เอเอฟพี - สื่อทางการของเวียดนาม รายงานวันนี้ (31 ส.ค.) ว่า เวียดนามและจีนวางแผนที่จะตั้งสายด่วนกลาโหมระหว่างกัน ที่เป็นส่วนหนึ่งในความใกล้ชิดทางทหารของทั้งสองประเทศ และนับเป็นความพยายามล่าสุดในการผ่อนคลายความตึงเครียดของสาธารณชนจากเหตุพิพาทน่านน้ำของทั้งสองประเทศ
หนังสือพิมพ์เวียดนามนิวส์ รายงานหลังการเจรจามีขึ้นในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ว่า ทั้งสองฝ่ายต่างเห็นชอบที่จะส่งเสริมความร่วมมือด้านกลาโหมระหว่างกัน ในระหว่างการประชุมประจำปีครั้งที่สองเกี่ยวกับความมั่นคงของสองประเทศ ที่จัดขึ้นในกรุงปักกิ่ง
สื่อฉบับดังกล่าวรายงานว่า จีนและเวียดนามจะขยายความสัมพันธ์ไปยังภาคส่วนใหม่ๆ นอกเหนือไปจากการแลกเปลี่ยนคณะผู้แทนทางทหาร ยังรวมถึงนักเรียนทหาร และการจัดตั้งสายด่วนระหว่างกระทรวงกลาโหมของสองประเทศด้วย
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์ของทั้งเวียดนามและจีน ได้เปิดสายด่วนระหว่างกัน และในปี 2552 รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของทั้งสองประเทศได้ลงนามข้อตกลงที่จะตั้งสายด่วนในแบบเดียวกันนี้ระหว่างผู้นำของทั้งคู่ แต่สถานะล่าสุดยังไม่ชัดเจนเท่าไหร่นัก
เวียดนามนิวส์ รายงานว่า ในการเจรจาหารือรอบล่าสุดที่รัฐมนตรีช่วยกระทรวงกลาโหมของเวียดนามและรองเสนาธิการของจีนร่วมด้วยนั้น รัฐบาลจีนกล่าวว่าจีนจะแบ่งปันประสบการณ์ในการรักษาสันติภาพในกรอบของสหประชาชาติ อย่างไรก็ตาม แม้ว่าทางการเวียดนามจะยังไม่ได้กล่าวถึงภารกิจของสหประชาชาติดังกล่าว แต่ระบุว่า ฝ่ายเวียดนามเองก็มีความสนใจในประเด็นดังกล่าวเช่นกัน
ประเทศเพื่อนบ้านทั้งสองมีความขัดแย้งยาวนานเกี่ยวกับอำนาจอธิปไตยเหนือหมู่เกาะสแปร็ตลีย์และหมู่เกาะพาราเซลล์ ที่คาดว่า อุดมไปด้วยน้ำมัน รวมทั้งยังเป็นเส้นทางเดินเรือสินค้าที่สำคัญในบริเวณทะเลจีนใต้
ความสัมพันธ์ของสองประเทศย่ำแย่ลงถึงระดับต่ำสุดเมื่อเดือน พ.ค.และ มิ.ย.เมื่อเวียดนามกล่าวว่า เรือของจีนเข้าขัดขวางเรือสำรวจน้ำมันของเวียดนามถึงสองครั้งภายในเขตเศรษฐกิจจำเพาะของเวียดนาม
ทั้งสองประเทศได้จัดซ้อมรบทางทะเล และประชาชนชาวเวียดนามจัดการชุมนุมประท้วงตามถนนหลายครั้งต่อต้านการกระทำของจีนที่มองว่าเป็นการบุกรุก แม้ว่าทางการเวียดนามจะมีคำสั่งให้ยุติการชุมนุมประท้วงก็ตาม.