สะเทือนขวัญคอมมิวนิสต์ เจออีกรายฆ่าตัดหัว ตัดแขน หั่นขา

ASTVผู้จัดการออนไลน์ -- ชาวเวียดนามช็อกอีกครั้งหนึ่งกับฆาตกรรมโหด ตัดหัวและแขน ซึ่งเป็นกรณีแรกของปี 2554 และ เป็นเพียงกรณีที่ 2 ในช่วงกว่า 10 ปีมานี้ หลังจากเมื่อปีที่แล้วศาลได้พิพากษาประหารชีวิตหนุ่มวัย 27 ปีคนหนึ่ง ที่สังหารแฟนสาวอย่างโหดเหี้ยมแบบเดียวกัน

ถึงแม้ว่าคดีสามัญฆาตกรรมจะตกเป็นข่าวอยู่เป็นระยะๆ แต่ฆาตกรรมอันโหดเหี้ยมเช่นนี้ เป็นเรื่องไม่ปกติสำหรับชาวเวียดนาม ที่พรรคคอมมิวนิสต์กับรัฐบาลประกาศอยู่เสมอว่า สังคมที่นั่นมีความมั่นคงปลอดภัยที่สุด

ราษฎรในพื้นที่ห่างไกลแห่งหนึ่งของนครหายฟ่อง (Haiphong) พบเหยื่อรายล่าสุดเมื่อวันศุกร์ 7 ม.ค.ในสภาพไร้ศีรษะ แขนทั้งสองข้างถูกตัดออก และขาข้างซ้ายมีแผลบาดลึกแต่ยังไม่ขาด เหยื่อเป็นหญิงอายุประมาณ 40 ปี สวมชั้นในเพียง 2 ชิ้น เชื่อว่า เสียชีวิตแล้วประมาณ 2 วัน หนังสือพิมพ์เตื่อยแจ๋ (Tuoi Tre) รายงาน

เหตุเกิดในเขต ต.กว๋านจู (Quang Tru) อ.เกียนอาน (Kien An) ซึ่งเป็นบ้านเกิดของนายเหวียนดึ๊กเหงีย (Nguyen Duc Ngia) ฆาตกรฆ่าหั่นคอแฟนสาวในอพาร์ตเมนต์กรุงฮานอยเมื่อปีที่แล้ว

ศพของเหยื่อฆาตกรรมสยองขวัญ ถูกห่อผ้านำขึ้นไปซุกไว้ที่ชั้นบนสุดของของอพาร์ตเมนต์ที่พัก แต่ศีรษะของเธอถูกนำไปทิ้งลงแม่น้ำใน จ.กว๋างนีง (Quang Ninh) ทางตะวันออกของนครหายฟ่อง ห่างจากเมืองหลวงกว่า 100 กิโลเมตร

ตำรวจกรุงฮานอยใช้เวลานานหลายเดือนในการสอบสวนสืบสวนรวบรวมหลักฐาน เพื่อคลี่คลายคดีฆาตกรรมอำพรางของนายเหงีย ก่อนที่กระทรวงความมั่นคงภายในจะสั่งฟ้องในข้อหาฆ่าชิงทรัพย์ แม้เจ้าตัวจะให้การว่า ลงมือสังหารเพราะความหึงหวงก็ตาม

คดีฆาตกรรมอำพรางรายแรกได้รับความสนใจจากชาวเวียดนามทั้งประเทศ สื่อของทางการเกาะติดการสอบสวนสืบสวนอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่พบศพเหยื่อในเดือน พ.ค.2553 จนถึงวันที่ศาลชั้นต้นพิพากษาประหารชวิตจำเลยในเดือน ส.ค.และ ศาลอุทธรณ์ยืนคำพิพากษาของศาลชั้่นต้่นในเดือน พ.ย.อันเป็นการสิ้นสุดคดี

ชาวเวียดนามเห็นเป็นเสียงเดียวกันว่า นายเหงีย “อำมหิตที่สุด” และเป็น “ฆาตกรเลือดเย็นที่สุด” ซึ่งสะท้อนให้เห็น “การล้มป่วยทางจิตใจ” ของเยาวชนของชาติ หนังสือพิมพ์เตื่อยแจ๋ (Tuoi Tre) กล่าว

ปีที่แล้วรัฐสภาเวียดนามได้อนุมัติผ่านกฎหมายฉบับหนึ่งให้เปลี่ยนวิธีประหารชีวิตนักโทษด้วยการฉีดสารพิษแทนการประหารด้วยวิธียิงเป้า

หากการยื่นขออภัยโทษต่อประธานาธิบดีเวียดนามในปีนี้ไม่ประสบความสำเร็จ นายเหงียก็อาจจะเป็นนักโทษประหารคนแรกที่สังเวยกฎหมายใหม่