เอเอฟพี - เว็บไซต์สังคมออนไลน์ “เฟซบุ๊ก” กำลังเป็นพื้นที่เพาะความโกรธแค้นในเวียดนามต่อจีน ที่เป็นประเทศเพื่อนบ้านมหาอำนาจ และยิ่งเพิ่มความตึงเครียดในปัญหาพิพาทเหนือน่านน้ำที่อุดมไปด้วยพลังงานในทะเลจีนใต้
เจ้าหน้าที่รัฐบาลของเวียดนาม ยอมรับและอนุญาตให้มีการชุมนุมประท้วงที่นับว่าเป็นการชุมนุมในที่สาธารณะที่ใหญ่ที่สุดในรอบ 4 ปี เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โดยประชาชนประมาณ 300 คน รวมตัวกันด้านนอกสถานทูตจีนในกรุงฮานอย
การชุมนุมประท้วงในลักษณะเดียวกันนี้ ได้มีขึ้นที่นครโฮจิมินห์ เพื่อต่อต้านการบุกรุกของเรือจีนในน่านน้ำเวียดนาม โดยผู้ชุมนุมรายหนึ่ง กล่าวว่า นักเคลื่อนไหวส่วนหนึ่งพูดคุยกันว่าจะจัดการชุมนุมขึ้นอีกครั้งในสุดสัปดาห์นี้
“ผมคิดว่าเฟซบุ๊กเป็นช่องทางสื่อสารหลัก” ผู้ชุมนุมรายหนึ่ง กล่าว
ประชาชนต้องการให้รัฐบาลดำเนินการที่แข็งกร้าวกว่าเดิมต่อจีน โดยผู้ชุมนุมอีกคนหนึ่งที่เข้าร่วมชุมนุมประท้วงในวันอาทิย์ที่ผ่านมากล่าวว่า อย่างน้อยควรส่งเสียงมากกว่านี้
ข้อความในเฟซบุ๊ก” อ้างถึงสินค้าจีนที่หลั่งไหลมาในเวียดนาม ว่า เป็นมะเร็งร้าย และกล่าวว่าจีนมีพฤติกรรมเหมือนโจรสลัดในทะเลจีนใต้
โดยปกติ เวียดนามมักดำเนินการอย่างเข้มงวดกับการชุมนุมประท้วงในที่สาธารณะ และอินเทอร์เน็ต แต่จากเหตุชุมนุมประท้วงจีนที่เกิดขึ้นแสดงให้เห็นว่าทางการไม่พอใจจีนเช่นกัน
แต่ นายคาร์ล เธย์เยอร์ นักวิเคราะห์เวียดนาม จากออสเตรเลีย กล่าวว่า การชุมนุมที่เกิดขึ้นเป็นไปตามจุดมุ่งหมายของเวียดนาม แต่อีกมุมหนึ่งก็เป็นการเชิญชวนให้มีการตอบโต้จากจีนเช่นกัน
ความตึงเครียดระหว่างจีนและเวียดนาม นับว่า สูงสุดในรอบ 4 ปี เกี่ยวกับปัญหาอำนาจอธิปไตยเหนือน่านน้ำพิพาทบริเวณหมู่เกาะพาราเซลล์ และหมู่เกาะสแปร็ตลีย์ ที่อุดมไปด้วยน้ำมัน
สถานการณ์ระหว่างสองประเทศเริ่มยกระดับความรุนแรงขึ้นตั้งแต่ปลายเดือน พ.ค.หลังเวียดนามกล่าวหาว่าเรือตรวจการณ์จีน 3 ลำ สร้างความเสียหายกับเคเบิลสำรวจทางธรณีศาสตร์ของเรือสำรวจแหล่งน้ำมันในบริเวณเขตเศรษฐกิจจำเพาะ 200 ไมล์ทะเลของเวียดนาม.