xs
xsm
sm
md
lg

เวียดนามแอร์ไลน์สเล็งเปิดสายการบินต้นทุนต่ำ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

<br><FONT color=#000033> ภาพถ่ายวันที่ 19 ก.ย. เครื่องบินของสายการบินเวียดนามแอร์ไลน์ส (ขวา) กำลังแท็กซี่ไปบนรันเวย์ ถัดจากเครื่องบินของสายการบินต้นทุนต่ำเจ็ตสตาร์แปซิฟิก ในสนามบินโนยบ่าย กรุงฮานอย. --AFP PHOTO/Hoang Dinh Nam. </font></b>

เอเอฟพี - เวียดนามแอร์ไลน์ส ซึ่งเป็นสายการบินแห่งชาติของเวียดนาม กำลังพิจารณาเข้าแชร์ส่วนแบ่งตลาดในส่วนของสายการบินต้นทุนต่ำที่กำลังเฟื่องฟูอย่างมากในตลาดเอเชีย ขณะเดียวกัน ก็ตั้งเป้าให้ประเทศกลายเป็นฐานหลักเพื่อเป็นประตูสู่ภูมิภาคอินโดจีน

นายฝ่าม หง็อค มีงห์ ประธานและซีอีโอสายการบินแห่งชาติ ระบุว่า กำลังเผชิญกับแรงกดดันจากการเติบโตของบรรดาผู้ให้บริการสายการบินต้นทุนต่ำในเอเชีย

“เรามองเห็นโอกาสในภาคส่วนของสายการบินต้นทุนต่ำ” นายฝ่าม หง็อค มีงห์ กล่าว แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับแผนของบริษัท

ตั้งแต่สายการบินแอร์เอเชียของมาเลเซีย ไปจนถึงสายการบินโกแอร์ของอินเดีย และสายการบินซีบูแปซิฟิกของฟิลิปปินส์ สายการบินต้นทุนต่ำเหล่านี้ต่างขยายเส้นทางบินไปทั่วเอเชียในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แข่งขันกับสายการบินแห่งชาติที่มีราคาสูงกว่า

นักวิเคราะห์บางคน ระบุว่า ตลาดการบินในตอนนี้แน่นขนัดไปด้วยสายการบินสายต่างๆ แต่บางคนเชื่อว่ายังคงมีพื้นที่ให้แข่งขันได้อีกเป็นจำนวนมาก

นักวิเคราะห์ด้านการบินจากสถาบันวิจัยของบริษัท สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ ระบุว่า ในประชากรชาวเวียดนามทั้งหมด 86 ล้านคน มีประชาชนจำนวนเพียงเล็กน้อยเท่านั้นที่สามารถรองรับค่าใช้จ่ายสำหรับเดินทางทางอากาศได้ และสายการบินเวียดนามควรพิจารณาอย่างรอบคอบในการเริ่มต้นให้บริการสายการบินต้นทุนต่ำ

เวียดนามแอร์ไลน์ส หวังที่จะให้สนามบินที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ 2 แห่ง คือ สนามบินโนยบ่าย ในกรุงฮานอย และสนามบินเตินเซินเญิ๊ต ในนครโฮจิมินห์ เป็นประตูสู่เวียดนาม กัมพูชา และ ลาว ซึ่งเป็นภูมิภาคที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว แข่งกับกรุงเทพฯ และศูนย์การบินแห่งอื่นๆ ในภูมิภาค

นักวิเคราะห์คนเดิม ยอมรับว่า ภูมิภาคอินโดจีน ที่มีประชากรรวมกันมากกว่า 100 ล้านคนนั้น มีศักยภาพด้านการท่องเที่ยวอย่างมาก แต่เวียดนามก็ยังคงอยู่ห่างจากการมีสถานะเป็นศูนย์กลางทางการบินอยู่ดี
<br><FONT color=#000033> นายฝ่าม หง็อค มีงห์ ประธานและซีอีโอสายการบินเวียดนามแอร์ไลน์ส ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับการพิจารณาเปิดสายการบินต้นทุนต่ำเพื่อเข้าแบ่งส่วนในตลาดสายการบินต้นทุนต่ำที่กำลังเฟื่องฟูในเอเชีย. --AFP PHOTO/Hoang Dinh Nam. </font></b>
นายโจนาธาน กาลาวิซ นักเศรษฐศาสตร์จากบริษัทให้คำปรึกษาด้านการท่องเที่ยวและสันทนาการ ระบุว่า เวียดนามต้องใช้เงินทุนอีกเป็นจำนวนมากกับสนามบินและระบบโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ เพื่อเป็นศูนยกลางการบินและประตูสู่ภูมิภาคที่จะสามารถแข่งกับศูนย์กลางทางการบินอย่างสิงคโปร์ หรือ ฮ่องกง ได้

รัฐบาลเวียดนาม ระบุว่า จำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเวียดนามในช่วง 8 เดือนแรกของปี (ม.ค.-ส.ค.) มีมากกว่า 3.9 ล้านคน แต่เมื่อเทียบกับนักท่องเที่ยวที่เดินทางไปเยือนสิงคโปร์ เพียงแค่ 3 เดือน (ม.ค.-มี.ค.) ก็มีจำนวนมากกว่า 3 ล้านคนแล้ว

แต่นักวิเคราะห์กล่าวว่า จำนวนนักเดินทางสามารถเพิ่มขึ้นได้หากสายการบินเวียดนามแอร์ไลน์สเปิดให้บริการเส้นทางบินไปยังสหรัฐฯ ที่เป็นบ้านของชาวเวียดนามอพยพอีกกว่า 4 ล้านคน แต่เที่ยวบินไปยังฝั่งตะวันตกของสหรัฐฯยังไม่สามารถเริ่มต้นได้ เนื่องจากยังอยู่ในระหว่างการพิจารณาอนุมัติด้านความปลอดภัยและมาตรฐานอื่นของๆ ของเวียดนาม โดยสำนักงานบริหารการบินแห่งชาติของสหรัฐฯ

นายฝ่าม หง็อค มีงห์ กล่าวว่า สายการบินเวียดนามแอร์ไลน์ส ให้บริการเส้นทางบินไปยัง 55 ปลายทางใน 19 ประเทศ ทั้งบินตรงและบินร่วมกับสายการบินพันธมิตร และว่า สายการบินจะขยายเครือข่ายเส้นทางบินให้มากขึ้นในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และจีน

ในปี 2553 สายการบินเวียดนามแอร์ไลน์ส เป็นสายการบินแรกที่เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของเครือข่ายพันธมิตรสายการบินสกายทีม ที่รวมทั้งสายการบินเดลต้าแอร์ไลน์ส ของสหรัฐด้วย นอกจากนั้นสายการบินยังวางแผนที่จะเข้าตลาดหุ้นในอีก 2 ปีข้างหน้า เพื่อรองรับการขยายฝูงบินในอนาคต ที่ในปัจจุบันสายการบินมีเครื่องบินอยู่ประมาณ 70 ลำ ซึ่ง นายยฝ่าม หง็อค มีงห์ ระบุว่าสายการบินจะมีเครื่องบิน 115 ลำ ภายในปี 2558 และขยายฝูงบินเป็น 170 ลำ ในปี 2563
กำลังโหลดความคิดเห็น