xs
xsm
sm
md
lg

เขมรเองก็สงสัย ขังเดี่ยว “วีระ” ลูกเล่น “ฮุนเซน” เบนประเด็นจากชายแดนเวียดนาม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

<bR><FONT color=#000033>เพราะเหตุใด?-- นายวารกิมฮอง (Var Kim Hong) ฝ่ายกัมพูชา (ขวา) นายโห่ซวนเซิน (Ho Xuan Son) ฝ่ายเวียดนาม (ซ้าย) กับ นายเคล้าส์ โปตส์ (Claus Poetzsch) ผู้อำนวยการบริษัท International Business at BlomInfo A/S จากเดนมาร์ก เซ็นสัญญาจัดพิมพ์แผนที่ชายแดน เป็นเหตุการณ์ล่าสุดในการปักปันเขตแดนกัมพูชา-เวียดนาม ที่ยังไม่เคยมีการเปิดเผยรายละเอียดใดๆ ขณะที่กัมพูชาเป็นฝ่ายเสียเปรียบ. (ภาพ: Agence Kampuchean-Press).</FONT>

ASTVผู้จัดการออนไลน์ — ชาวเขมรจำนวนไม่น้อยก็สงสัยเช่นกัน ว่า การไม่ให้ประกันตัว นายวีระ สมความคิด 1 ใน 7 คนไทยที่ถูกจับกุมกรณีเข้าเมืองผิดกฎหมาย ขณะที่อีก 6 คนได้รับอิสรภาพนั้น อาจจะเป็นลูกเล่นของนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ฮุนเซน เพื่อดึงดูดความสนใจของผู้คนออกไปจากเรื่องยุ่งๆ ครั้งล่าสุด เกี่ยวกับการปักปันเขตแดนกับเวียดนามที่กัมพูชาเป็นฝ่ายเสียเปรียบ

วันอังคาร 18 ม.ค.นี้ ศาลอุทธรณ์ในกรุงพนมเปญ ได้กลับคำสั่งศาลชั้นต้นโดยอนุญาตให้ประกันตัวคนไทยที่ถูกจับข้อหาเข้าเมืองผิดกฎหมายเพิ่มอีก 4 คน ด้วยวงเงินคนละ 250 ดอลลาร์เท่านั้น แม้แต่ นางสาวราตรี พิพัฒนาไพบูลย์ ผู้ช่วยของ นายวีระ ที่ต้องข้อหาความมั่นคงด้วยกันก็ได้รับอนุญาต

จำเลยทั้งหมดจะไปอยู่ภายใต้การดูแลของสถานทูตไทย วิทยุเสียงอเมริกาภาคภาษาเขมรรายงานเรื่องนี้ในเว็บไซต์

วีโอเอ-ขะแมร์ กล่าวอีกว่า นายจูนซุนเลง (Choun Sunleng) ผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ไม่ยอมให้เหตุผล เพราะเหตุใดจึงต้องควบคุมตัวนายวีระต่อไป..

“เมื่อมีเรื่องยุ่งยากที่ชายแดนตะวันออก ฮุนเซน ก็จะทำเรื่องใหญ่ๆ ขึ้นที่ชายแดนทิศตะวันตกแบบที่เขาถนัด” ผู้อ่านข่าวคนหนึ่งแสดงความคิดเห็นต่อสถานการณ์ ลงในบล็อกข่าวภาษาเขมร “แคมโบเดียเอ็กซ์เพรสนิวส์”

“กรณีของ วีระ สมความคิด จะไม่จบลงง่ายๆ จนกว่าเรื่องร้ายๆ ที่ชายแดนเวียดนามจะผ่านพ้นไป” อีกคนหนึ่งแสดงความเห็นทำนองเดียวกัน

เรื่องมีอยู่ว่า วันที่ 14 ม.ค.2554 กัมพูชากับเวียดนามได้ร่วมกันเซ็นสัญญาว่าจ้างบริษัทจากเดนมาร์กให้จัดพิมพ์แผนที่ชายแดนของสองประเทศ ในวงเงิน 1,528,333 ดอลลาร์ นายวารกิมฮอง (Var Kim Hong) รัฐมนตรีอาวุโส หัวหน้าคณะกรรมาธิการชายแดนแห่งชาติ กับนายโห่ซวนเซิน (Ho Xuan Son) รมช.ต่างประเทศเวียดนาม ร่มกันผู้เซ็นสัญญาดังกล่าวกับบริษัทต่างชาติ

ตามรายงานของสำนักข่าวเอเคพี (Agence Kampuchean-Press) ซึ่งเป็นของกระทรวงแถลงข่าว นายกิมฮอง กล่าวว่า แผนที่ชายแดนจะแล้วเสร็จและส่งมอบในปี 2555 คือ ปีหน้า

