xs
xsm
sm
md
lg

เวียดนาม-อินโดฯ เห็นชอบลาดตระเวนน่านน้ำร่วมกัน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

<br><FONT color=#000033> นายกรัฐมนตรีเหวียน เติ๋น ยวุ๋ง ของเวียดนาม (กลางซ้าย) และประธานาธิบดีสุสิโล บัมบัง ยุโดโยโน  ของอินโดนีเซีย (กลางขวา) เดินร่วมกันระหว่างการหารือที่กรุงจาการ์ตา วันที่ 14 ก.ย. ในการเดินทางเยือนอินโดนีเซียอย่างเป็นทางการของนายกเวียดนามเป็นเวลา 1 วัน. -- AFP PHOTO /Bay Ismoyo. </font></b>

เอเอฟพี - เวียดนาม และ อินโดนีเซีย ต่างเห็นพ้องร่วมกันในวันนี้ (14 ก.ย.) ที่จะดำเนินการลาดตระเวนร่วมในพรมแดนน่านน้ำของทั้งสองประเทศ เพื่อปรับปรุงความมั่นคงให้ดียิ่งขึ้นในบริเวณน่านน้ำทะเลจีนใต้ ที่จีนอ้างสิทธิครอบครองเหนือพื้นที่ทั้งหมด

พื้นที่ทับซ้อนที่หลายชาติต่างอ้างสิทธิ เพราะเป็นพื้นที่ส่วนหนึ่งที่อุดมไปด้วยทรัพยากรแห่งนี้นำไปสู่ความตึงเครียดให้กับประเทศต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับจีนที่อ้างสิทธิเหนือดินแดนส่วนใหญ่ ในขณะที่เขตเศรษฐกิจจำเพาะของอินโดนีเซียก็ทับซ้อนกับพื้นที่ที่จีนอ้างสิทธิเช่นกัน

แม้ว่าอินโดนีเซียไม่ได้อ้างสิทธิเหนือเกาะใดๆ ในหมู่เกาะสแปร็ตลีย์ และพาราเซลล์ ที่เป็นข้อพิพาท แต่อินโดนีเซียอ้างสิทธิเหนือเกาะนูทาน่า ที่จีนเพิ่งออกมาอ้างสิทธิเช่นกันว่าเป็นของจีน ส่วนเวียดนามเองก็อ้างสิทธิเหนือพื้นที่บางส่วนในทะเลดังกล่าว

นายกรัฐมนตรี เหวียน เติ๋น ยวุ๋ง ของเวียดนาม เดินทางเยือนอินโดนีเซียอย่างเป็นทางการครั้งแรก นับตั้งแต่ได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งเป็นสมัยที่ 2 ในเดือน ก.ค.กล่าวว่า เวียดนาม และอินโดนีเซีย จำเป็นที่จะต้องลาดตระเวนพรมแดนของตนเองให้ดียิ่งขึ้น

“เราเห็นชอบที่จะให้รัฐมนตรีต่างประเทศหารือและลงนามในข้อตกลงที่จะจัดตั้งการลาดตระเวนร่วมในพื้นที่น่านน้ำและการติดต่อสื่อสารระหว่างทัพเรือของทั้งสองประเทศ” นายกฯยวุ๋ง กล่าว

นอกจากปัญหาเรื่องน่านน้ำพิพาทแล้ว ประมงชาวเวียดนามมักล่วงล้ำเข้าไปในน่านน้ำของอินโดนีเซีย ซึ่งทางการอินโดนีเซียยึดเรือที่ล่วงล้ำได้หลายร้อยลำในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา

“เราเห็นชอบที่จะร่วมมือในกิจการทางทะเลและประมงที่จำเป็นต้องดำเนินการเพื่อประโยชน์ต่อทั้งสองประเทศ รวมทั้งป้องกันการทำประมงผิดกฎหมาย” ประธานาธิบดี สุสิโล บัมบัง ยุดโดโยโน ของอินโดนีเซีย กล่าว

อินโดนีเซียสูญเสียรายได้ราว 30 ล้านล้านรูเปียห์ (3,500 ล้านดอลลาร์) ในแต่ละปี เพราะประมงผิดกฎหมายในน่านน้ำของประเทศ ส่งผลให้อินโดนีเซียออกกฎหมายในปี 2552 อนุญาตให้ทหารเรือยิงหรือจมเรือรุกล้ำได้

นอกจากนั้น ทั้งเวียดนามและอินโดนีเซียยังเห็นชอบที่จะเพิ่มการค้าระหว่างกัน จาก 3,300 ล้านดอลลาร์ ในปี 2553 เป็น 5,000 ล้านดอลลาร์ ภายในปี 2558 และลงนามในกรอบความร่วมมือเรื่องข้าวเพื่อประกันความมั่นคงทางอาหารสำหรับ 10 ชาติ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ตามกรอบของอาเซียน.
กำลังโหลดความคิดเห็น