ASTVผู้จัดการออนไลน์ -- ศาลกรุงพนมเปญกำลังพิจารณาตั้งข้อหาเพิ่มเติมอีก 1 ข้อหาแก่ นายวีระ สมความคิด กับ นางราตรี ไทยพัฒนไทยบูรณ์ (สะกดตามคำอ่านภาษาเขมร) ฐานร่วมกัน “รวบรวมข้อมูลที่อาจจะสร้างความเสียหายต่อความมั่นคงของกัมพูชา” ซึ่่งหากศาลชี้ว่ากระทำความผิดดังกล่าว บุคคลทั้งสองก็อาจะต้องโทษจำคุกตั้งแต่ 5-10 ปี สำนักข่าวซินหัวรายงานเรื่องนี้ โดยอ้างการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ศาลที่ไม่ประสงค์จะให้เอ่ยชื่อ
บุคคลทั้งสองถูกจับกุมพร้อมกับคนไทยอื่นๆ อีก 5 คน ซึ่งรวมทั้ง นายพนิช วิกิตเศรษฐ์ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ขณะเดินทางไปสำรวจพื้นที่ชายแดนด้าน อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว กับ อ.โอจรอว์ (O Chrov) จ.บ้านใต้มีชัย (Banteay Meanchey) ของกัมพูชา เมื่อวันที่ 29 ธ.ค.2553
นายกรัฐมนตรีไทย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กล่าวก่อนหน้านี้ ว่า นายพนิช ได้รับมอบหมายให้ลงพื้นที่เพื่อหาข้อเท็จจริงหลังได้รับร้องเรียนจากราษฎรเกี่ยวกับเอกสารสิทธิที่ดินทำกิน ศาลกัมพูชาชี้ว่าทั้งหมดล่วงล้ำเข้าไปในดินแดนกัมพูชาและถูกตั้งข้อหาเข้าเมืองผิดกฎหมาย และล่วงล้ำเข้าไปในเขตฐานทัพของกัมพูชาอย่างผิดกฎหมาย
แต่ขณะเดียวกัน ในไทยก็ยังมีข้อถกเถียงเกี่ยวกับพื้นที่ที่คนไทยทั้ง 7 ถูกจับกุม กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้นำหลักฐานเป็นแผนที่ซึ่งในช่วงสงครามในกัมพูชา สำนักข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) กับหน่วยปฏิบัติการช่วยเหลือกู้ภัยชายแดน (UNBRO) ของสหประชาชาติขอใช้พื้นที่บริเวณดังกล่าวเพื่อตั้งเป็นค่ายผู้อพยพ ซึ่งทั้งหมดเป็นพื้นที่ของไทย
อย่างไรก็ตาม ตามรายงานของสื่อในกัมพูชานายพนิชได้ให้การสารภาพต่อศาลกรุงพนมเปญว่า ได้ล่วงล้ำดินแดนกัมพูชา “โดยไม่ได้ตั้งใจ” ซึ่งสอดคล้องกับคำให้สัมภาษณ์ของนายกรัฐมนตรีของไทยก่อนหน้านี้
นายกรัฐมนตรีกัมพูชาฮุนเซน กล่าวในวันจันทร์นี้ ว่า ไม่มีใครสามารถเข้าไปแทรกแซงกรณีนี้ได้ ซึ่งปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของศาล นายกอยเกือง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศกัมพูชาก็กล่าวเช่นเดียวกันในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
โฆษกของกัมพูชาระบุดังกล่าว หลังจาก ส.ส.พรรคเพื่อไทยคนหนึ่งกล่าวอ้างว่า นักโทษชายทักษิณ ชินวัตร ซึ่งหลบหนีโทษจำคุก 2 ปี และ ระหกระเหินอยู่ในต่างแดน พร้อมที่จะให้การช่วยเหลือแก่คนไทยทั้ง 7 หากต้องการ