การจัดทำแผนที่ชายแดนเป็นข่าวตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว การเซ็นสัญญาเมื่อวันศุกร์ ก็มีกำหนดมาก่อนจะเกิดกรณีอื้อฉาวที่ชายแดนไทยครั้งล่าสุดในวันที่ 30 ธ.ค.2553 จึงทำให้ชาวกัมพูชาจำนวนไม่น้อย เชื่อว่า คนไทยทั้ง 7 ตกเป็นเหยื่ออันโอชะของรัฐบาลฮุนเซน

คำถามที่พรรคฝ่ายค้าน ผู้อ่านข่าวผ่านเว็บไซต์ต่างๆ และชาวเขมรในต่างแดนถามกันมากที่สุดในขณะนี้ ก็คือ เพราะเหตุใดกัมพูชาจึงยอมทำตามเวียดนาม จัดพิมพ์แผนที่ชายแดน ทั้งๆ ที่มีแผนที่อยู่แล้วหลายฉบับ ที่ยืนยันเขตน่านน้ำแดนดินของกัมพูชา โดยได้รับการรับรองจากสหประชาชาติ?

รัฐบาลฮุนเซนไม่เคยมีคำตอบสำหรับคำถามเหล่านี้ และไม่เคยให้ความกระจ่างแก่สาธารณชนว่ามีเหตุผลอะไร

(โปรดเลื่อนลงเพื่ออ่านต่อ)

ย้อนเหตุการณ์ 14 ธ.ค.2553


หลายเดือนมานี้ พรรคฝ่ายค้านได้ออกสำรวจหลักปักปันเขตแดนหลายครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน จ.กัมปงจาม (Kampong Cham) ซึ่งได้พบว่า มีอยู่ 4-5 หลักทางด้านนั้น ปักลึกเข้าไปในดินแดนของกัมพูชา

ช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา นายรงชุน (Rong Chhun) ผู้นำสหภาพแรงงานใหญ่ที่สุดในประเทศ ได้นำคณะไปสำรวจหลักเขตแดนอีกครั้ง และพบว่า เกือบทั้งหมดไม่ได้อยู่ในแนวเดิม แต่ถูกถอนย้าย ปักลึกเข้าไปในดินแดนกัมพูชา

แต่เหตุการณ์อันน่าระทึกใจที่สุด เกิดขึ้นในวันที่ 14 ธ.ค.2553 เมื่อ ส.ส.พรรคสมรังสี 18 คน เดินทางไปสำรวจหลักเขตแดนที่ 108, 109 และ 103 ในท้องที่ อ.เหมะหมต (Memot) จ.กัมปงจาม และ ถูกทหารเวียดนาม 12 คนอาวุธครบมือ ข้ามแดนเข้าไปตั้งด่านสกัด ในขณะที่หลักเขตแดน 103 ซึ่งเป็นหลักสุดท้าย อยู่ห่างออกไปหลายร้อยเมตร

เหตุการณ์เกิดขึ้นต่อหน้าตำรวจและทหารกัมพูชาที่ประจำท้องถิ่น ทุกคนไม่ติดอาวุธและได้แต่มองดู

แต่เรื่องนี้ก็เป็นข่าวให้ตื่นเต้นทางหน้าหนังสือพิมพ์ในกรุงพนมเปญอยู่เพียงวันเดียว ก็เงียบหาย นายกิมฮอง ออกให้สัมภาษณ์ว่า “พวกพรรคฝ่ายค้าน” หาเรื่องเอง โดยล่วงล้ำเข้าไปในแดนเวียดนาม

กรณีดังกล่าว ทหารเวียดนามล้ำแดนเข้าไปขัดขวางแต่ไม่ได้จับกุม ส.ส.เขมร ซึ่่งต่างไปจาก ส.ส.ไทย คือ นายพนิช วิกิตเศรษฐ์ ที่ถูกจับกุมพร้อมกับคนอื่นๆ ในดินแดนที่ยังมีข้อโต้แย้งอยู่ว่าเป็นของฝ่ายใดกันแน่

เมื่อมองไปยังปีข้างหน้า ปี 2555 กำลังจะมีการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา และเลือกตั้งในระดับคอมมูน ตำบล อำเภอ ซึ่งพรรคประชาชนกัมพูชาเป็นใหญ่ตลอดมา เนื่องจากได้ฝังหัวคะแนนในพื้นที่มาก่อนใครๆ ตั้งแต่หลังยุคเขมรแดง การส่งมอบแผนที่ชายแดนในปีเดียวกันนี้ จะส่งผลต่อคะแนนนิยมของฮุนเซนหรือไม่ เป็นประเด็นน่าสนใจ.. “วีระ” ช่วย “ฮุนเซน” หน่อยได้ไหม?

