดนาม จะเข้าซื้อหุ้นส่วนข้างมากในสายการบินเจ็ทสตาร์แปซิฟิก (Jet Star Pacifica) ที่สายการบินแควนตัส (Qantas) ของออสเตรเลียร่วมถือหุ้นอยู่ด้วย 27% ทั้งนี้เพื่อแข่งขันแบบต้นทุนต่ำกับสายการบินของเอกชนทั้งในประเทศและต่างประเทศ

บรรษัทเพื่อการลงทุนแห่งรัฐ (State Capital Investment Corp) ของรัฐบาลถือหุ้น 70% อีก 3% ที่เหลือเป็นหุ้นของกลุ่มไซ่ง่อนทัวริสท์ (Saigon Tourist Holdings) หุ้นส่วนฝ่ายเวียดนามทั้งสองรายนี้ต่างแสดงความประสงค์ที่จะขายให้แก่เวียดนามแอร์ไลนส์ สำนักข่าวซเวินจี๊รายงาน

นายฝั่มหง็อกมีง (Pham Ngoc Minh) ซีอีโอของเวียดนามแอร์ไลนส์กล่าวเมื่อเดือนที่แล้วว่า สายการบินแห่งชาติกำลังต้องการจะมีสายการบินแบบต้นทุนต่ำของตัวเอง เพื่อขยายฐานการให้บริการแก่สังคม

เจ็ทสตาร์แปซิฟิกให้บริการแบบต้นทุนต่ำแต่ยังขาดทุนต่อเนื่อง และผู้คนระดับบริหารในอุตสาหกรรมนี้กล่าวว่า เป็นเพราะนโยบายของรัฐที่ต้องการรักษาฐานการตลาดของสายการบินแห่งชาติเอาไว้ ซึ่งทำให้เจ็ทสตาร์แปซิฟิกถูกจำกัดการเติบโต

สายการบินร่วมทุนนี้ยังมีปัญหากับคณะกรรมการบริหารการบินพลเรือนแห่งชาติมาตลอด โดยหน่วยงานนี้กล่าวว่าเครื่องหมายการค้า "เจ็ทสตาร์" ที่ใช้อยู่นั้นเป็นแบรนด์ต่างชาติ ขณะที่เป็นสายการบินของเวียดนาม

อีกปัญหาหนึ่งที่เจ็ทสตาร์แปซิฟิกประสบอยู่ก็คือ ค่าบริการต่างๆ ที่ท่าอากาศยานโดยเฉพาะอย่างยิ่งเชื้อเพลิงอากาศยาน ที่ผูกขาดโดยบริษัทลูกของเวียดนามแอร์ไลนส์ ซึ่งกล่าวว่า เจ็ทสตาร์แปซิฟิกค้างค่าบริการตลอดมา และจ่ายไม่ตรงเวลา
.

.
นิตยสารเอวิเอชั่นวีค (Aviation Week) รายงานในสัปดาห์นี้ อ้างการสัมภาษณ์ของโฆษกหญิงสายการบินเจ็ทสตาร์ในสิงคโปร์ ที่ยอมรับว่า กำลังมีการเจรจาซื้อขายหุ้นในเจ็ทสตาร์แปซิฟิกจริงแต่ยังไม่ได้ข้อสรุป

ความเคลื่อนไหวเรื่องนี้ยังมีขึ้นในช่วงเดียวกับที่รัฐบาลเวียดนามไม่อนุญาตแผนการร่วมทุนระหว่างสายการิบนแอร์เอเชีย (Air Asia) แห่งมาเลเซีย กับสายการบินเวียดเจ็ทแอร์ โดยใช้เครื่องหมายของแอร์เอเชียและเปลี่ยนชื่อเป็น "เวียดเจ็ทแอร์เอเชีย" ซึ่งฝ่ายมาเลเซียกล่าวว่าเป็นเรื่องจำเป็นยิ่งยวด

หลายปีมานี้เวียดนามออกใบอนุญาตให้สายการบินเอกชนหลายสาย รวมทั้งอินโดไชน่าแอร์ไลนส์ (Indochina Airlines) ที่ถูกบังคับให้ต้องขึ้นบินในช่วงปี 2551 ที่เศรษฐกิจโลกตกต่ำ และพับฐานในปลายปีเดียวกันพร้อมหนี้สินหลายล้านดอลลาร์

ปัจจุบันถึงเวลาที่เวียดเจ็ทแอร์จะต้องเปิดให้บริการหลังจากขอผัดผ่อนมาหลายครั้งตั้งแต่ปี 2551 หรือหากไม่เช่นนั้นก็จะถูกยึดใบอนุญาต

เวียดนามยังออกใบอนุญาตให้กับสายการบินจ๋ายเทียนแอร์ (Trai Thein Air) ซึ่งปวารณาตัวเองเป็นสายการบินขนส่งสินค้า แต่ 3 ปีผ่านมาก็ยังไม่สามารถขึ้นบินได้

ปัจจุบันมีสายการิบนเอกชนเพียงแห่งเดียวที่เปิดให้บริการในเวียดนามคือ แอร์แม่โขง (Air Mekong) ซึ่งใช้เกาะฟุก๊วกในอ่าวไทยเป็นฐานการบิน โดยจำหน่ายตั๋วโดยสารราคาเดียวกับสายการบินแห่งชาติ.