เอเอฟพี - ธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย หรือ เอดีบี ระบุวานนี้ (29 มี.ค.) ว่า ธนาคารได้อนุมัติเงินกู้ยืมจำนวน 293 ล้านดอลลาร์สหรัฐให้กับเวียดนามเพื่อนำไปใช้ในการสร้างเส้นทางรถไฟใต้ดินในกรุงฮานอย หลังอนุมัติเงินกู้ยืมให้กับโครงการก่อสร้างรถไฟใต้ดินในนครโฮจิมินห์ไปแล้วก่อนหน้า
ทั้งกรุงฮานอยและนครโฮจิมินห์ต่างประสบปัญหาการจราจรติดขัด ที่บรรดานักลงทุนจากต่างชาติต่างกล่าวย้ำว่า เวียดนามควรต้องปรับปรุงระบบการคมนาคมขนส่งและระบบโครงสร้างพื้นฐานอื่นๆ เพื่อรักษาระดับการเติบโตและการลงทุนในประเทศต่อไป
"หากกรุงฮานอยไม่พัฒนาคุณภาพระบบขนส่งมวลชน เมืองจะค่อยๆหยุดนิ่งและคงที่ไปนานอีก 10 ปี" นายโรเบิร์ต วัลโควิค ผู้เชี่ยวชาญด้านการคมนาคมของเอดีบีระบุในแถลงการณ์หัวข้อ "รถไฟใต้ดินคือสิ่งจำเป็นในอนาคตของกรุงฮานอย"
ประชาชนที่อาศัยอยู่ในกรุงฮานอยราว 6 ล้านคน ต่างมีรถจักรยานยนต์เป็นพาหนะ แต่เอดีบี ระบุว่า จำนวนยวดยานที่เพิ่มขึ้นในตอนนี้ ไม่ใช่รถจักรยานยนต์แต่เป็นรถยนต์ เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจของประเทศกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว
รถไฟใต้ดินสายแรกของกรุงฮานอยคาดว่าจะสร้างเสร็จในปี 2558 ที่มีความยาวรวม 12.5 กิโลเมตร และสามารถขนส่งผู้โดยสารได้มากกว่า 150,000 คนในแต่ละวัน โดยจะเชื่อมต่อสถานีรถไฟสถานีหลักของกรุงฮานอยที่อยู่ในเขตฮว่านเกี๊ยมเข้ากับเขตทูเลียมที่กำลังได้รับการพัฒนาให้เป็นศูนย์กลางทางธุรกิจทันสมัยในฝั่งตะวันตกของเมือง
โครงการมูลค่า 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐโครงการนี้ยังได้รับทุนสนับสนุนจากฝรั่งเศสและสหภาพยุโรปด้วย ขณะที่ฝั่งนครโฮจิมินห์ก็กำลังพัฒนาโครงการรถไฟใต้ดินมูลค่า 1,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐอยู่เช่นกันเพื่อบรรเทาปัญหาการจราจรติดขัด โดยเอดีบีได้มอบเงินกูยืมจำนวน 540 ล้านดอลลาร์สหรัฐสำหรับการก่อสร้าง.