ปี 2551 ฮุนเซน ชนะเลือกตั้งท่วมทัน หลังจากหักดิบกับไทยนำประสาทพระวิหารขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกเพียงฝ่ายเดียวจนสำเร็จ เสียงปรบมมือด้วยสะใจ กึกก้องทั่วแผ่นดิน

(โปรดเลื่อนลงเพื่ออ่านต่อ)
<bR><FONT color=#000033>แผ่นดินของใคร?-- เหตุการณ์วันที่ 14 ธ.ค.2553 นายเจียม จันนี สส.พรรคสัม รังสี กำลังเจรจากับทหารเวียดนามที่ข้ามเข้าไปตั้งแนวสกัดในดินแดนกัมพูชา ขอเข้าไปยังหลักเขตแดน 103 ที่อยู่ห่างออกไป 100 เมตร แต่ทหารเวียดนามไม่อนุญาต รัฐมนตรีผู้รับผิดชอบในกรุงพนมเปญ กล่าวว่า สส.ฝ่ายค้านรนหาเรื่องล่วงล้ำเข้าไปในดินแดนเวียดนาม. (ภาพ: Phnom Penh Post).</FONT>
2
<bR><FONT color=#000033>แผ่นดินของใคร?-- เหตุการณ์วันที่ 14 ธ.ค.2553 นายเจียม จันนี สส.พรรคสัม รังสี กำลังเจรจากับทหารเวียดนามที่ข้ามเข้าไปตั้งแนวสกัดในดินแดนกัมพูชา ขอเข้าไปยังหลักเขตแดน 103 ที่อยู่ห่างออกไป 100 เมตร แต่ทหารเวียดนามไม่อนุญาต รัฐมนตรีผู้รับผิดชอบในกรุงพนมเปญ กล่าวว่า สส.ฝ่ายค้านรนหาเรื่องล่วงล้ำเข้าไปในดินแดนเวียดนาม. (ภาพ: Phnom Penh Post).</FONT>
3

แต่เลือกตั้งใหญ่ในปี 2556 ไม่แน่ เพราะว่าสองปีมานี้ทุกหัวระแหงในกัมพูชา เต็มไปด้วยการขับไล่บังคับราษฎรออกจากที่อาศัยทำกินโดยทุนสัมปทานต่างชาติ และอีกหลายกรณีโดยเจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งฮุบที่ดินเพื่อนำไปเก็งกำไร กลุ่มสิทธิมนุษยชนในต่างแดนออกประณามรัฐบาลฮุนเซนในเรื่องนี้มาหลายรอบ

แม้ในเมืองหลวง ราษฎรนับพันที่อาศัยอยู่รอบๆ บึงใหญ่แห่งหนึ่งยังคงประท้วงติดต่อกันมาหลายเดือน ขณะที่บริษัทเจ้าของสัมปทานพื้นที่ ขับไล่ด้วยการพ่นโคลนลงถมที่ ทุกคนทราบดีว่าบริษัทดังกล่าวเป็นของกลุ่มทุนที่ใกล้ชิดกับผู้นำ

“วีระ” ช่วย “ฮุนเซน” หน่อยจะได้ไหม?

สำหรับผู้นำกัมพูชา อะไรก็ไม่เจ็บเท่ากับถูกตราหน้าเป็นคน “ขายชาติ” เพราะนั่นเป็นชะนักปักหลังมากว่า 30 ปีแล้ว และเสียงนี้ดังมากขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงไม่กี่ปีมานี้

หลังการฉลองครบรอบปีที่ 32 การ (นำเอากองทัพเวียดนามเข้าไป) โค่นรัฐบาลเขมรแดงกลุ่มโปลโป้ต เอียงสารี เคียวสมพร ในวันที่ 7 ม.ค.เสียงก่น “คนขายชาติ” ยิ่งแรงขึ้น จนกระทั่งฮุนเซน ประกาศอย่างโกรธแค้นสัปดาห์ที่แล้ว จะดำเนินคดี ส.ส.ฝ่ายค้านทุกคนฐานดูหมิ่นดูแคลน

ฮุนเซน เคยถูกประณาม “ขายชาติ” มาในหลายโอกาส ปี่ก่อนโน้นได้เคยประกาศจะจับทุกคนที่กล่าวหาว่าเป็น “ขี้ข้าเวียดนาม” (Vietnam's Lackey)

