ASTVผู้จัดการออนไลน์ -- ศาลจังหวัดเบ๊นแจ (Bến Tre) ในเขตที่ราบปากแม่น้ำโขง ได้พิพากษาคดีสำคัญในสัปดาห์นี้ จำเลยเป็นชาวเวียดนามจำนวน 7 คน ที่ถูกกล่าวหา ว่า เป็นสมาชิกพรรคการเมืองผิดกฎหมาย ทั้งหมดเดินทางเข้าไทยและกัมพูชาซ่องสุมกำลัง ระดมความคิดและทฤษฎี ออกแผนปฏิบัติการเพื่อโค่นล้มรัฐบาลคอมมิวนิสต์ ทั้งหมดถูกตัดสินจำคุกตั้งแต่ 2-7 ปี
ชาวเวียดนามกลุ่มนี้ถูกจับกุมในข้อหา “ปฏิบัติการต่อต้านคณะบริหารของประชาชน” ตามบัญญัติในหมวดที่ 2 มาตรา 79 ประมวลกฎหมายอาญาเวียดนาม สื่อของทางการกล่าว
จำเลยประกอบด้วย นางเจิ่นถิถวี (Tran Thi Thuy) วัย 40 ปี เป็นชาว จ.โด่งท้าป (Đồng Tháp) นายซเวืองกิมข่าย 53 ปี นายฟัมวันโถง (Pham Van Thong) 49 ปี นายเหวียนแทงเติม (Nguyen Thanh Tam) 58 ปี ทั้งหมดเป็นชาว จ.เบ๊นแจ นายกาววันตี๋ง (Cao Van Tinh) วัย 37 ปี ชาวเกิ่นเทอ (Cần Thơ) นายฟัมหง็อกหว่า (Pham Ngoc Hoa) วัย 57 ปี กับ นายเหวียนจี๋แทง (Nguyen Chi Thanh) วัย 38 ปี ชาวโฮจิมินห์
คณะอัยการ จ.เบ๊นแจ บรรยายในคำฟ้องกล่าวหา ว่า ชาวเวียดนามกลุ่มนี้ได้เดินทางเข้าประเทศไทยและกัมพูชาในเดือน ส.ค.2552 กับเดือน เม.ย.2553 ภายใต้การจัดการของ “พรรคปฏิรูป” ซึ่งเป็นกลุ่มปฏิกิริยา (กลุ่มต่อต้านลัทธิคอมมิวนิสต์ -บก.) และ ได้ศึกษาอบรมแนวทาง ตลอดจนฝึกฝน และออกแผนการเพื่อโค่นล้มทางการเวียดนาม ด้วยรูปแบบ “การเปลี่ยนแปลงอย่างสันติ” และ “ไม่ใช้ความรุนแรง”
อัยการเวียดนาม กล่าวว่า จำเลย 6 คน ยกเว้นนายโถง (หรือ “โถม”) สมัครเป็นสมาชิกเหวียดเติน โดยสมัครใจและถูกรับเข้าองค์กรผิดกฎหมายนี้แล้ว โดยได้รับชื่อปลอมจากพรรคที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายนี้อีกด้วย ทั้งหมดได้รับเงินจากเหวียดเติน และได้รับมอบเหมายให้เดินทางกลับประเทศเพื่อก่อวินาศกรรม ทั้งนี้ เป็นรายงานของหนังสือพิมพ์เตื่อยแจ๋
กลุ่มบุคคลดังกล่าวได้รวบรวมพลพรรคและจัดตั้งเป็นสมาคมเพื่อมิตรภาพและการช่วยเหลือกันและกัน หรือ “เกียบเฮยเทินหือว์เกื่อยเหวียดนามเตืองโจะ” สะสมและแจกจ่ายเอกสารที่มีเนื้อหาต่อต้านสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม เตื่อยแจ๋กล่าว
(โปรดเลื่อนลงเพื่ออ่านต่อ)
.
