ASTVผู้จัดการออนไลน์ -- หนุ่มหล่อนักดนตรีเวียดนามอเมริกันควงสาวคนรักกลับถิ่นเก่ามหาวิทยาลัยแห่งแคลิฟอร์เนียลอสแอนเจลีส (UCLA) จัด "แฟล็ชม็อบ" สารภาพรัก ขอแต่งงานแบบเซอร์ไพรส์ ฝูงชนแห่ช่วยเป็นงานเอิกเกริก คนนับแสนๆ ชมฉากโรแมนติกทางยูทิวน์ จนโทรทัศน์ CNN ซึ้งเชิญออกรายรายการ
เหตุการณ์เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 24 ก.ย. 2554 และเมื่อมีผู้นำเผยแพร่ผ่านยูทิวบ์ครั้งแรก ภายใน 3 วันเท่านั้น มีผู้เข้าชมคลิปกว่า 200,000 คน อีกกว่า 6,000 คนเข้าไปเขียนคำอวยพร นับเป็นฉากรักอันแสนโรแมนติกและยิ่งใหญ่ของหนุ่มสาวเชื้อสายเวียดนามคู่นี้ ท่ามกลางเพลงรักอันหวานซึ่ง จนทำให้ผู้คนในคลิปน้ำตาไหลพราก
เจิ่นนาม (Nam Tran) ตัดสินใจจูงมือเจนีจาง (Janie Trang) กลับไปยังสถาบันการศึกษาที่พบกันครั้งแรก ฝ่ายชายได้เตรียมการเอาไว้ก่อนโดยไม่แพร่งพรายให้ฝ่ายหญิงรู้ จนกระทั่งเสียงเพลงแว่วหวานดังขึ้นและผู้คนเริ่มเพ่งมองขณะออกเต้นไปตามจังหวะ จึงทำให้เจนี่เริ่มรู้สึกตัว
มีคนกว่า 100 เข้าร่วมในแฟล็ชม็อบบนลานกว้างภายในรั้ว UCLA เพื่อช่วยเจิ่นนามสารภาพรักและขอเจนีแต่งงาน ใต้บรรยากาศเสียงเพลง "Can't Take My Eyes Off You" ของแฟร็งกี วิลลี (Frankie Villi)
หลังเพลงจบลงและการเต้นรำผ่านไป นามได้เปิดเผยความในใจกับหญิงสาว
"ผมอยากจะให้คุณได้รู้ว่า ผมอยากจะอยู่ร่วมกันคุณจนชั่วชีวิตจะหาไม่และจะร่วมทุกร่วมสุขกับคุณ.. ผมรักคุณมากเหลือเกิน" นามกล่าว ขณะที่สาวจ้าวเขินอาย และน้ำตานองใบหน้า
ทั้งคู่ได้ย้อนอดีตเมื่อพบกันครั้งแรก ณ สถานที่แห่งนี้ ก่อนที่ฝ่ายชายจะคุกเข้าลงต่อหน้าเธอ เปิดกล่องแหวนหมั้นและถามด้วยประโยคทองว่า "คุณจะแต่งงานกับผมไหม?" (Will you marry me?) และ หญิงสาวตอบกลับสั้นๆ แต่เป็นทางการ Duh หรือ Yes ซึ่งมีความหมายว่า "ตกลงค่ะ" ก่อนน้ำตาจะพรั่งพรูออกมา
ก่อนจบฉากรักโรแมนติก ทั้งคู่จุมพิตอย่างดื่มด่ำต่อหน้าฝูงชน เพื่อนๆ ทยอยเข้าอวยพร หญิงสาวหลายคนที่ร่วมในเหตุการณ์พาลน้ำตาเจ้ากรรมไหลพรากด้วยความปลื้มปีรติ ชาวเน็ตพากันชื่นชมฉากรักระหว่างเจิ่นนามกับเจนีจาง
คลิปอันเป็นต้นฉบับแรกไม่สามารถเปิดเข้าลิงค์ได้ในวันที่ 30 ก.ย.นี้หลังจากมีผู้เข้าไปชมกว่า 240,000 คน ในวันที่ 29 ซึ่งเป็นวันที่สี่ แต่ก็มีผู้นำคลิปชุดใหม่ที่ผ่านการตัดต่อขึ้นเผยแพร่ในยูทิวบ์อีกหลายสำเนา
.
.
นามได้เกริ่นกับผู้ชมในต้นคลิปชุดใหม่ว่า เขาเองกำลังจะสารภาพรักกับเจนี แต่ไม่แน่ใจว่าปฏิบัติการครั้งนี้จะสำเร็จหรือไม่ เขาสารภาพกับผู้ชมว่ากลัวอยู่ไม่น้อยในการทำแฟล็ชม็อบครั้งนี้ เกรงว่าหญิงคนรักจะไม่เอาด้วย
เพียง 3 วันต่อมาทั้งคู่ได้รับเชิญไปออกรายการ American Morning ซึ่งเป็นรายการข่าวบันเทิงของโทรทัศน์ซีเอ็นเอ็นในสหรัฐฯ เจนีกล่าวว่ารู้สึกตัวว่าแฟล็ชม็อบเป็นเหตุการณ์พิเศษสำหรับตัวเธอ เมื่อได้เห็นคุณพ่อคุณแม่กับญาติๆ ของเธอจำนวนหนึ่งร่วมอยู่ฝูงชนที่ UCLA ด้วย ส่วนนามกล่าวว่าไม่คาดคิดจะมีผู้คนสนใจคลิปเหตุการณ์มากมายถึงขนาดนี้
นามกับเจนีบอกกับซีเอ็นเอ็นว่า ยังไม่ได้กำหนดวันแต่งงาน แต่ตกลงกันจะใช้ชีวิตอย่างมีความสุขแบบคู่รักต่อไปอีกสักพักหนึ่ง
เมื่อถามว่าเพราะเหตุใดจึงเลือกสารภาพรักด้วยวิธีนี้ แทนการนัดกันไปทานมื้อเย็นสักมื้อซึ่งง่ายกว่ามาก นามตอบว่าตัวเขาเองกับเจนีต่างอยู่กับดนตรีและชอบเต้นรำ การจัดแฟล็ชม็อบสารภาพรักจะเป็นการเข้าใกล้ “ดนตรีเพื่อชีวิตจริง” มากที่สุด
สื่อออนไลน์ในเวียดนามหลายแห่งรายงานในวันศุกร์ 30 ก.ย.นี้ว่า นามเจิ่นเป็นนักดนตรีคนหนึ่งของวง Thomas Apartment ซึ่งเล่นเพลงแนวรักหวานแหวว เป็นที่ชื่นชอบของบรรดาวัยรุ่นและนักศึกษา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประชาคมชาวเวียดนามหลายแสนคนที่อาศัยทำกินในสหรัฐฯ
เจนี จาง เป็นเมคอัพอาร์ติสต์ ทั้งคู่ต่างก็เป็นศิษย์เก่า UCLA มหาวิทยาลัยอันมีชื่อที่สุดอีกแห่งหนึ่งในสหรัฐฯ งานอาชีพให้พบกันอยู่บ่อยๆ และต่างก็ตกหลุมรัก
ในคลิปที่ตัดต่อใหม่และนำออกเผยแพร่ในช่วง 2 วันมานี้ ไช้เพลง Kiss Me อันแว่วหวานอมตะของวง Sixpence None The Richer เป็นแบ็กกราวด์ ก่อนปิดฉากแฟล็ชม็อบสารภาพรักลงอย่างหวานชื่น.