และทุกครั้งที่สถานการณ์ทางชายแดนตะวันออกรุมเร้า ผู้นำกัมพูชาก็จะหาโอกาสพลิกสถานการณ์ที่ชายแดนตะวันตกให้เป็นประโยชน์ ซึ่งมักจะได้ผลเสมอ

รัฐบาลฮุนเซน เคยตกที่นั่งลำบากครั้งหนึ่งในเดือน ต.ค.2552 เมื่อ นายสัมรังสี นำคณะไปสำรวจชายแดน จ.สวายเรียง (Svay Rieng) ซึ่งราษฎรร้องเรียนว่า ฝ่ายเวียดนามนำหลักเขตแดนเข้าไปปักในที่นา และนายรังสี ได้พบว่าเป็นเรื่องจริงทุกประการ จึงนำความจริงออกเผยแพร่

(โปรดเลื่อนลงเพื่ออ่านต่อ)
<bR><FONT color=#000033>เรื่องขำๆ ที่ไม่ขันโดย อึงบุนเฮียง การ์ตูนนิสต์มือหนึ่ง ซึ่งจำลองภาพนายรงชุน (Rong Chhun) แห่งสำนักงานสิทธิมนุษยชนในพนมเปญ ไปสำรวจชายแดนตะวันออก แล้วพบว่าทุกอย่างเปลี่ยนไป จึงตั้งคำถามว่า หลักเขตแดนพวกนั้น มันเดินได้หรือไง?. </FONT>
4

รัฐบาลโดยนายกิมฮองเจ้าเก่าทำอยู่เพียงอย่างเดียว คือ ปฏิเสธทุกเรื่อง แต่เวลาต่อมามีการถอนหลักปักปันเขตแดนเหล่านั้นออกจากพื้นที่ปัญหา โดยไม่มีคำอธิบายใดๆ

ส่วนอีกทางหนึ่งรัฐบาลฮุนเซนตอบโต้ด้วยการฟ้องร้องผู้นำฝ่ายค้านในข้อหาทำลายทรัพย์สินของส่วนรวม และต่อมาเพิ่มข้อหา “สร้างเอกสารเท็จ” นายรังสี ถูกศาลตัดสินจำคุก 2 ปี ทำให้ไม่สามารถเดินทางกลับประเทศ ซึ่งทุกคนทราบดีว่านี่คือการปิดปาก

ปี 2552 ต่อกับปี 2553 ชาวกัมพูชาลืมเรื่องหลักเขตแดนไปสนิทเมื่อ ฮุนเซน ประกาศแต่งตั้งนักโทษชายทักษิณ ชินวัตร ขึ้นเป็นที่ปรึกษาและทำสงครามการทูตกับไทย ตีเกราะเคาะไม้เรื่อยมา จนถึงการจับกุมวิศวกรชาวไทยในพนมเปญ และสร้างไคลแม็กซ์โดยให้นักโทษชายบินเข้าพนมเปญไปรับตัวหลังการอภัยโทษ

ฮุนเซน เล่นเกมต่อมาด้วยการเดินทางไปก่นด่านายกรัฐมนตรีไทย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่ชายแดนด้านประสาทตาเมือน สั่งกระทรวงการต่างประเทศไปถอดคำด่าเป็นภาษาอังกฤษเผยแพร่ไปทั่วโลก ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนทำให้เรื่องยุ่งๆ ที่ชายแดนเวียดนามผ่านพ้นไปด้วยดี

ฮุนเซน ทราบดีว่า ไทยจะไม่ตอบโต้อะไรทั้งสิ้น แต่สถานการณ์อาจจะเป็นตรงกันข้าม หากไปแข็งขืนเวียดนาม พวกโปลโป้ต หน้าโง่นั่นไง โดนมาแล้ว..

แล้วในวันหนึ่ง จู่ๆ ฮุนเซน ก็ลืมเรื่อง “ความเลว” ของ นายอภิสิทธิ์ ที่เคยก่นด่าเอาไว้จนหมดสิ้น และ หักมุมหันมาคืนดีแบบแนบสนิท ชนิดพูดอะไรก็ดีไปหมด เจอกันในต่างประเทศบางครั้งคุยกันเพียง 15 นาทีก็รู้ใจ และ ประกาศว่าความสัมพันธ์ได้กลับคืนสู่ปกติแล้ว

ย้อนมองอดีตแล้วมองไปข้างหน้า “วีระ สมความคิด” อาจจะต้องกินข้าวกับต้มผักบุ้งไปอีกนาน นานเท่าที่ฮุนเซนจะเห็นสมควร...

วีระ.. ทนๆ หน่อยน่า.. ช่วยฮุนเซนหน่อย อภิสิทธิ์ไม่ว่าอะไรหรอก!?
กำลังโหลดความคิดเห็น