2
อัยการกล่าวอีกว่า คนกลุ่มนี้ได้ล่วงละเมิดสิทธิประชาธิปไตยกับเสรีภาพและฉวยโอกาสใช้ความเข้าใจผิดๆ ของคนส่วนหนึ่งปลุกระดม เคลื่อนไหว ระดมกำลังต่อต้านรัฐบาล และสร้างความปั่นป่วนในสังคม อันเป็นการกระทำที่ขัดต่อความสงบสุขและความมั่นคงกับผลประโยชน์ของชาติอย่างร้ายแรง
หนังสือพิมพ์ของทางการ กล่าวว่า จำเลยทั้ง 7 ให้การรับสารภาพ ศาล จ.เบ๊นแจ ได้มีคำพิพากษาในวันจันทร์ 30 พ.ค.ที่ผ่านมา จำคุกนายโถงเป็นเวลา 7 ปี นายกิมข่าย 6 ปี และ นายตี๋ง 5 ปี ทั้งหมดยังจะต้องถูกควบคุมความประพฤติต่ออีก 5 ปีเมื่อพ้นโทษ
บุคคลที่เหลือ รวมทั้ง นายฟัมหง็อกหว่า นายเหวียนแทงเติม และ นายเหวียนจี๋แทง ต้องโทษจำคุกคนละ 2 ปี ถูกควบคุมความประพฤติอีกคนละ 3 ปีหลังจากนั้น หนังสือพิมพ์ของทางการกล่าว
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านั้น ในวันที่ 27 พ.ค.สมาชิกรัฐสภาสหรัฐฯ จำนวน 5 คน ได้ทำหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีเวียดนามเหวียนเติ๋นยวุ๋ง เรียกร้องให้ทางการยกเลิกข้อหา “บ่อนทำลาย” เนื่องจากทั้งหมดเป็นหมอสอนศาสนานิกายเมนโนไนต์สาขาหนึ่ง และ ปฏิบัติงานช่วยคนยากคนจนในเขตที่ราบปากแม่น้ำโขง ทั้งยังระบุในหนังสือด้วยว่าเรื่องนี้เป็น “รอยด่าง” ทางด้านสิทธิมนุษยชนในเวียดนาม
กลุ่มเหวียดเติ่น ซึ่งตั้งอยู่ในสหรัฐฯ กล่าวว่า ทั้ง 7 คน รวมทั้งคุณพ่อซเวืองกิมข่าย ซึ่งเป็นนักสอนศาสนาและนักเคลื่อนไหวเพื่อความเป็นธรรมในสังคมและให้การช่วยเหลือชาวนาไร้ที่ทำกิน ไม่ได้รับอนุญาตให้พบกับสมาชิกครอบครัว นับตั้งแต่ถูกจับกุมปลายปีที่แล้ว
ตามรายงานในเว็บไซต์ของกลุ่มการเมืองนี้ “พรรคปฏิรูป” หรือ เหวียดนามแกงเตินแก๊กมังด๋าง (Việt Nam Canh Tân Cách Mạng Đảng) หรือ เรียกสั้นว่า "เวียดเติน" (Việt Tân) ก่อตั้งมานานกว่า 20 ปีประกาศใช้แนวทางการเปลี่ยนแปลงจากระบอบคอมมิวนิสต์อย่างสันติ และอ้างว่า มีเครือข่ายปฏิบัติการลับๆ ทั้งในเวียดนาม และทั่วโลก
(โปรดเลื่อนลงเพื่ออ่านต่อ)
.
