ASTVผู้จัดการออนไลน์ -- รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีต่างประเทศ ฟัมซยาเคียม (Pham Gia Khiem) ได้ขอให้กระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบท สำรวจประชากรเสือโครงในประเทศ ซึ่งข้อมูลของทางการเมื่อปี 2552 ระบุว่า ยังมีเหลืออยู่ในป่าธรรมชาติราว 50 ตัว แต่ช่วงที่ผ่านมาได้มีการลักลอบล่าไปจำนวนหนึ่ง
นายเคียม ยังขอให้หน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องมีมาตรการพิทักษ์ปกป้องเสือโคร่งตามพันธสัญญาที่เวียดนามให้ต่อที่ประชุมผู้นำประเทศต่างๆ เกี่ยวกับการอนุรักษ์เสือ ที่จัดขึ้นในกรุงมอสโก สหพันธรัฐรัสเซีย เดือน พ.ย.ปีที่แล้ว
แม้ว่าเวียดนามจะมีกฎหมายคุ้มครองเสือโคร่งพันธุ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คือ พันธุ์อินโดจีน ที่ขึ้นบัญชีเป็นสัตว์ป่าใกล้สูญพันธุ์ แต่ยังมีการลักลอบล่าออกจากป่าธรรมชาติอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ เนื่องจากยังมีความต้องการในตลาดสูง โดยเชื่อกันว่ากระดูกเสือเป็นยาอายุวัฒนะ ขณะที่เนื้อของมันยังเป็นอาหารป่าจานเด็ดราคาแพงอีกด้วย ทำให้ผู้เชี่ยวชาญวิตกว่าเสืออาจจะสูญพันธุ์จากป่าในเวียดนาม
นอกจากที่อาศัยในธรรมชาติแล้วยังมีเสือโคร่งอีก 95 ตัวในฟาร์มเลี้ยงของเอกชน ในสวนสัตว์และในคณะละครสัตว์ทั้งนี้เป็นตัวเลขของโครงการอนุรักษ์เสือโคร่งแห่งชาติเมื่อปี 2552 ซึ่งตีพิมพ์ในเว็บไซต์ของรัฐบาล
ตามรายงานของสื่อต่างๆ ปีที่แล้วตำรวจเวียดนามสามารถจับกุมแก๊งลักลอบค้าสัตว์ป่าได้หลายครั้ง จับยึดเสือโคร่งแช่แข็งทั้งตัวได้ 2 ตัว และยึดชิ้นส่วนต่างๆ ของเสือได้อีกจำนวนมาก
บางกระแสกล่าวว่า เสือแช่แข็งที่ขนเข้าเวียดนามไปจากลาวซึ่งมีฟาร์มเพาะเลี้ยงของเอกชนอยู่แห่งหนึ่ง แต่ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าพิสูจน์ได้ยาก หรืออาจจะไม่มีทางพิสูจน์ได้ว่าไปจากฟาร์มหรือถูกล่าออกจากป่า
ปีที่แล้วเช่นกันทางการเวียดนามได้สั่งปิดฟาร์มเลี้ยงเสือไป 1 แห่งใน จ.บี่งซเวือง ใกล้นครโฮจิมินห หลังพบว่ามีการนำเสือที่ลักลอบล่าออกจาป่าเข้าเลี้ยงในฟาร์มด้วย