ASTVผู้จัดการออนไลน์ -- ทหารกัมพูชาที่ประจำการตามแนวชายแดนไทยได้ร้องขอให้รัฐบาลส่งเสบียงที่กำลังขาดแคลน รวมทั้งขอวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อสร้างเพิงกันฝนในฤดูที่ฝนตกชุกนี้ พร้อมกล่าวถึงความยากลำบากที่ต้องนอนในหลุมเพลาะ ไม่สามารถไปไหนมาไหนได้ ขณะที่อยู่ห่างจากเส้นเขตแดนเพียงไม่กี่เมตร
สถานีวิทยุเอเอเชียเสรีภาคภาษาเขมร (Radio Free Asia- Khmer) รายงานเรื่องนี้บนเว็บไซต์ ในวันอังคาร 17 ก.ค.นี้
ทหารที่ประจำการตามแนวชายแดน อ.บันเตียอัมปึล จ.อุดรมีชัย ผู้หนึ่งได้เป็นตัวแทนเรียกร้องในวันอาทิตย์ 15 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยระบุว่า พวกเขานอนในหลุมเพลาะ ที่ไม่มีหลังคากันฝน และไม่ค่อยได้หลับนับตั้งแต่เกิดการปะทะ เนื่องจากต้องคอยระวังตลอดเวลา ขณะนี้ต้องการวัสดุเพื่อใช้ทำหลังคา พอๆ กับต้องการเสบียงอาหาร
“นับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ (ปะทะกับทหารไทย) พวกเราได้รับเนื้อหมูเพียง 2 ครั้งเท่านั้น.. พอฝนตกในเวลากลางคืนต้องใช้ฟางฟูนอนบนพื้น (ในหลุมเพลาะ) จะแขวนเปลก็ไม่ได้เพราะเราอยู่ในเขตที่ต้องเฝ้าระวังเหตุ” สถานีวิทยุดังกล่าวอ้างคำพูดของทหารคนหนึ่ง
ไม่มีรายละเอียดอื่นใดอีกเกี่ยวกับทหารที่กำลังมีปัญหา และเรียกร้องความช่วยเหลือจากรัฐบาลฮุนเซนในกรุงพนมเปญ
ก่อนหน้าที่เพียง 2-3 สัปดาห์ในเมืองหลวงยังคงมีการจัดกิจกรรมบริจาคระดมความช่วยเหลือสู่แนวหน้าอย่างคึกคัก โดยมีท่านผู้หญิงบุนรานี ภริยาของผู้นำในฐานะนายิกาสภากาชาดกัมพูชาเป็นหัวหอก
สถานีโทรทัศน์แห่งต่างๆ ได้ร่วมจัดรายการขอบริจาคอาหารและสิ่งของ ส่งไปช่วยเหลือทหารที่แนวหน้าเช่นกัน การระดมความช่วยเหลือดังกล่าวจัดขึ้นในจังหวัดใกล้เคียงด้วย แต่ทุกอย่างเริ่มซาลงไป ตั้งแต่ช่วงการประชุมผู้นำอาเซียนในประเทศอินโดนีเซียหลังการประชุม
ไทย-กัมพูชาได้ตกลงหยุดยิงมาตั้งแต่ต้นเดือนนี้ และสามารถตกลงกันได้เกี่ยวกับการส่งหน่วยสังเกตการณ์จากอินโดนีเซียเข้าพื้นที่ ปัจจุบันกำลังรอเพียงให้คณะรัฐมนตรีของไทยอนุมัติร่างข้อกำหนด (Terms of Reference) ซึ่งกัมพูชาหวังว่า จะมีขึ้นในการประชุม ครม.ประจำสัปดาห์นี้
อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีไทย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กับ นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีต่างประเทศต่างยืนยันว่า ฝ่ายไทยจะยอมให้อินโดนีเซียส่งคณะสังเกตการณ์หยุดยิงเข้าพื้นที่ ก็ต่อเมื่อกัมพูชาถอนทหารออกจากดินแดนพิพาท 4.6 ตารางกิโลเมตรรอบๆ ปราสาทพระวิหารก่อนเท่านั้น.
.