3
ไทยเคยถูกใช้เป็นเวทีปฏิบัติการของกลุ่มต่อต้านรัฐบาลเวียดนามมาหลายครั้ง ในปี 2529 สื่อทางการเวียดนามรายงานว่า กองกำลังอาวุธเกือบ 100 คนของ “พวกปฏิกิริยา” ได้ลักลอบข้ามแดนลาว จาก จ.อุบลราชธานี ของไทย เพื่อไปปฏิบัติการในเขตที่ราบสูงภาคกลางของประเทศ แต่ถูกทหารลาวและทหารเวียดนามโจมตีทำให้บาดเจ็บล้มตายจำนวนมาก
ทางการเวียดนามนำผู้ที่ถูกจับกุมทั้งหมดออกแถลงข่าวในนครโฮจิมินห์ ก่อนนำตัวขึ้นศาล และไม่ทราบข่าวคราวเกี่ยวกับบุคคลทั้งหมดตั้งแต่นั้น
ในปี 2543 นายโต๋ง ชาวอเมริกันเชื้อสายเวียดนาม อดีตนักบินกองทัพอากาศเวียดนามใต้ จ้างนักบินไทยคนหนึ่ง 20,000 ดอลลาร์ นำเครื่องบินเล็กไปบินวนอยู่เหนือกรุงฮานอยโดยปราศจากการขัดขวาง และโปรยใบปลิวต่อต้านคอมมิวนิสต์ ในวันที่อดีตประธานาธิบดีบิล คลินตันของสหรัฐฯ กำลังจะไปเยือนครั้งประวัติศาสตร์
“เราบินไปเวียดนามและโปรยใบปลิว พวกคอมมิวนิสต์คิดว่าเราเป็นเครื่องบินของรัฐบาลโปรยใบปลิวต้อนรับประธานาธิบดีคลินตัน ซึ่งจะไปเยือนในวันรุ่งขึ้น ผมก็เลยโชคดีอีกครั้งหนึ่งที่บินกลับไทยได้โดยไม่ถูกยิงตก” อดีตนักบินนักต่อต้านคอมมิวนิสต์วัย 68 ปี ให้สัมภาษณ์วิทยุเครือข่าย AVWeb ของวิทยุการบินในสหรัฐฯ
เขาถูกจับกุมเมื่อถึงไทย ถูกคุมขังหลายปี แต่ในที่สุดในเดือน ก.ย.2549 ถูกศาลไทยตัดสินจำคุก 3 ปี ฐาน “จี้เครื่องบิน”
นายโต๋ง เปิดเผยเบื้องหลังในวันที่ 25 ก.พ.ปีนี้ เขาอ้างว่าตำรวจไทยได้ยึดเงิน 20,000 ดอลลาร์จากนักบิน และ บังคับให้เปลี่ยนคำให้การเป็น “ถูกจี้” ไม่ใช่ถูกว่าจ้าง
วีระบุรุษหรืออาชญากร?
ก่อนหน้านั้น ในปี 2547 รัฐบาลเวียดนามได้ทำหนังสือถึงรัฐบาลไทย ขอให้ส่งนายโต๋งเป็นผู้ร้ายข้ามแดน เพื่อไปรับโทษต่อในเวียดนาม ฐานกระทำการต่อต้านรัฐบาลและล่วงละเมิดความมั่นคงปลอดภัยเหนือดินแดนเวียดนาม
หลังถูกศาลชั้นต้นของไทยมีคำพิพากษา นายโต๋ง ยื่นอุทธรณ์ และในเดือน เม.ย.2550 ศาลได้พิพากษาไม่ส่งตัวให้ทางการเวียดนามและต่อมาคณะรัฐประหารของไทยได้เนรเทศกลับสหรัฐฯ ท่ามกลางความไม่พอใจของเวียดนาม
นายโต๋ง เคยปฏิบัติการคล้ายกันนี้ในปี 2535 โดยจี้เครื่องบินแอร์บัส A310-200 ของเวียดนามแอร์ไลนส์ บังคับให้กัปตันบินวนเหนือนครโฮจิมินห์ โปรยใบปลิวเรียกร้องให้ประชาชนลุกฮือต่อต้านทางการคอมมิวนิสต์
นายโต๋ง กระโดดร่มลงจากเครื่องบิน เพื่อไปเป็นผู้นำในการต่อต้านรัฐบาลเวียดนามและถูกจับ ถูกศาลเวียดนามตัดสินจำคุก 20 ปี แต่ได้รับอภัยโทษเมื่อปี 2541 ร่วมกับชาวอเมริกันเวียดนามคนอื่นๆ แต่ได้กระทำผิดซ้ำอีกจนถูกจับกุมในประเทศไทย
ก่อนจะกลับมาปฏิบัติการในประเทศไทยเป็นครั้งที่ 2 ในเดือน ม.ค.ปีเดียวกัน นายโต๋ง ได้ปฏิบัติการแบบเดียวกันนี้เหนือกรุงฮาวานาประเทศคิวบา ปัจจุบันอาศัยอยู่ในฟลอริดา และ ได้รับยกย่องเป็นวีรบุรุษของกลุ่มต่อต้านคอมมิวนิสต์ในสหรัฐฯ