ทหารเขมรที่ชายแดนตาควายไม่มีน้ำสะอาดดื่ม ท้องร่วงกันเป็นแถว

ASTVผู้จัดการออนไลน์ -- สถานีวิทยุเอเชียเสรี ยังคงติดตามการเป็นอยู่ของทหารกัมพูชาที่ประจำการตามแนวชายแดนด้านปราสาทตาเมือน และปราสาทตาควาย อย่างเกาะติด ซึ่งล่าสุด ได้พบว่า ทหารที่ต้องเผชิญหน้ากับฝ่ายไทย ไม่มีน้ำสะอาดสำหรับดื่ม และหลายคนเริ่มมีอาการท้องร่วงซึ่งอาจจะเป็นอาการของอหิวาตกโรค

ทหารที่ไม่ต้องการให้ระบุชื่อคนหนึ่ง ที่ชายแดนปราสาทตาควาย อ.บันเตียอัมปึล จ.อุดรมีชัย บอกว่า พวกเขาขุดบ่อที่เนินเขาชายแดนเพื่อให้มีน้ำดื่ม แต่ปรากฏว่า เป็นน้ำที่ไม่สะอาด ปนเปื้อนแคลเซียมมากเกิน เป็นอันตรายต่อสุขภาพ วิทยุเอเชียเสรี (Radio Free Asia) ที่ได้รับการสนับสนุนเงินงบประมาณดำเนินการจากรัฐสภาสหรัฐฯ รายงานกรณีล่าสุดนี้วันที่ 23 พ.ค. ในภาคภาษาเขมร

มีการแปลเนื้อหาออกเผยแพร่ไปทั่วโลก ในเว็บไซต์ภาคภาษาอังกฤษวันพุธ 25 พ.ค.ที่ผ่านมา

ทหารคนเดียวกันเปิดเผยเมื่อวันอาทิตย์ ว่า เพื่อนที่ประจำการด้วยกันหลายคนเริ่มมีอาการท้องร่วง หลังดื่มน้ำที่ได้จากบ่อเชิงเขา

“ปริมาณแคลเซียม (ตกตะกอน) มีมากถึงครึ่งแก้ว หลังจากเราต้มน้ำแล้ว แต่เราก็ต้องดื่ม รสชาติไม่ดี แต่ก็ต้องดื่ม ตอนนี้เราต้องการน้ำมากที่สุด เราใช้ทั้งดื่มทั้งอาบ มีแห่งเดียวที่ขุดหาน้ำได้แล้วนำขึ้นมาที่นี่ (บนเขา) ถ้าหากมีการปะทะเราก็จะไม่สามารถลงไปเอาน้ำได้” ทหารคนเดียวกันบอกกับ RFA

นายทหารระดับผู้บังคับบัญชาในพื้นที่ผู้หนึ่ง ยอมรับกับ RFA ว่า ทหารที่นั่นกำลังขาดแคลนน้ำสะอาดสำหรับดื่มใช้เป็นจริง เนื่องจากหลังเกิดการปะทะมีทหารไปประจำการที่ชายแดนมากขึ้น ต้องใช้รถบรรทุกน้ำขึ้นไปตามเนิน แต่บ่อยครั้งรถบรรทุกก็เกิดเสีย ก็เกิดการขาดแคลนขึ้น

“ก่อนหน้านี้ มีผู้บริจาคน้ำดื่มบรรจุขวดให้เรามากมาย แต่หลังการปะทะผ่านไปก็ไม่มีน้ำดื่มอีก เราขาดน้ำมาสัก 10 วันแล้ว น้ำดื่มข้างล่างก็ไม่สะอาด มีแคลเซียมมาก” นายทหารคนเดียวกันให้สัมภาษณ์วิทยุออกอากาศในตอนหนึ่ง

เขายังบอกอีกว่า “ถ้าหากตกลง (หยุดยิง) กับไทย สถานการณ์ไม่ตึงเครียด เราก็จะมีเวลาลงไปหาน้ำดื่มน้ำใช้ แต่เราก็มีงานประจำต้องขุดหลุมเพลาะ ต้องทำค่ายของเราจะไม่มีเวลาลงไปหาน้ำที่อื่นๆ” และน้ำที่มีอยู่ในปัจจุบันใช้ซักล้างได้ แต่ดื่มได้ลำบากมาก

นับเป็นอีกความคืบหน้าหนึ่งเกี่ยวกับความเป็นอยู่ของทหารกัมพูชาในแนวหน้า หลังจากเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว RFA ได้รายงานว่า พวกเขาที่ประจำการตามแนวชายแดนปราสาทตาเมือน และตาควาย กำลังขาดอาหารอย่างรุนแรง และไม่ได้รับอาหารประเภทเนื้ออีกเลย นับตั้งแต่การปะทะกับฝ่ายไทยยุติลง ระหว่างการประชุมผู้นำอาเซียนในกรุงจาการ์ตา สัปดาห์ต้นเดือนนี้