ASTVผู้จัดการออนไลน์ -- นายกรัฐมนตรีกัมพูชา กล่าวในเช้าวันพฤหัสบดี 11 ส.ค. นี้ว่า “ฝันร้าย” ระหว่างไทยกับกัมพูชา ได้ผ่านไปแล้ว และยุคใหม่ในความร่วมมือระหว่างสองประเทศกำลังจะเริ่มขึ้น
“วันนี้เป็นโอกาสอันดี ผมขอประกาศเกี่ยวกับยุคใหม่แห่งความร่วมมือระหว่างรัฐบาลราชอาณาจักรกัมพูชา กับรัฐบาลราชอาณาจักรไทย ที่นำโดยพรรคเพื่อไทย” สำนักข่าวกัมพูชาอ้างคำพูดของฮุนเซน ระหว่างปราศรัยในพิธีมอบปริญญาบัตร ที่มหาวิทยาลัยทรัพยากรมนุษย์ ในกรุงพนมเปญ
การประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปกัมพูชา-ไทย และ คณะกรรมาธิการชายแดนร่วมของสองฝ่ายกำลังจะดำเนินต่อไปเมื่อรัฐมนตรีกลาโหมคนใหม่ของไทยไปเยือนกัมพูชา ซึ่งคราวนี้จะไม่ต้องมีอินโดนีเซียเข้าร่วมด้วย ฮุนเซน กล่าว
อย่างไรก็ตาม สำหรับพื้นที่ 17 ตร.กม.เขตปลอดทหารชั่วคราวตามแนวชายแดนสองประเทศนั้น ยังจำเป็นจะต้องมี (คณะสังเกตการณ์) อินโดนีเซียเข้าประจำ เนื่องจากเป็นวาระของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ และเป็นคำสั่งของศาลระหว่างประเทศ และของอาเซียน
เพื่อฟื้นฟูความเชื่อมมั่นต่อกัน และสันติภาพตามแนวชายแดนให้กลับไปสู่สภาพก่อนวันที่ 15 ก.ค.2551 การเจรจาในทุกระดับจะต้องดำเนินต่อไป ฮุนเซน กล่าว
นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ไม่ได้กล่าวถึงรายละเอียดว่า การประชุมคะกรรมการชายแดนทั้ง 2 คณะจะเริ่มขึ้นเมื่อไร และ กลาโหมคนใหม่ของไทย พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา จะไปเยือนกัมพูชาเมื่อไร
รัฐบาลฮุนเซนได้ปฏิเสธที่จะเจรจาทวิภาคีใดๆ กับประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นในระดับใดจะต้องมีตัวแทนของกลุ่มอาเซียนหรืออินโดนีเซียซึ่งทำหน้าที่ประธานของกลุ่มเข้าร่วมด้วยทุกครั้ง แต่ในการปราศรัยครั้งนี้ ฮุนเซนได้ประกาศยกเลิกเงื่อนไขนี้โดยไม่ได้อธิบายเหตุผล
“ความตึงเครียดที่ชายแดนกัมพูชา-ไทย ได้ลดลงนับตั้งแต่พรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้งแบบท่วมท้นในเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม” ฮุนเซน กล่าว
“ผมคิดว่า ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีตเป็นเพียงฝันร้ายในความสัมพันธ์ระหว่างกัมพูชา และไทย และจากนี้เป็นต้นไปความสัมพันธ์ระหว่างประเทศจะดีขึ้น” สำนักข่าวเอเอฟพีอ้่างคำพูดของฮุนเซนในวันเดียวกัน
ผู้นำกัมพูชา กล่าวอีกว่า จะมองหาทุกวิถีทางที่จะปรับปรุงสถานการณ์พรมแดนและตนเองไม่คิดว่าความขัดแย้งจะเป็นประเด็นความวิตกกังวลในสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรืออาเซียนอีกต่อไป
กัมพูชากำลังจะเข้ารับหน้าที่เป็นประธานกลุ่มอาเซียนต่อจากอินโดนีเซียในปีหน้านี้.