เตื่อยแจ๋ - สมาคมรักษาเต่ากรุงฮานอยเปิดเผยว่า เต่าศักดิ์สิทธิ์ที่อาศัยอยู่ในบึงฮว่านเกี๊ยม หรือ ทะเลสาบคืนดาบ ต้องทุกข์ทรมานจากโรคผิวหนังหลังทำการตรวจสอบ
ผลการตรวจแสดงให้เห็นว่าเต่ามีอาการติดเชื้อจากแบคทีเรีย 4 ชนิด แต่ทางสมาคมฯระบุว่า แผลเปิดบนขาและกระดองเป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงการฟื้นตัวที่ดีหลังรักษาผ่านไป 5 วัน
ดร.บุ่ย กวาง เต๊ หัวหน้าสมาคมรักษาเต่า กล่าวว่า การทดสอบดีเอ็นเอในห้องปฏิบัติการแสดงให้เห็นว่าเต่าไม่ได้เป็นโรคร้ายแรงอย่างที่หลายคนคาดไว้ก่อนหน้า นอกจากนั้นผู้เชี่ยวชาญยังได้ระบุว่าจากผลตรวจพบว่าสัตว์เลื้อยคลานยักษ์ที่อาศัยอยู่ในบึงฮว่านเกี๊ยมเป็นเต่าสายพันธุ์ใหม่ในเวียดนาม ที่แตกต่างไปอย่างสิ้นเชิงจากเต่ากระดองอ่อนที่อาศัยอยู่ในนครเซี่ยงไฮ้ของจีน
ดร.เต๊ กล่าวว่า ปัญหาที่สำคัญที่สุดตอนนี้คือปัญหามลพิษของน้ำในบึง โดยบึงฮว่านเกี๊ยมเป็นแหล่งของสาหร่ายและเห็ดพิษหลายชนิดที่อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพของสัตว์ต่างๆ ที่รัฐบาลปล่อยให้อาศัยอยู่ตามธรรมชาติ และว่าอาจต้องใช้เวลานานในการขุดลอกตะกอนก้นบึงได้หมด
ก่อนหน้านี้ ทางการเวียดนามได้นำถังเหล็กมาติดตั้งไว้ในบึงเพื่อให้สัตวแพทย์สามารถทำการรักษาเต่าที่บาดเจ็บ โดยถังเหล็กดังกล่าวมีขนาดกว้าง 5 เมตร ทาด้วยสีปลอดสารพิษ และระดับน้ำในถังสามารถปรับได้ตั้งแต่ 20 ซม. ถึง 120 ซม.
เจ้าหน้าที่ตัดสินใจที่จะปั๊มน้ำจากบึงเข้ามาในถังเพื่อประหยัดเวลาและพยายามที่จะหลีกเลี่ยงการปรับสภาพอย่างกระทันหันของเต่า นอกจากนั้นยังได้ติดตั้งระบบบำบัดน้ำไว้ในบริเวณดังกล่าว พร้อมกับถังน้ำลึก 15 เมตร เพื่อใช้เป็นที่อยู่ของเต่าระหว่างช่วงเวลาฟื้นตัว
การรักษาคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 90 วัน ซึ่งรวมทั้งการรักษาเบื้องต้น การนำตัวอย่างไปทดสอบวินิจฉัย และการรักษาในขั้นตอนสุดท้าย.